หัวหน้าชุดพญาเสือ พร้อม 'หน.วิเชียร' ให้ปากคำเพิ่มเติม บก.ปทส. กรณีคลิปเสียง ยันของจริงที่เกิดขึ้นหลังการจับกุม ขณะที่ ชัยวัฒน์ เผยพฤติกรรมเปรมชัย พกปืนยาว และเกลือจำนวนมาก ขนาดอยู่ป่าได้นาน 2 เดือน แสดงชัดมีการเตรียมการ ...

ความคืบหน้าในการดำเนินคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย และพวก กรณีพบอาวุธปืน และซากสัตว์ป่าสงวน ภายในแคมป์พักแรม ภายในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี

วันนี้ (8 ก.พ.) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อม นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งเเวดล้อม หรือ บก.ปทส. ถึงประเด็นการตรวจสอบคลิปเสียง และการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อุทยานในช่วงเกิดเหตุ

นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า จากคลิปเสียงการเจรจาระหว่างผู้ต้องหากับเจ้าหน้าที่ ตามที่ได้เผยแพร่ออกไปนั้น ยืนยันว่าเป็นคลิปเสียงจริง ที่เกิดขึ้นหลังการจับกุม ประมาณ 2-3 เสียง แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นเสียงของนายเปรมชัยหรือไม่

ส่วนการขออนุญาตเข้าพื้นที่ของนายเปรมชัยและพวกนั้น พบว่ามีการทำหนังสือขออนุญาตมายังกรมอุทยานฯ แล้ว แต่ยังไม่มีการเซ็นอนุญาต แต่ในทางปฏิบัติ ไม่ถือว่าเป็นความหละหลวมของเจ้าหน้าที่ เพราะโดยปกติ หากมีกลุ่มบุคคลขอเข้าพื้นที่เจ้าหน้าที่จะอำนวยความสะดวกให้อยู่แล้ว ประกอบกับคิดว่านายเปรมชัย เป็นนักธุรกิจ มาท่องเที่ยวตามปกติ ไม่ได้คิดว่ามาล่าสัตว์

โดยพฤติกรรมของนายเปรมชัย ที่มีการพกปืนยาวและเกลือจำนวนมาก แสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่า เป็นการเตรียมการ ซึ่งจำนวนเกลือที่พบสามารถดำรงชีวิตในป่าได้ถึง 2 เดือน ส่วนเรื่องที่หากทนายความจะใช้ข้อกฎหมายอ้างว่า การยิงเพื่อป้องกันตนเอง เนื่องจากเกรงกลัวว่า เสือจะมาทำร้าย ยืนยันว่าโดยปกติแล้วสัตว์ป่าจะเกรงกลัวมนุษย์ หากไม่ทำร้ายมันก่อน ก็ไม่รบกวน

...

รวมถึงกรณีนายเปรมชัยอ้างว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนถือปืน และลงมือล่าสัตว์ แต่เป็นลูกน้องที่เป็นผู้ลงมือ กรณีดังกล่าวถือว่านายเปรมชัยเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และสนับสนุน ให้กระทำความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายเช่นเดียวกัน อีกทั้งอาวุธปืนดังกล่าวทะเบียนเป็นชื่อของนายเปรมชัย

นอกจากนี้ นายชัยวัฒน์ ยังเผยถึงข้อมูลของเสือดำตัวนี้ว่า เป็นเพียงตัวเดียวที่พบในพื้นป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และมักจะเดินออกมาปรากฏให้นักท่องเที่ยวเห็นอยู่เป็นประจำ สำหรับข้อมูลพื้นฐานของการกำเนิดเสือดำ คือกำเนิดมาจากเสือดาวที่มีพันธุกรรมที่ผิดเพี้ยนไป และมักจะอ่อนแอที่สุดจึงทำให้เสือดำรอดจากการดำรงชีวิตในป่ายาก และมักจะแยกตัวออกมาจากฝูงเสือดาว จึงทำให้จำนวนเสือดำน้อย และเป็นเสือที่หายาก

ขณะที่ นายวิเชียร ระบุถึงคลิปเสียงที่เป็นการต่อรองการจับกุมของเจ้าหน้าที่นั้น ว่า ตนยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เสียงที่ปรากฏเป็นของทีมงานนายเปรมชัย หรือตัวนายเปรมชัยเอง เนื่องจากขณะนั้นตนอยู่ระหว่างทำบันทึกจับกุม แต่ยอมรับว่ามีการมาพูดกับตนส่วนตัวในลักษณะคล้ายหยั่งเชิง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นการต่อรองหรือไม่ โดยรายละเอียดคำพูดขอไม่เปิดเผย

ทั้งนี้ มองว่าคลิปดังกล่าวถูกปล่อยออกมาเพื่อเป็นการดิสเครดิตเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ย่อท้อ และจะยังตั้งใจทำงาน พร้อมให้กำลังใจลูกน้องให้เข้มแข็ง

ส่วนในกรณีที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงโพสต์ให้กำลังใจ และชื่นชมการทำงานของนายวิเชียรและทีมงานนั้น ตนรู้สึกปลาบปลื้มใจมาก เหมือนน้ำทิพย์ตกลงมาบนยอดหญ้า ให้ชุ่มชื่นใจ และเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างมาก สร้างกำลังใจให้เจ้าหน้าที่มีแรงจะทำงานต่อไปได้

โดยการสอบสวนของตำรวจในครั้งนี้ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เดินทางมาเป็นประธานการสอบสวน โดยก่อนเริ่มสอบสวน พลตำรวจตรีชยพล ฉัตรชัยเดช รองผู้บัญชาการสันติบาล เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนจะสอบสวนเจ้าหน้าที่อุทยาน ที่เข้าเวรในวัน 2-4 กุมภาพันธ์ และชุดจับกุม เพื่อไล่ลำดับเวลาก่อนจับกุม ขณะจับกุม และหลังจับกุม อย่างละเอียด

และสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เป็นเจ้าของคลิป ถึงเหตุการณ์การเจรจาต่อรองในคลิปเสียงดังกล่าวว่าบุคคลที่ต่อรองคือใคร ทั้งนี้ พบว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดติดสินบนเจ้าพนักงานก็จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง.