เผย "ลูกชาย" ทนเห็น "พี่สาว" โดน "พ่อเลี้ยง" ด่าเรื่องหวงของไม่ไหว เลยออกปากไล่ "ถ้าอยู่ไม่ได้ก็หนีไป" หวังสงบศึก แต่พ่อเลี้ยงไม่พอใจ คว้าปืนแก๊ปซัลโวกระสุนเจาะหน้าอกไปตายที่รพ. ผู้เป็นแม่พร้อมให้อภัยเสมอ รอวันออกจากคุกมาอยู่ด้วยกัน

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 6 มิถุนายน พ.ต.ท.ศุภภาษ จิตรรัตน์ สว.สอบสวน สภ.กุดจับ จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจากศูนย์กู้ชีพ รพ.กุดจับ มีผู้บาดเจ็บถูกยิง เข้ารักษาตัวที่ห้องฉุกเฉิน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ปรัชญา สนิทวงศ์ชัย รอง ผกก.ป.สภ.กุดจับ พ.ต.ท.มนต์ชัย ไชยกุล สวป.สภ.กุดจับ นำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบศพนายยุทธศักดิ์ ทองเรือนเหมือน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 9 บ้านน้อยลำภู ต.ขอนยูง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนลูกปรายบริเวณหน้าอกด้านซ้ายหลายนัด นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงคนไข้

สอบสวนนางประเพ็ญศรี โคตรแก้วโกสม อายุ 48 ปี แม่ผู้ตายให้การว่า ลูกชายถูกนายอาโจ ขวัญทอง อายุ 41 ปี ชาว ต.บ่อรัง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ พ่อเลี้ยงใช้อาวุธปืนแก๊ปยิง เนื่องจากขณะที่นายอาโจ กำลังทะเลาะมีปากเสียงกันกับลูกสาวเรื่องที่ เจ้าตัวขี่รถจักรยานยนต์ของลูกไปดื่มเหล้า ส่วนผู้ตายเกิดโมโหตะโกนไล่พ่อเลี้ยงออกจากบ้าน เมื่อยิงลูกแล้วนายอาโจได้นำลูกซึ่งได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ก่อนจะขับรถกลับไปบ้าน กระทั่ง พ.ต.ท.ปรัชญา สนิทวงศ์ชัย รอง ผกก.ป.สภ.กุดจับ ได้นำกำลังตำรวจตามไปจับกุมนายอาโจ พร้อมอาวุธปืนแก๊ปของกลาง ควบคุมตัวมาโรงพัก

...

ต่อมาเวลา 09.00 น. วันนี้ (7 มิ.ย.) พ.ต.อ.วิทยา ทองเหลา รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เดินทางมา สภ.กุดจับ เพื่อสอบสวนปากคำนายอาโจ พ่อเลี้ยงปืนโหด ซึ่งให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพรับจ้าง และทำงานก่อสร้าง ได้อยู่กินฉันสามีภรรยากับนางประเพ็ญศรี โคตรแก้วโกสม ซึ่งเป็นแม่ม่ายลูกติด 2 คน คนโตเป็นผู้หญิง คนเล็กเป็นผู้ชาย และได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านนางประเพ็ญศรี ซึ่งตนจะมีปัญหาทะเลาะกับลูกเลี้ยงที่เป็นผู้หญิงประจำ ส่วนผู้ชายไม่เคยทะเลาะกัน และยังพูดคุยกันดีอีกด้วย

ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปหาปลากับญาติ และได้ดื่มเหล้า 3 ขวด จนมีอาการมึนเมา เมื่อกลับมาถึงบ้านได้ถูกลูกสาวต่อว่าเรื่องขี่รถจักรยานยนต์ไปไม่บอก ทำให้ตนโมโหเพราะตนเป็นคนซื้อรถให้ลูกสาว ประกอบกับความเมาทำให้ตนมีปากเสียงกันกับลูกรุนแรง ตนจึงพูดออกมาว่า “คงอยู่ด้วยกันไม่ได้” ผู้ตายซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ได้พูดสวนมาว่า “ถ้าอยู่ไม่ได้ก็หนีไป” ทำให้ตนโกรธที่ถูกไล่ อีกทั้งผู้ตายถือท่อนไม้จะเข้ามาทำร้าย ตนจึงเดินเข้าไปเอาปืนแก๊ปในห้องนอนออกมายิงใส่ผู้ตาย 1 นัด จนผู้ตายทรุดลงนอนกับพื้น ตนได้สติจึงรีบอุ้มผู้ตายขึ้นรถไปส่งโรงพยาบาล และขับรถกลับมาตั้งสติที่บ้าน และตำรวจได้ตามมาจับกุม “ตนรู้สึกเสียใจมาก ไม่ได้ตั้งใจ แต่เพราะความเมาทำให้ตนขาดสติ”

ด้าน นางประเพ็ญศรี โคตรแก้วโกสม อายุ 48 ปี แม่ผู้ตาย และภรรยาผู้ต้องหา เล่าว่า หลังเป็นม่ายหย่ากับสามี ตนเลี้ยงลูก 2 คน ต่อมาได้พบรักกับนายอาโจ หนุ่มรุ่นน้องขณะไปทำงานก่อสร้างที่ กทม. และได้ตกลงอยู่กินฉันสามีภรรยา และกลับมาอยู่ที่บ้าน จ.อุดรธานี ได้ 6 ปี นายอาโจมักจะมีเรื่องทะเลาะกับลูกสาวประจำ ส่วนลูกชายไม่เคยทะเลาะและพูดคุยกันดี นายอาโจจะเป็นคนขยันทำมาหากิน แต่ข้อเสียคือเวลาดื่มเหล้าและเมานิสัยจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ชอบโวยวาย ชวนทะเลาะ และอวดตัวเองว่ามีปืน ทำให้ทะเลาะกับตนและลูกสาวประจำ แต่ไม่รุนแรงเหมือนครั้งนี้ เพราะความเมาและนิสัยใจร้อน ทำให้ต้องเกิดเรื่องเศร้าขึ้นในครอบครัว

“ถึงแม้ว่านายอาโจจะต้องติดคุกเพราะฆ่าลูกของตนด้วยความตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม ก็ให้ติดคุกรับการกระทำที่ทำไว้ แต่เมื่อนายอาโจพ้นโทษออกมา ตนก็จะกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม ถ้าญาติพี่น้องรับไม่ได้ ก็จะออกไปเช่าบ้านอยู่ที่อื่น” ซึ่งนายอาโจ ได้ยินภรรยาพูด ถึงกับซึ้งใจร้องไห้เข้ามากราบขอโทษ และสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไปต่อนางประเพ็ญศรีทั้งน้ำตา

ขณะที่ พ.ต.อ.วิทยา ทองเหลา รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า นายอาโจ ชอบประดิษฐ์ปืนขึ้นมาใช้เอง เมื่อเมาสุรา ก็จะนำปืนมาโชว์เพื่อน จนถูกตำรวจ จ.สมุทรปราการ จับข้อหา “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ติดคุก 9 เดือน และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน นายอาโจ ประดิษฐ์ปืนแก๊ปเอาไว้ใช้ยิงเอง เมื่อเมาก็จะเอาปืนออกมาโชว์ และยิงข่มขู่ชาวบ้าน กระทั่งมีเรื่องทะเลาะกับลูกเลี้ยง ภรรยาห้ามก็ไม่ฟัง ด้วยความเมาได้นำปืนมายิงลูกเลี้ยงจนตาย พอสำนึกได้ก็มาร้องไห้เสียใจ ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และมีอาวุธปืน (แก๊ป) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.