น้องพาพี่ชายโดนรุมซ้อม เบี้ยวเงินยาบ้าแจ้งความเพิ่ม ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เผย คลิปถูกถ่ายส่งให้คนปฏิเสธร่วมแก๊ง เพื่อข่มขู่ ยัน ตร. จะสอบอย่างตรงไปตรงมา ...

หลังจากมีคลิปถูกปล่อยออกมาในโลกโซเชียล เป็นเหตุการณ์กลุ่มชายฉกรรจ์ทำร้ายร่างกายชายวัยรุ่น 2 คน ในเวลากลางคืน ที่ระบุว่าเป็นการทวงหนี้ค่ายาบ้าจากเครือข่ายของคนสีกากีในพื้นที่ จ.อุดรธานี และนายอนุชา หรือแบงก์ ดีน้อย อายุ 22 ปี ชายวัยรุ่น 1 ใน 2 คนที่ถูกทำร้ายพร้อมพี่ชาย เข้าร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.วิทยา เหลาทอง รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี และแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี เมื่อบ่ายวันที่ 15 มิถุนายน เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยในชีวิต เกรงถูกแก๊งสีกากีนอกรีตอุ้ม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 มิถุนายน นายวิทยา หรือบอย ดีน้อย อายุ 28 ปี ชาว อ.เมือง อุดรธานี เดินทางมาพร้อมกับนายอนุชา หรือแบงก์ ดีน้อย อายุ 22 ปี และญาติ เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี หลังจากเมื่อวานนี้นายอนุชา น้องชาย เข้าแจ้งความเพียงคนเดียว โดยตำรวจได้ให้ทั้งสองคนให้ข้อมูลร่วมกันในช่วงแรก ก่อนที่จะแยกสอบปากคำนายวิทยา พี่ชาย เพียงคนเดียว โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนร่วมรับฟัง

นายอนุชา เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ได้เข้าแจ้งความและถูกสอบปากคำไปบางส่วนแล้ว ตนเองให้ข้อมูลได้ไม่หมด เพราะคนที่รู้เรื่องดีที่สุดคือนายวิทยา พี่ชาย เพราะนายวิทยาเป็นคนติดต่อกับกลุ่มคนที่รุมทำร้าย เพื่อทำงานส่งยาบ้าให้กับกลุ่มนี้ ตนเป็นน้องจึงไปช่วยงาน วันนี้ พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้ให้ตำรวจไปตามนายวิทยา มาให้ข้อมูลทั้งหมด พร้อมทั้งแจ้งความเรื่องถูกทำร้ายเพิ่มเติมด้วย ซึ่งวันนี้หลังจากสอบปากคำเสร็จ ทางตำรวจจะพาไปพื้นที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม และจะไปตามชายที่ชื่อว่า “หก” ที่ระบุว่าเป็น 1 ใน 3 ที่ทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นชาวบ้าน และตำรวจกับตำรวจนอกเครื่องแบบ เพื่อดำเนินคดีและสอบสวนหาผู้บงการอยู่เบื้องหลังการรุมทำร้ายดังกล่าว

...

ด้าน พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี หลังทราบเรื่อง ได้สั่งการให้ตำรวจเชิญนายวิทยา ซึ่งถูกทำร้าย มาสอบสวนปากคำ เพื่อเป็นหลักฐานในการจับกุมผู้กระทำผิดทั้งหมดมาดำเนินคดีข้อหา “ทำร้ายร่างกาย” และสืบสวนหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งทราบว่าคลิปดังกล่าว ถูกส่งไปให้ผู้ที่ปฏิเสธเข้าร่วมแก๊ง และถูกจับกุมดำเนินคดี เป็นการข่มขู่และเยาะเย้ย ซึ่งได้สั่งพนักงานสอบสวน ทำอย่างตรงไปตรงมา

ส่วนผู้เสียหายต้องให้ปากคำอย่างชัดเจน ไม่อ้อมค้อม พร้อมกับสั่งให้ชุดสืบสวนไปสืบสวนจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี และสาวให้ถึงผู้อยู่เบื้องหลัง จะเป็นใครก็ตามจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา โดยว่ากันไปตามกฎหมาย