ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับตำรวจ 191 นำกำลังจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวมาเลย์ในโรงแรม ซอยสุขุมวิท 33 ของกลางเพียบ พบก่อนหน้า 1 วันเพิ่งโอนเงินให้หุ้นส่วนชาวไต้หวัน ...

วันที่ 5 มกราคม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ.(191) เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ191 และ สน.ทองหล่อ นำกำลังจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวมาเลเซีย ทำหน้าที่กดเงิน พร้อมของกลางสมุดบัญชี บัตรเอทีเอ็ม ที่โรงแรมแห่งหนึ่งภายในซอยสุขุมวิท 33

สืบเนื่องจาก ก่อนหน้าได้มีการจับกุม นายไหล เค็น เฟ่ย ชาวมาเลเซีย ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น กดเงินจากตู้เอทีเอ็มตามจุดต่างๆ ที่ได้มาจากการหลอกลวง เมื่อช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่มของคืนวันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา

จากนั้นได้ทำการสอบสวนขยายผล จนทราบว่า มีผู้ร่วมกระทำผิดอีกหลายราย จึงเฝ้าติดตาม และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 5 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวมาเลเซีย พร้อมของกลางสมุดบัญชีธนาคาร 26 เล่ม, บัตรเอทีเอ็ม 15ใบ, ซิมการ์ด 27 อัน และ เงินสด 22,900 บาท

จากการสอบถามหนึ่งในผู้ต้องหา ทราบว่า ก่อนหน้า 1 วันเพิ่งมีการโอนเงินให้กับ นายเสี่ยว หนิว หนิว และ นายซือ โถว ชาวไต้หวัน ที่เป็นหุ้นส่วนกัน จำนวน 1.2 ล้านบาท โดยตนเองมีหน้าที่รวบรวมเงินที่ได้มาทั้งหมด ก่อนโอนไปปลายทาง

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งผู้ต้องหาเป็นชาวมาเลเซียทั้งหมด ทำหน้าที่คอยโอนเงินไปยังต่างประเทศ ซึ่งในวันนี้จับได้ทั้งหมด 6 คน ส่วนนี้ถือได้เป็นตัวการใหญ่พอสมควร และในส่วนของเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รับรองว่าสถานการณ์ดีขึ้นแน่นอน

ส่วนคนไทยนั้น ทั้งหมดที่เปิดบัญชี จะขออนุมัติต่อศาลขอหมายจับทั้งหมดต้นทางปลายทาง รับโทษเท่ากันคือจำคุกไม่เกิน 5 ปี ซึ่งตามกฎหมายแล้ว ผู้ใดก็ตามเอาบัญชีไปให้ผู้อื่นใช้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ซึ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติ ถ้าคนไทยไม่ร่วมมือ คนต่างชาติทำไม่ได้ ทั้งนี้ การแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วนหมายเลข 1155 ทำให้เจ้าที่มีข้อมูลการทำงานที่เป็นประโยชน์มากขึ้นอีกด้วย.

...