“เลขาฯ ป.ป.ท.” เผยพบเค้าลางไอ้โม่งงาบเงินคนไร้ที่พึ่ง ส่ง ปปง.สอบเส้นทางการเงิน คาดอีก 2 สัปดาห์กระชากหน้ากากชัด ขยายผลสอบนิคมสร้างตนเองทั่วประเทศได้งบฯ ช่วยคนไร้ที่พึ่ง 300 ล้าน 15-16 มี.ค.นี้ ดึง กอ.รมน. ลุยสอบนิคมขอนแก่น-อุดรธานี
วันที่ 13 มี.ค. 61 พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยความคืบหน้าในการตรวจสอบการทุจริตเงินของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งล่าสุด ซึ่งปรากฏคลิป ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครพนม ช่วยเจรจาซักซ้อมกับชาวบ้านเพื่อให้ข้อมูลกับ ป.ป.ท. ว่าได้รับเงินช่วยเหลือครบตรงตามตัวเลขที่ระบุไว้ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเชิญตัว ผอ.โรงเรียนคนดังกล่าวมาสอบปากคำ เนื่องจากบอร์ด ป.ป.ท. ยังไม่ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนความผิด เบื้องต้นถือว่าอยู่ในข่ายที่ต้องถูกดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายผู้ถูกกล่าวหามีหลักฐานก็สามารถนำมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ได้ โดยพร้อมจะให้ความเป็นธรรม สำหรับการประชุมบอร์ด ป.ป.ท.ในวันนี้ ยังไม่ได้มีการเสนอให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพิ่มเติมในจังหวัดอื่นๆ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่อยู่ระหว่างการลงพื้นที่ จึงทำให้สรุปรายงานเสนอบอร์ดไม่ทัน
"ส่วนการตรวจสอบปัญหาการทุจริตในศูนย์คุ้มครองคนไร้มี่พึ่ง 44 จังหวัด ขณะนี้เริ่มปรากฏตัวบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องและอยู่เบื้องหลังการทุจริตเงินดังกล่าว จำนวน 97 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลที่อยู่นอกศูนย์คนไร้ที่พึ่ง แต่ยังไม่ขอเปิดเผยกระทรวงต้นสังกัด ขณะนี้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมทางการเงินที่เชื่อมโยงกับศูนย์คนไร้ที่พึ่งบางแห่ง สำหรับบุคคลดังกล่าวยังไม่ระบุได้ชัดว่าเส้นทางการทุจริตเชื่อมโยงกับเงินงบประมาณทั้ง 44 ศูนย์หรือไม่ จากข้อมูลที่พบเชื่อมโยงกับบางศูนย์ฯ คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ ข้อมูลจะปรากฏชัดถึงตัวบุคคลที่รับเงินปลายทางดังกล่าว" พ.ท.กรทิพย์ ระบุ
...
พ.ท.กรทิพย์ กล่าวอีกว่า ป.ป.ท.ยังได้ขยายการตรวจสอบงบประมาณช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่งที่จ่ายให้กับนิคมสร้างตนเองทั่วประเทศ เบื้องต้น พบว่านิคมสร้างตนเองได้รับงบจัดสรรช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่งจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการนิคม ประมาณ 300 ล้านบาท ขณะที่ศูนย์คุ้มครองทั่วประเทศได้รับการจัดสรรงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้พบแนวโน้มส่อจะมีปัญหาการทุจริต ซึ่งระหว่างวันที่ 15-16 มี.ค.นี้ ป.ป.ท.จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในนิคมฯ จ.ขอนแก่น และ จ.อุดรธานี พร้อมทั้งจะหารือกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เพื่อหาแนวทางการทำงาน และตรวจสอบร่วมกัน
พ.ท.กรทิพย์ กล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่พบกับผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูแลความปลอดภัยให้กับ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา ด้วย เนื่องจากขณะนี้นักศึกษาคนดังกล่าวได้ย้ายจาก จ.ขอนแก่น ไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จึงเกรงว่าอาจจะมีมือที่สามอาศัยช่องว่างก่อเหตุทำร้าย น.ส.ปณิดา เพื่อสร้างกระแสได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดผลกระทบต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงต้องเตรียมการไว้ก่อน.