ศาลแพ่งสั่งจำหน่ายคดี “สุเทพ เทือกสุบรรณ” กับพวกรวม 39 คน ร่วมกันขวางเลือกตั้งปี 57 ชั่วคราว ชี้ต้องรอฟังผลคดีอาญา ด้านเจ้าตัวย้ำเจตนาดีเพื่อชาติ มั่นใจสู้คดีได้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 พ.ค.61 ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดชี้สองสถาน ในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เป็นโจทก์ ฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) และพวก รวม 39 คน ที่ตกเป็นจำเลย จากกรณีเมื่อปี 2557 จำเลยกับพวกทั้งหมดได้ร่วมขัดขวางการจัดการเลือกตั้งของ กกต. จนทำให้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ เรียกค่าเสียหาย 3,000 ล้านบาท
โดยในวันนี้ นายสุเทพ และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำหลัก ได้เดินทางมาศาล พร้อมระบุว่า เบื้องต้นศาลได้ทำการรวมการพิจารณาของจำเลยอีกหนึ่งคนที่ถูกฟ้องในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ฐานขัดขวางการเลือกตั้งมารวมกับสำนวนหลักที่กรุงเทพมหานคร ทำให้คดีนี้มีจำเลยทั้งสิ้น 39 คน
ส่วนการพิจารณาคดีในวันนี้ ศาลได้ชี้สองสถาน เพื่อกำหนดประเด็นการต่อสู้ให้มีความครอบคลุม อาทิ มีการฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ คดีขาดอายุความหรือไม่ การฟ้องของโจทก์ใช้สิทธิ์โดยสุจริตและมีอำนาจฟ้องคดีนี้หรือไม่ โจทก์ได้รับความเสียหายเพียงใด และจำเลยทั้งหมดต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่เพียงใด ซึ่งในเบื้องต้นฝ่ายโจทก์ได้เตรียมพยานขึ้นเบิกความต่อศาล จำนวน 126 ปาก ส่วนฝั่งตนเองซึ่งเป็นจำเลยได้เตรียมพยานไว้ประมาณ 50 ปาก
...
นอกจากนี้ศาลยังได้สอบถามในเรื่องคดีความที่ตนถูกฟ้องร้องอยู่ในขณะนี้ ซึ่งมีทั้ง คดีกบฎ อั้งยี่ ซ่องโจร มั่วสุม และชุมนุมขัดขวางการเลือกตั้ง
ศาลพิเคราะห์แล้วจึงเห็นควรให้มีการจำหน่ายคดีแพ่งออกไปชั่วคราว เพื่อรอฟังผลของคดีอาญาที่มีคดีกบฎเป็นหลัก และศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐาน (คดีกบฎ) ในวันที่ 25 มิถุนายน 2561 เวลา 09.00 น.
นายสุเทพ ยืนยันว่า เรื่องทั้งหมดต้องดูที่เจตนาเป็นสำคัญ ตนเอง กลุ่ม กปปส. และประชาชนทั้งหมดได้ดำเนินการต่อสู้ตามสิทธิพลเมืองด้วยความระมัดระวัง จึงมองว่าสิ่งที่กระทำไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้จะต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งเอกสารและบุคคลมาสู้คดี และมั่นใจว่าที่ผ่านมากลุ่มตนปฏิบัติด้วยความบริสุทธิ์ใจ จึงมั่นใจว่าจะสามารถสู้คดีนี้ได้อย่างแน่นอน.