ตำรวจปัตตานีจับผู้ต้องหากับยึดปืนของกลาง 17 กระบอก ผู้การฯ เผยคืบหน้าคดีระเบิดตู้เอทีเอ็มจับได้แล้ว 9 ราย และยิงรองประธานอิสลามฯ เสียชีวิต ยังคงตามสืบทุกปมไม่ตัดประเด็นใดออก...

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 มิ.ย. ที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน นำอาวุธปืน จำนวน 17 กระบอก กระสุน 429 นัด ซึ่งมีผู้ต้องหา จำนวน 17 ราย ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน มาแถลงข่าวหลังจากได้มีการเปิดยุทธการเพื่อกวาดล้างอาชญากรรม สิ่งผิดกฎหมาย ตามแผนพิทักษ์ภัยให้ประชาชน 2561 ภายใต้ชื่อ ยุทธการขุดรากถอนโคนอาชญากรรมทำบ้านเมืองน่าอยู่ ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. ถึง 11 มิ.ย. 2561 โดยอาวุธปืนทั้ง 17 กระบอก ในจำนวนนี้สามารถยึดอาวุธสงคราม เอ็ม 16 ได้ 1 กระบอก ปืนทั้งหมดทางเจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจพิสูจน์ทราบอีกครั้งว่าทั้ง 17 กระบอกเคยนำไปก่อเหตุใดมาบ้างโดยเฉพาะในคดีความมั่นคงในพื้นที่ นอกจากนี้ผลการกวาดล้างสามารถจับกุมผู้ต้องหาในความผิดเงินกู้นอกระบบ จำนวน 8 คดี ผู้ต้องหา 15 ราย 

...

พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยคดีความคืบหน้าระเบิด 10 จุดตู้เอทีเอ็ม เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ล่าสุดสามารถควบคุมผู้ต้องหาได้ 9 คน ซึ่งรับสารภาพและเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลอื่นอีกหลายคนที่มีประวัติเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันในเขต อ.เมืองปัตตานี ถือเป็นคดีที่มีความคืบหน้า

ผบก.ภ.จ.ปัตตานี กล่าวต่อว่า ส่วนคดียิง นายอดุลย์เดช เจ๊ะแน อายุ 54 ปี ตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ปัตตานี และยังเป็นผู้จัดการโรงเรียนลาลอวิทยา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา และล่าสุดได้เสียชีวิตแล้วเมื่อกลางดึกวันที่ 10 มิ.ย. นั้น ตนได้รับรายงานความคืบหน้ามาตลอดทุกประเด็นยังไม่ได้ทิ้งประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ซึ่งพฤติการณ์คนร้ายลักษณะติดตามประกบยิง ส่วนของกลางที่ได้ขณะนี้ได้ส่งตรวจเพื่อหาความเชื่อมโยงทางคดี

พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ขณะที่ประเด็นของการสังหาร มีสาเหตุทั้งเรื่องส่วนตัวที่กำลังตรวจสอบว่ามีเรื่องภายในหรือไม่ หรือเรื่องการขัดแย้งทั้งเรื่องการเมืองหรือการบริหารงานในตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการนั้นกำลังติดตาม ด้วยเพราะผู้เสียชีวิตเปนบุคคลสำคัญจึงถือเป็นคดีสำคัญที่ต้องสืบสวนเอาความจริงออกมา ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องความมั่นคงหรือไม่นั้น เราไม่ได้ตัดทิ้งแต่ขอให้ชุดสืบสวนลงไปทำงานหาเบาะแสอีกครั้ง