อดีต ผอ.พศ.สิงห์บุรี พร้อมด้วยพระราชรัตนมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพิชยญาติการาม ตบเท้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีฟอกเงิน เบื้องต้นทั้งคู่ยังปฏิเสธ ไม่ได้ทุจริตเงินทอนวัด
จากกรณีเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. ลุยตรวจสอบคดีทุจริตเงินทอนวัดลอต 2 จำนวน 23 วัด ตั้งแต่ปี 55-60 ความเสียหายประมาณ 140 ล้านบาท ก่อนดำเนินดคีผู้ต้องหา 19 ราย ในความผิด เจ้าพนักงาน มีหน้าที่ยักยอกทรัพย์ ตามมาตรา 147 และเจ้าหน้าที่ละเว้น หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ล่าสุด บก.ปปป.เรียก นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.สำนักพระพุทธศาสนา มารับทราบข้อกล่าวหาร่วมฟอกเงิน หลังเป็นผู้อนุมัติงบประมาณคดีเงินทอนวัด 3 วัด ตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 ก.พ. 61 ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พระราชรัตนมุนี (บุญเทียม มุสุ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพิชยญาติการาม เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันฟอกเงิน ก่อนใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงเดินทางกลับ
ด้าน พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เผยว่า นายณรงค์เดช ชัยเนตร อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสิงห์บุรี และอดีต ผอ.กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา และ พระราชรัตนมุนี มีความเกี่ยวข้องกับการทุจริตฟอกเงินวัด 4 แห่ง 1. วัดพิชยญาติการาม กทม. 2. วัดดาวดึงษาราม กทม. 3. วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร กทม. และ 4. วัดห้วยทรายขาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยการของบประมาณจาก พศ.ทั้งหมด 88 ล้านบาท โดยขอเงินทอนกลับ 38.5 ล้านบาท
"โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 ก.พ. พนักงานสอบสวนเรียก นายณรงค์เดช มารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันฟอกเงิน และช่วงบ่ายเรียก พระราชรัตนมุนี มารับทราบข้อหาเดียวกัน เบื้องต้น ทั้งคู่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น" พล.ต.ต.กมล กล่าว
...