ตำรวจตามรวบมือยิงพลเมืองดี 2 รายที่บาดเจ็บจากการช่วยหญิงสาวถูกทำร้ายหน้าผับดังเมืองหาดใหญ่ โดยคนร้ายสารภาพลงมือเพราะหึงหวงแฟนสาวมาเที่ยวกับทอม รอจนผับเลิก จะล็อกคอทำร้ายสั่งสอน...
จากกรณีเกิดเหตุทะเลาะวิวาทและยิงกันขึ้นที่หน้าสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านถนนจุติอนุสรณ์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เมื่อช่วงตี 2 ครึ่งที่ผ่านมา โดยมีผู้ชายที่นั่งคร่อมรถจักรยานยนต์และไม่สวมเสื้อใช้ปืนจ่อไปที่ชายที่นั่งอยู่บนถนนและหญิงที่นอนกองอยู่บนถนน 1 นัดเสียงดังสนั่น พร้อมกับพูดข่มขู่ด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่จะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผู้กำกับการ สภ.หาดใหญ่ และ พ.ต.ท.ธนวัต เส้งสุย รองผู้กำกับการ สภ.หาดใหญ่ และ พ.ต.ต.คเณศ พงษ์เพิ่มทรัพย์ สารวัตรสอบสวน ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบว่ามีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คน คือ นายเจษฎา พรหมรักษ์ อายุ 21 ปี และนายธัญวิทย์ เจตนา อายุ 21 ปี ที่เป็นเพื่อนกัน และถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม.เข้าที่ด้านข้างลำตัวคนละ 1 นัดเหมือนกัน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ และมีผู้หญิงถูกทำร้ายบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 1 คน
...
ส่วนคนยิงหลังจากสืบสวนพยานแวดล้อมก็รู้ตัวและสามารถติดตามจับกุมตัวได้ทันที ทราบชื่อ นายกวีรัตน์ หรือไอซ์ จารุพันธ์ อายุ 22 ปีชาว จ.นราธิวาส โดยตามไปจับตัวได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอย 1/1 ถนนราษฎร์ยินดี เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ พร้อมของกลางอาวุธปืน 9 มม. กระสุน 13 นัด และปลอกกระสุน 3 นัด และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสแมช สีฟ้า-ขาว ทะเบียน 1 กช 1910 สงขลา ที่ขับก่อเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายกวีรัตน์ คนยิงได้ตามไปหาแฟนสาวที่มาเที่ยวที่ผับแห่งนี้เพราะหึงหวงที่มากับสาวทอมและพยายามตีตัวออกห่าง กระทั่งผับเลิกและแฟนสาวออกมา นายกวีรัตน์ จึงเข้าไปล็อกคอและทำร้ายร่างกาย เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ นายเจษฎา และนายธัญวิทย์ ขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี และเห็นผู้หญิงถูกทำร้ายร่างกายจึงพยายามลงมาช่วย และถามว่าทำร้ายผู้หญิงทำไม แต่กลับถูก นายกวีรัตน์ พูดสวนมาว่าอย่ามายุ่ง และชักอาวุธปืนยิงใส่ 3 นัดได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน
เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหา นายกวีรัตน์ 4 ข้อหาคือ พยายามฆ่า, พาอาวุธปืนติดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำร้ายร่างกายผู้อื่น.