คดีชิงทรัพย์ร้านทองที่อุทัยธานี 
ตำรวจพบภาพกล้องวงจรปิดขณะก่อเหตุและหลบหนี พร้อมมีพยานเห็นเหตุการณ์ยืนยัน เตรียมออกหมายจับสองผัวเมีย ก่อเหตุด้วยกัน

วันที่ 13 มี.ค. ความคืบหน้าคดี 2 คนร้ายบุกชิงทรัพย์ร้านองใน อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ได้ทองรูปพรรณมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ร.ต.อ.จตุพล แก้วการไร่ รอง สว.สส.สภ.หนองฉาง และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่หลังร้านทองแม่ตังกวย (โห่ตงเส็ง) ของ นายจรรยง นพรัตน์ อายุ 55 ปี ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 109 เขตเทศบาลตำบลหนองฉาง เพื่อหาร่องรอยคนร้าย 

ทั้งนี้ ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 170 ซม. สวมเสื้อคลุมและหมวกไหมพรมสีดำปกคลุมใบหน้า ในมือถือชะแลงวิ่งไล่ทุบนายจรรยง เจ้าของร้าน แล้วจับศีรษะโขกลงกับตู้โชว์จนล้มฟุบลง ส่วนคนร้ายอีกคนเป็นหญิงร่างท้วม ส่วนสูงประมาณ 160 ซม. ผมยาวประบ่า สวมหมวกไหมพรมสีน้ำตาลคลุมใบหน้า ถือกระเป๋าสีดำคาดเขียวที่เตรียมมาไว้ใส่ทองที่โยนลงพื้น แล้ววิ่งเข้าไปทำร้าย นางสุภาพร ภรรยา กับนางสาวพัทธมน นพรัตน์ อายุ 23 ปี ลูกสาวเจ้าของร้าน ปิดประตูไม่ให้ออกมาต่อสู้

จากนั้นได้ออกมาช่วยกันกวาดทองจากตู้โชว์เข้ากระเป๋าแล้วหลบหนีไป
 ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบรอยรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่คนร้ายจอดหลังร้านตามคำบอกเล่าของพยานในเหตุการณ์ ก่อนที่จะเข้าไปปล้นร้านทอง โดยนำปูนปลาสเตอร์มาหล่อรอยยางรถของคนร้ายไว้ เพื่อที่จะหาร่องรอยหลักฐานนำไปสู่การจับกุมต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจทีมปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.อุทัยธานี ได้ประชุมกับเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนของ สภ.หนองฉาง และทีมสืบสวนของตำรวจภาค 6 เพื่อเร่งหากล้องวงจรปิดว่าตรงไหนรถที่คนร้ายก่อเหตุวิ่งผ่าน พบว่า รถคันก่อเหตุได้ขับจากเขต อ.บ้านไร่ แวะจอดซื้อเหล็กชะแลง ความยาวประมาณ 60 ซม.จากร้านค้าแห่งหนึ่งในตลาดทุ่งนา ต.เขาบางแกรก อ.หนองฉาง ตำรวจจึงสเกตช์ภาพคนร้ายจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และได้นำภาพสเกตช์ให้เจ้าของร้านขายชะแลงยืนยันว่า คนร้ายขับรถยนต์คันดังกล่าวมาซื้อชะแลงไปก่อเหตุ


...

ส่วนพยานที่เห็นเหตุการณ์มี นายสากล พันธ์เมฆ อายุ 49 ปี รองนายกเทศมนตรีเทศบาลหนองฉาง ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองนั่งอยู่ที่บ้านซึ่งอยู่หลังร้านทองพอดี เห็นรถสีขาวจอดอยู่หลังร้านทองแม่ตังกวย ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะที่หลังร้านทองแม่ตังกวยแห่งนี้เป็นที่จอดรถสาธารณะ ใครก็เข้าไปจอดได้ พอสักพักได้ยินว่ามีคนร้ายปล้นร้านทอง จึงวิ่งออกไปดู เห็นรถคนร้ายคันดังกล่าววิ่งออกไปด้วยความเร็ว แต่ก็ไม่เห็นหน้าคนร้าย เพราะคนร้ายสวมคลุมหัวด้วยหมวกไอ้โม่งทั้งสองคน ส่วนลายมือของคนร้ายที่ปล้นร้านทอง ไม่มีร่องรอยทิ้งไว้ เนื่องจากคนร้ายสวมถุงมือ

รายงานล่าสุดตำรวจรู้ตัวคนร้ายแล้ว เป็นคนในพื้นที่ จ.อุทัยธานี และเป็นสามีภรรยาร่วมกันก่อเหตุ พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ มั่นใจจะได้ตัวมาดำเนินคดีในเร็ววันนี้.