สั่งฟ้องได้ไง! "อดีตอัยการสว่างแดนดิน" จี้อัยการจังหวัดพระโขนง ชี้แจงกรณีทำสำนวนดำเนินคดีไม่เป็นธรรม ปมฝ่าฝืนคำสั่งให้รื้อถอนอาคารห้องเช่า ภายหลังศาลมีคำสั่งเพิกถอนหมายจับ เพราะขาดสำนวนจากตำรวจ

เมื่อวันที่ 23 พ.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุนทร ธรรมเสมอ อดีตอัยการสว่างแดนดิน มอบอำนาจให้นายนวรัตน์ เดวี เดินทางเข้ายื่นหนังสื่อสอบถามต่อนายยุทธการ สุทธิพงษ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 7 พระโขนง กรณีนายสุนทร ถูกอัยการจังหวัดพระโขนง สั่งฟ้องมา 1 ปีเศษ ในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งให้รื้อถอนอาคารห้องพักและสำนักงานให้เช่าของตัวเองที่ตั้งอยู่ภายในซอยลาซาล 12 ย่านบางนา กรุงเทพมหานคร ที่ต้องยุติการก่อสร้างเมื่อปี 2553 จากปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงานและสร้างผิดแบบแปลน จนต่อมาได้ทราบว่าตัวเองกลับถูกออกหมายจับ ฐานฝ่าฝืนคำสั่งให้รื้อถอนอาคาร ทั้งที่อาคารที่สร้างไว้ยังอยู่ในสภาพเดิม จนเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดพระโขนงได้มีคำสั่งให้เพิกถอนหมายจับ โดยมีมูลว่าการดำเนินในคดีไม่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้อง เพราะได้รับทราบจากพนักงานสอบสวนว่าไม่มีผู้ใดแจ้งความ กล่าวโทษ ว่านายสุนทรเป็นผู้กระทำความผิดในข้อหาดังกล่าว และสำเนาคำสั่งให้รื้อถอนอาคารไม่มีลายมือชื่อ และระบุตำแหน่งผู้ออกคำสั่งและอ่านไม่ชัดเจน และยังไม่มีการสรุปสำนวนความเห็นทางคดี และ ผอ.เขตบางนาแจ้งว่า อาคารต้องใช้เป็นวัตถุพยานและยังไม่มีเจ้าหน้าที่ของเขตไปให้ถ้อยคำ

จึงอยากสอบถามกับนายยุทธการ สุทธิพงษ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 7 คนปัจจุบัน เพื่อให้ตรวจสอบสำนวนการทำคดีว่าบกพร่องส่วนใด และชี้แจงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น

โดยทางด้านนายยุทธการ ได้ออกมารับหนังสือด้วยตนเอง พร้อมกล่าวว่า จะทำการตรวจสอบสำนวนทั้งหมดให้ และจะตอบเป็นหนังสือกลับ เพื่อชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่จากการดูสำนวนเบื้องต้น พบว่ามีข้อมูลขาดเพียงคำให้การของนายสุนทร ที่ต้องไปให้การกับพนักงานสอบสวนเพียงเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามจะต้องขอตรวจสอบสำนวนทั้งหมดอีกครั้ง

...

จากกรณีที่เกิดขึ้นทางด้านนายสุนทร ยืนยันว่า ตัวเองไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา และพยายามต่อสู้คดีร้องขอความเป็นธรรมมาโดยตลอด ทั้งที่ตัวเองเคยเป็นถึงอดีตอัยการสว่างแดนดิน กลับถูกดำเนินคดีโดยไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน.