ตร.กองปราบฯ ตามจับผู้ต้องหาตามปฏิทินหมายจับลำดับที่ 16 หนีคดีฆ่าโหดสองผัวเมียเมืองจันท์ ทำเนียนสวมรอยบัตรประชาชนน้องชายตบตาตำรวจ คุ้ยประวัติเคยก่อเหตุข่มขืน เจ้าตัวยังปากแข็ง ให้การภาคเสธ
เมื่อวันที่ 19 ก.พ.61 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. มอบหมายให้ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว พ.ต.ท.เผด็จ งามละม่อม รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.มนูญ แก้วก่ำ สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายณรงค์ วรรณีโส อายุ 37 ปี ชาว อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 91/2556 ลงวันที่ 11 มีนาคม 2556 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเป็นผู้ต้องหาตามปฏิทินหมายจับปี 2561 ลำดับที่ 16 จับกุมได้ภายในซอยเพชรบุรี 31 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2556 ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุใช้ไม้ทุบตีศีรษะและใบหน้า นายวิชัย สร้อยเพชร อายุ 34 ปี และ น.ส.จิราพร สาทร อายุ 23 ปี สองสามีภรรยา จนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณที่พักคนงานกรีดยางพารา บ้านอ่างบุญ หมู่ 9 ต.ขุนช่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ก่อนหลบหนีคดีไปทำงานรับจ้างก่อสร้างตามไซต์งานต่างๆ กระทั่งชุดสืบสวน กก.1 บก.ป. สืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาอาศัยอยู่ที่ซอยเพชรบุรี 31 จึงวางแผนเข้าติดตามจับกุม
ครั้งแรกผู้ต้องหาอ้างตัวว่าชื่อ นายธงชัย วรรณีโส แต่หลังจากตรวจสอบจากบัตรประชาชนพบว่าภาพถ่ายไม่ตรงกัน จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหายอมรับว่าได้นำบัตรประชาชนของน้องชายพกติดตัว เนื่องจากทราบดีว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ จึงใช้บัตรประชาชนของน้องเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

...
สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองได้มานั่งดื่มสุรากับตน แต่ระหว่างนั้นตนกับภรรยาและลูกได้ออกไปข้างนอก เมื่อกลับมาอีกครั้งพบว่าทั้งสองเสียชีวิตแล้ว ด้วยความตกใจจึงหลบหนี
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำให้การ นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหายังมีหมายจับศาลจังหวัดเดชอุดม ที่ จ.84/2547 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญและใช้กำลังประทุษร้าย และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพ ติดตัวอยู่ด้วย ซึ่งข้อหาตามหมายจับดังกล่าว ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ อ้างว่าคบหากับผู้เสียหายเป็นแฟนและเป็นความยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่ได้ข่มขืนหรือทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ชุดจับกุมจึงคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ดำเนินคดีต่อไป.