คืบหน้า 8 ศพ อัยการขอดูคำตัดสินของศาลฉบับเต็มว่าจะมีการอุทธรณ์หรือไม่ ขณะที่ปัญหาที่ดินของชาวบ้านที่จำนองบังฟัต ชาวบ้านต้องหาเงินมาไถ่ถอนจากธนาคารเอง...

ภายหลังจากที่ศาลจังหวัดกระบี่ ได้ตัดสินพิพากษาคดีฆ่า 8 ศพ ครอบครัวของนายวรยุทธ สังหลัง อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ซึ่งมีจำเลย 8 คน นำโดยนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล อายุ 41 ปี ซึ่งศาลได้ตัดสินประหารชีวิต 6 คน และอีก 2 คน ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่มีส่วนร่วมรู้เห็นจำคุก 1 ปี 9 เดือน และ 12 เดือนไปเมื่อวานนี้ โดยมี พล.ต.อ.จักทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เดินทางมารับฟังคำพิพากษาในคดีดังกล่าวด้วย ซึ่งหลังศาลตัดสินผออกมา ก็ทำให้ญาติๆ รวมทั้งผู้รอดชีวิตต่างพอใจกับผลตัดสินดังกล่าว

วันนี้ นายพิเชษฐ์ เชาว์กิจค้า อัยการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ภายหลังจากศาลได้ตัดสินเมื่อวานนี้ และผลออกมาให้ประหารชีวิต 6 คน อีก 2 คน จำคุก 1 ปี 9 เดือน และ 12 เดือนนั้น ในคดีดังกล่าวทางอัยการจะรอคัดคำตัดสินของศาลที่เป็นลายลักษณ์อักษรว่าเป็นเช่นไรศาลให้เหตุผลอย่างไรก่อนว่าจะดำเนินการอุทธรณ์หรือไม่สำหรับกรณีของ 2 จำเลยที่ตัดสินจำคุก โดยจะคัดคำพิพากษา จากนั้นก็จะเสนอไปยังอัยการศาลสูง และอธิบดีว่าจะมีการให้อุทธรณ์ใดๆ เพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีการอุทธรณ์เพิ่มเติม เพราะเป็นการพิจารณาของอธิบดีศาลสูงภาค 8 อีกครั้งหนึ่ง

...

ขณะที่ปัญหาที่ดินที่ชาวบ้านนำไปจำนองกับนายซูริก์ฟัต หรือบังฟัต ซึ่งนำมาซึ่งการสังหารครอบครัวผู้ใหญ่บ้านจากการสอบถามไปยังนิติกร สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกระบี่แจ้งว่า กรณีดังกล่าวแยกออกเป็น 2 ประเด็น คือ กรณีของพ่อตาผู้ใหญ่บ้านที่นำที่ดินไปจำนอง 2 แปลง กับนายซูริก์ฟัตแล้วเมื่อจ่ายเงินหมดแต่ไม่ได้โฉนดคืน ขณะนี้เรื่องอยู่ในขั้นตอนของศาลในการพิจารณาคดี ส่วนอีก 8 แปลง ของชาวบ้านที่นายซูริก์ฟัตนำไปจำนองไว้กับธนาคารพบว่า ชาวบ้านได้นำไปจำนองขายฝากไว้นั้น

ในส่วนนี้ได้มีการเจรจากับนายซูริก์ฟัต จำเลยในคดีฆ่า และทางธนาคารได้ข้อสรุปว่า ให้ชาวบ้านนำเงินไปไถ่ถอนจากธนาคารได้เลย แต่ทางภาครัฐคงไม่สามารถหาเงินไปช่วยเหลือได้ เพราะชาวบ้านได้ไปจำนอง แต่ให้ไถ่ถอนโดยคิดดอกเบี้ยในอัตราปกติแทน ซึ่งทราบว่าชาวบ้านเองก็ยังไม่มีเงิน ซึ่งแต่ละรายจำนองไว้ตั้งแต่ 2-5 แสนบาท.