ชุดพยัคฆ์ไพรและตำรวจ ปทส.บุกจับไม้ชิงชันยัดในตู้คอนเทนเนอร์บนรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เตรียมส่งประเทศเพื่อนบ้านได้คาลานจอด มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท...

เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2561 พ.ต.อ.อนรรฆ ประสงค์สุข ผกก 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไฟร กรมป่าไม้ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจ สภ บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ นำกำลังเข้าตรวจค้นรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บรรทุกตู้คอนเทอร์เนอร์ ยี่ห้อสแกนเนีย หมายเลขทะเบียน หัวพ่วง 70-1343 ชัยภูมิ ท้ายพ่วง หมายเลขทะเบียน 75-2529 กทม ที่จอดอยู่ภายในลานเก็บตู้คอนเทอร์เนอร์ ที่กำลังจะส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้าน ใกล้เคียงหมู่บ้านนิรันดร์ 10 หมู่ที่ 2 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จากการตรวจสอบภายในตู้คอนเทอร์เนอร์ พบไม้ชิงชัน เป็นไม้หวงห้าม จำนวน 165 ท่อน ประมาณ 60 คิว มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท เจ้าหน้าจึงตรวจยึดไม้ทั้งหมดไว้ตรวจสอบ 

...

จากการสอบถามคนดูแลลานจอด กล่าวว่า คนขับรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวได้รู้จักกันเพียงชื่อสมาน โดยได้นำรถบรรทุกมาจอดรวมกับรถบรรทุกคัน อื่นในลานจอด โดยเช่าที่จอดรถรวมกันทั้งหมด 7 คัน โดยที่สิ้นเดือนถึงนำเงินมาช่วยกันจ่ายค่าเช่าที่จอดรถ จำนวนเงิน 18,000 บาท โดยคนขับรถคันดังกล่าวมีที่พักที่อื่นแค่นำรถมาจอดไว้ที่ลานจอดพัก เพื่อเตรียมนำตู้คอนเทอร์เนอร์ที่บรรจุไม้ ส่งท่าเรือไปประเทศเพื่อนบ้าน แต่มาถูกตรวจค้นเสียก่อน และตอนนี้ตนเองก็ไม่สามารถติดต่อคนขับรถคันดังกล่าวได้

นายชีวะภาพ หน้าหัวชุดพยัคฆ์ไพร กล่าวว่า ไม้ลอตนี้เป็นไม้จากทางภาคเหนือรอยต่อจังหวัดน่านกับแพร่ โดยมีการติดตามจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการปรับปรุงวิธีการตรวจค้น โดยครั้งนี้เป็นเทคโนโลยีพิเศษในการติดตามมาจนมาจับกุมครั้งนี้ โดยมีกลุ่มทุนชาวจีน โดยการส่งออกทางท่าเรือต่างๆเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะยึดไม้ทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ราชบุรี 3 (พุยาง) อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี จากการตรวจสอบประวัติของผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวนี้ เจ้าหน้าที่พบว่ามีการลับลอบขนไม้หวงห้ามมาแล้วหลายครั้ง แต่ที่ยังไม่สามารถจับกุมได้ เพราะว่าคนขับได้ไหวตัวทันมาตลอด จนมาตรวจค้นได้ครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมคนขับรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าว และ ขยายผลถึงเจ้าของรถและขบวนการลับลอบขนไม้หวงห้าม และจะดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการอายัดทรัพย์ต่อไป.