เจ้าของร้านเสื้อผ้าแบรนด์นอกที่พิษณุโลก แจ้ง ตร.ดำเนินคดี สาวแสบทรงโต วัย 28 ปี หลังลักเอาเสื้อผ้าภายในร้านไป 13 ชุด วงจรปิดจับได้ตามตัวให้มาชดใช้ค่าเสียหายกว่า 2 แสนก็เบี้ยวไม่มา
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 พ.ค. ร.ต.อ.นิพนธ์ สุทธหลวง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งจาก น.ส.เพ็ญสินี สุมัชยาเกยูร อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 149/48 หมู่ 8 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เจ้าของร้าน Clothes Up By May ตั้งอยู่เลขที่ 73/2 ถ.พญาลิไท ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก เป็นร้านจำหน่ายเสื้อผ้าแบรนด์เนมของต่างประเทศว่า ขอให้ดำเนินคดีกับ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุประมาณ 28 ปี ให้ถึงที่สุด เนื่องจากเมื่อวันที่ 4 พ.ค.2561 เวลาประมาณ 17.00-18.00 น. น.ส.เอ ได้เข้ามาลักเอาเสื้อผ้าภายในร้านของตนไปจำนวน 13 ตัว แล้วหลบหนีไป เมื่อตรวจกล้องวงจรปิดที่ร้านจึงทราบเหตุการณ์ จึงมาแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับ น.ส.เอ ดังกล่าว หลังรับแจ้งพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ออกหมายเรียก น.ส.เอ มาสอบสวนปากคำเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
...
ด้าน น.ส.เพ็ญสินี เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุเปิดร้านขายเสื้อผ้าตามปกติ และมีลูกค้าเข้ามาหาเลือกซื้อเสื้อผ้าพร้อมกับ น.ส.เอ ซึ่งทราบชื่อภายหลัง โดย น.ส.เอ ได้เดินเลือกเสื้อผ้าแล้วเข้าไปในห้องลองเสื้อ แต่พอออกมาก็ไม่มีเสื้อผ้าของทางร้านออกมาด้วย ก่อนที่จะเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว ตนผิดสังเกตจึงเปิดกล้องวงจรปิดที่ติดไว้จำนวน 2 ตัวภายในร้านดูก็พบว่า น.ส.เอ ได้เลือกหยิบเสื้อพาดแขนไว้จำนวนหลายตัวก่อนเดินเข้าไปภายในห้องลองเสื้อแค่ไม่กี่นาที ก่อนที่เดินออกมาแล้วออกจากร้านไป คาดว่า น.ส.เอ จะนำเสื้อผ้าที่ขโมยไปใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายข้างสีแดงที่ติดตัวมา ซึ่งตนตรวจสอบแล้วเสื้อได้หายไปทั้งหมด 13 ตัว มูลค่าประมาณ 13,000 บาท
น.ส.เพ็ญสินี เปิดเผยต่อว่า ตนจำได้ว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.เอ ก็เคยเข้ามาขโมยเสื้อผ้าไปแล้วครั้งหนึ่ง พอตนจับได้ก็คืนให้ ตอนนั้นไม่อยากเอาเรื่องเพราะสงสาร แต่ครั้งนี้คงย่ามใจกลับมาขโมยอีกครั้ง ถึงแม้ทางร้านจะติดป้ายเตือนแล้วว่า ขโมยสินค้าปรับ 20 เท่า น.ส.เอ ก็ยังไม่เกรงกลัวกล้าลงมือก่อเหตุ ตนจึงนำคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เพื่อให้เจ้าของร้านคนอื่นให้ระวังคนร้ายรายนี้ให้ดี ลงได้เพียงแค่วันเดียวก็มีแม่ค้าขายเสื้อผ้ารวมแล้วประมาณ 10 ราย ติดต่อมาให้เบาะแสและยืนยันว่าเป็นคนเดียวกันที่ก่อเหตุลักทรัพย์ที่ร้านไป โดย น.ส.เอ จะนำเสื้อผ้าที่ขโมยไปขายให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นเพื่อนกันอีกทอดหนึ่ง
เจ้าของร้าน Clothes Up By May หลังจากมีการแชร์ต่อในเฟซบุ๊ก น.ส.เอ ได้ติดต่อผ่านทางเฟซบุ๊กของตนมา เพื่อขอชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด ซึ่งหากรวมค่าปรับที่ทางร้านตั้งไว้ก็จะเป็นเงินจำนวน 206,000 บาท แต่เมื่อมีการพบปะหน้าตากัน น.ส.เอ ได้ขอต่อรองค่าเสียหายเหลือ 90,000 บาท และมีการนัดหมายให้เข้ามาชดใช้ค่าเสียหายภายในวันนี้ แต่ น.ส.เอ ก็บ่ายเบี่ยงไม่ได้เดินทางมาตามนัดแต่อย่างใด ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีกับ น.ส.เอ ให้ถึงที่สุดดังกล่าว
น.ส.เพ็ญสินี กล่าวด้วยว่า ขอฝากเตือนภัยร้านค้าขายเสื้อผ้า ให้ระมัดระวังมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาในรูปแบบต่างๆ ถึงแม้จะแต่งกายดูดีก็ยังไว้ใจไม่ได้ เราในฐานะเจ้าของร้านจะเฝ้าดูลูกค้าตลอดก็ไม่เหมาะดูเป็นการไม่ให้เกียรติลูกค้า วิธีเดียวที่ดีก็คือติดกล้องวงจรปิดเอาไว้เพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์ภายในร้าน เพื่อจะได้มีหลักฐานไว้ในกรณีที่มีเหตุการณ์เช่นเดียวกันกับร้านของตน.