รอง ผบ.ตร.เผย พบแหล่งทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ 12 บริษัท 26 โรงงาน ชี้แทบทุกแห่งทำบัญชีไม่ถูกต้อง มีการฉ้อฉลภาษี จ่อจับนอมินีและนักบัญชี ร่วมขบวนการ...
จากกรณี เจ้าหน้าที่ตร. ร่วมกับตัวแทนกระทรวงอุตสาหกรรม ลุยตรวจค้นโรงงานคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ และโรงงานผลิตโฟม ใช้ถ่านหินเป็นพลังงานหลายพื้นที่จนพบมีความผิดและทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 มิ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า จากการตรวจสอบบริษัทที่นำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ยังไม่พบหน่วยงานใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย เเต่เกิดจากกลุ่มบุคคลใช้ช่องว่างของกฎหมาย ซึ่งกรมศุลกากรเองก็ไม่สามารถตรวจตู้คอนเทนเนอร์ได้ทุกตู้ จึงมีการใช้ช่องว่างนี้เล็ดลอดเข้ามา ขณะนี้ทางอธิบดีกรมศุลกากรก็ได้มีการประสานในเรื่องของการตรวจ ผลิตภัณฑ์ขยะเม็ดพลาสติก และขยะอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดจะมีการเอกซเรย์ทั้งหมด ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งชื่อบริษัทธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ขยะ หรือเศษพลาสติกให้กรมศุลกากรได้ทำการตรวจสอบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพื่อไม่ให้มีการสำเเดงเท็จเเละนำขยะเข้ามา
รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในส่วนโรงงานอุตสาหกรรม ทางตำรวจได้ร่วมกับอธิบดีโรงงานอุตสาหกรรม เเละกรมควบคุมมลพิษ ในการตรวจสอบโรงงานถึงมาตรฐานเเละมลพิษทางน้ำ อากาศ เเละฝุ่นละอองให้ครบถ้วน รวมถึงรอบนอกโรงงาน ว่ามีการปล่อยน้ำเสียลงสู่สาธารณะหรือควันพิษ กรมควบคุมมลพิษจะเก็บตัวอย่างมาดำเนินคดีทางอาญาเเละทางเเพ่งต่อไป และทางกรมสรรพากรได้ให้ข้อมูลว่าทั้ง 12 บริษัท 26 โรงงาน ไม่พบว่ามีบริษัทไหนที่มีบัญชีภาษีที่ถูกต้อง เเต่จะจ้างคนไทยที่เป็นนักบัญชีเเต่งรายได้ว่าขาดทุน มีเพียงไม่กี่บริษัทที่จ่าย 90,000 บาทต่อปี จึงเป็นการฉ้อฉลเรื่องภาษีด้วย เมื่อขายสินค้าได้จะนำเข้าบัญชีส่วนตัวของชาวต่างชาติเเละฟอกเงินโอนเงินไปต่างชาติ และคนไทยที่มีหุ้น ส่วนใหญ่ล้วนเป็นนอมีนี โดยบริษัทพวกนี้จะขนย้ายเครื่องจักรมาจากประเทศที่ไม่อนุญาตให้นำเข้าขยะพลาสติกย้ายมายังประเทศไทย ซึ่งเครื่องจักรที่ย้ายมาจะเป็นเครื่องจักรเก่าไม่ได้มาตรฐาน ไม่สามารถควบคุมมลพิษได้
...
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า ส่วนการดำเนินคดีกับนอมีนีที่ถือหุ้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบทางคดี เเละจะมีการดำเนินคดีกับนักบัญชีที่ไปช่วยทำการเเต่งบัญชีฉ้อฉลภาษีจนทำให้เกิดความเสียหายบ่อนทำลายประเทศ นอกจากนี้ยังพบว่ามีอีกหลายแห่งที่ขยะพิษเหล่านั้นถูกนำไปทิ้งที่ห่างไกลความเจริญ ประชาชนไม่มีปากเสียง เรื่องนี้จึงต้องฝากผู้นำชุมชนเเละการปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ให้ปล่อยปละละเลย ให้มีการนำขยะไปไว้จนเกิดความเดือดร้อนเเก่ประชาชนต่อไป.