ผู้การกองปราบ เผย สำนวนคดีหวย 30 ล้าน ครูปรีชา-ลุงจรูญคืบหน้าทั้ง 3 สำนวนไม่เกิน มี.ค.นี้ส่งอัยการได้ ขณะที่นายแผนถูกหมายเรียกครั้งที่ 2 แล้วยันไปร้องกับที่ไหนก็ไม่มีผล ยันไม่มีคนตามประกบ...

จากกรณีที่ นายฐนุกูล เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ นายแผน พยานฝั่งครูปรีชา ใคร่ครวญ ผู้ต้องหาคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท เดินทางมายื่นหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้กระทรวงยุติธรรม มีคำสั่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI รับคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านเป็นคดีพิเศษ

เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2561 พลตำรวจตรี ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า กรณีที่นายแผนจะยื่นคำร้องกับหน่วยงานใดๆ ก็ตามไม่มีผลต่อการทำงานและการสรุปสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม เนื่องจาก ขณะนี้ สำนวนคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ระหว่างหมวดจรูญและครูปรีชามีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยสำนวนคดีถือว่าเกือบสมบูรณ์ 100% โดยในคดีดังกล่าวมีสำนวนที่ต้องส่งให้อัยการทั้งสิ้น 3 สํานวน ขณะนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ 1 สำนวน อีก 2 สำนวนที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบความสมบูรณ์ของพยานหลักฐาน และสำนวนการสอบสวน เหลือเพียงการลงมติจากที่ประชุมคณะทำงานคดีดังกล่าวว่าจะส่งสำนวนทั้งหมดให้อัยการเมื่อไหร่ ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกินในเดือนนี้

ส่วนกรณีที่นายแผนอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามชุดคอมมานโดสะกดรอยติดตาม เพื่อนำหมายเรียกมามอบให้ และติดตามความเคลื่อนไหวนั้น ปฏิเสธว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะคดีนี้ยังไม่มีความจำเป็นใดๆ หรือมีเหตุสำคัญ ที่จะต้องใช้เจ้าหน้าที่ชุดคอมมานโดติดตามนายแผน เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวมีภารกิจที่จำเป็นและสำคัญมากกว่า การติดตามตัวนายแผน ส่วนเรื่องการออกหมายเรียกนายแผนเข้ามารับทราบข้อกล่าวหานั้น ขณะนี้นายแผนได้ถูกออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยในหมายเรียกระบุให้นายแผนเข้ามาพบพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปรามในวันพุธที่ 21 มีนาคมนี้

...

เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม และสภ.พื้นที่ได้นำหมายเรียกไปที่บ้านพักของนายแผนในจังหวัดกาญจนบุรี พบว่ามีคนอยู่ภายในบ้าน 1 คน จึงนำหมายเรียกมอบให้ และแจ้งให้ส่งข้อมูลดังกล่าวต่อให้นายแผนปฏิบัติตามหมายเรียก พร้อมทั้งถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจากกรณีดังกล่าวเห็นได้ว่า เจ้าหน้าที่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องส่งชุดปฏิบัติการพิเศษไปส่งหมายเรียกให้ และตนเองมองว่าการนำหมายเรียกไปมอบให้ในขณะที่ไปร้องเรียนตามที่ต่างๆ เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม

ทั้งนี้ หากนายแผนบริสุทธิ์ใจ ก็ให้ต่อสู้กันตามกระบวนการยุติธรรม และเข้ามาพบกับพนักงานสอบสวน ซึ่งหากมีพยานหลักฐานก็สามารถใช้ต่อสู้ในชั้นศาลได้ ส่วนหลังจากวันที่ 21 มีนาคมนี้ นายแผนไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกเจ้าหน้าที่จะออกหมายจับเลยหรือไม่ ต้องรอหลังกำหนดในหมายเรียกก่อน จึงจะพิจารณาดำเนินการในขั้นต่อไปอีกครั้ง.