ตำรวจกองปราบจับมือดีเอสไอ ล่อซื้อประเวณี หลังพลเมืองดีแจ้งเบาะแสชายอเมริกัน รับจัดเซ็กซ์ทัวร์เด็กเมียนมา รวบพร้อมแฟนเป็นมาม่าซัง พร้อมเด็กสาวอีก 2 คน
เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 61 พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิระศรีสุกัญญา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.4 บก.ป. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมกันจับกุม นายเคนเนท วิกโก้ อัลเบอทเซน อายุ 66 ปี ชาวอเมริกัน น.ส.ลวิน ลวิน เมว อายุ 35 ปี ชาวเมียนมา น.ส.มา เพ ซอน ทูน อายุ 25 ปี ชาวเมียนมา น.ส.แดง (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาวเมียนมา พร้อมของกลางเงินสด 11,000 บาท รถยนต์โตโยต้าทะเบียน กม 5109 เชียงราย
พ.ต.อ.อรุณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตำรวจกองปราบปรามและดีเอสไอได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่า มีชาวต่างชาติลงโฆษณาจัดเซ็กซ์ทัวร์ในประเทศเมียนมา โฆษณาในเว็บไซต์และเฟซบุ๊กว่าสามารถจัดทัวร์พานักท่องเที่ยวไปทัวร์เซ็กซ์เด็กในประเทศเมียนมาได้ โดยให้เดินทางมาท่องเที่ยวใน จ.เชียงราย แล้วจะพาเข้าไปเที่ยวมีเซ็กซ์กับเด็กในประเทศเมียนมา คิดค่าหัวนักท่องเที่ยวคนละ 6,500 บาท
เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนล่อซื้อจับกุม โดยกลุ่มผู้ต้องหานัดหมายให้มาพบที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เมื่อถึงเวลานัด นายเคน ขับรถยนต์ของกลางมาที่สนามบินรับสายลับไป เจ้าหน้าที่จึงสะกดรอยติดตามจนถึงบริเวณด่านชายแดนแม่สาย จากนั้น นายเคน โทรศัพท์ติดต่อมาม่าซัง คือ น.ส.ลวิน นำเด็กมาส่งให้ที่บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง โดยสายลับได้จ่ายเงินให้กับ นายเคน เป็นค่าจัดหาเด็กให้ 3,000 บาท จากนั้น น.ส.ลวิน นำเด็กสาวชาวเมียนมา 2 คน คือผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมอีก 2 คน มาส่งมอบให้ที่ห้องของโรงแรม เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจึงเข้าจับกุม แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันค้าประเวณีโดยผิดกฎหมาย
...
เบื้องต้นจากการสอบสวน นายเคน ให้การรับสารภาพว่า เข้ามาอยู่ประเทศไทยได้ประมาณ 10 ปีแล้ว พักอาศัยอยู่ใน จ.เชียงราย ตลอด ครั้งแรกจัดทำธุรกิจทัวร์ผจญภัยธรรมชาติให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทย แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงได้หันมาจัดเซ็กซ์ทัวร์ที่ประเทศเมียนมาแทน โดยได้ น.ส.ลวิน แฟนสาว เป็นคนคอยจัดการหาเด็กมาให้ หลังสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย รวมทั้งจะได้สืบสวนขยายผลเครือข่ายผู้ร่วมกระทำความผิด และประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศเมียนมา เพื่อเข้าจับกุมเครือข่ายของ นางลวิน ในประเทศเมียนมา และประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเพิกถอนวีซ่าของ นายเคน เพื่อผลักดันออกนอกประเทศต่อไป เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นภัยอันตรายต่อสังคมและศีลธรรมอันดีของประเทศไทย.
(ภาพจากตำรวจกองปราบปราม)