สั่งย้ายด่วน ผกก.สภ.แม่โจ้ เซ่นคดี นศ.แม่โจ้ถูกทำร้ายตาย 1 สาหัส 1 ในร้านเหล้าตรงข้ามโรงพัก ต่างฝ่ายต่างอ้างถูกหาเรื่องก่อน ล่าสุด ตร.คุมตัวเยาวชนอายุ 18 ปี 1 ในผู้ต้องหามาสอบสวน แจ้งข้อหาร่วมฆ่าผู้อื่น...
บ่ายวันที่ 20 พ.ย. ที่ สภ.แม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พนักงานสอบสวนได้คุมตัว 1 ใน 4 ผู้ต้องหาและเป็นพนักงานของ ร้านโอเชียน หมู่ 5 ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับ สภ.แม่โจ้ ที่รุมทำร้ายนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ม.แม่โจ้เชียงใหม่ มาสอบสวนเพิ่มเติม เป็นเยาวชนอายุ 18 ปี และเป็นพนักงานเสริฟ์ของร้าน ให้การว่า สาเหตุที่ทำร้ายนักศึกษา ม.แม่โจ้ จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น เนื่องมาจากถูกกลุ่มนักศึกษามาหาเรื่องดีเจที่เปิดเพลงในร้านของทางร้านก่อน โดยเข้ามาบีบคอและใช้ศอก จึงป้องกันตัวจนเกิดชุลมุนชกต่อยกันในร้านและนอกร้าน
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติม จากร่วมกันทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เพิ่มเป็นทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตต่อไป ส่วนนักศึกษา ม.แม่โจ้ ที่ถูกรุมทำร้ายได้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนครพิงค์ เป็นชาวจังหวัดตรัง ทางญาติจะเดินทางขึ้นมารับศพในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ เรื่องเดิม มีการแชร์กันในโซเชียลว่า เมื่อคืนวันที่ 18 พ.ย. เวลาประมาณ 00.30 น. ได้มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างวัยรุ่น 2 กลุ่มและการ์ดภายในร้านโอเชียน หมู่ 5 ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ อยู่ฝั่งตรงกันข้าม สภ.แม่โจ้ มีนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้จำนวนถึง 7 ราย ถูกรุมทำร้ายร่างกายและมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่งโรงพยาบาลอำเภอสันทราย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่โจ้ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 17 พ.ย. ขณะที่กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ จำนวน 9 คน เป็นนักษาศึกษาชั้นปีที่ 3 ได้เข้ามาเที่ยว ดื่มกินอาหารภายในร้าน ได้มีชายวัยรุ่น 2 คน ได้เข้ามาหาเรื่องที่โต๊ะของนักศึกษา และ 1 ใน 2 ชายวัยรุ่นได้ใช้ขวดเหล้าตีนายเอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี นักศึกษา จึงเกิดชุลมุนกันขึ้น มีการขว้างขวดและแก้วใส่กัน และได้มีกลุ่มการ์ดและพนักงานของร้านได้เข้ามาลากตัวกลุ่มนักศึกษา มีนายเอและนายบี อายุ 20 ปี ออกไปนอกร้าน และมีการเข้ารุมทำร้ายทั้งสอง โดยมีกลุ่มพนักงานและการ์ดของร้านร่วมทำร้าย
...
จากนั้นมีชายวัยรุ่น ชักปืนพกสั้น ตบเข้าหน้าผากด้านซ้ายนักศึกษาคนหนึ่ง ที่ออกมาช่วยห้ามปรามจนเป็นแผลแตก ก่อนที่กระสุนปืนได้ลั่นขึ้น 1 นัด ไปถูกขาของนายสุรศักดิ์ เฟื่องฟู พนักงานของร้านจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บต้องนำส่งโรงพยาบาลถึง 7 คน พนักงานร้าน 2 คน นักศึกษา 5 คน และ 2 ใน 5 นักศึกษา ถูกตีด้วยของแข็งอาการสาหัส 1 คน และทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิต 1 คน
ขณะเดียวกัน พยานเป็นนักศึกษา ม.แม่โจ้ ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า คืนวันเกิดเหตุได้ลงมาเที่ยวร้านดังกล่าว 5 คน และถูกวัยรุ่น 2 คนเข้ามาหาเรื่องที่โต๊ะ มาทราบภายหลังว่าเป็นการ์ดของร้าน

ด้าน พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เดินทางมาเรียกประชุมพนักงานสอบสวน สภ.แม่โจ้ และชี้แจงให้อาจารย์มหาวิทยาลัยแม่โจ้ทราบ ก่อนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า หลังเกิดเหตุทางตำรวจ สภ.แม่โจ้ ได้ติดตามกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้จำนวน 4 คน เป็นการ์ดและพนักงานในร้าน มีนายอดิศักดิ์ ผกา พร้อมอาวุธปืนซีแซด สีดำ ที่ใช้ก่อเหตุ มาดำเนินคดี และอยู่ระหว่างตำรวจติดตามจับอีก 2 คนที่ยังคงหลบหนี ส่วนสาเหตุมาจากการทะเลาะวิวาทกัน โดยฝ่ายพนักงานของร้านเองก็อ้างว่าถูกกลุ่มนักศึกษาเข้ามาหาเรื่องก่อน และถูกขวดตี จึงป้องกัน ก่อนไปแจ้งการ์ดไปนำคู่กรณีออกมา และเกิดการชุลมุนทำร้ายกันขึ้น ขณะนี้ทาง ผบช.ภ.5 ได้มอบหมายให้ลงมาควบคุมคดีนี้ และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ต่อมา ทางตำรวจได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางร้าน ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญที่บันทึกภาพเหตุการณ์ในวันนั้นไว้ ปรากฏว่าถูกลบข้อมูลออกไปหมดแล้ว
ล่าสุด วันที่ 20 พ.ย. พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เซ็นคำสั่งลงนามให้ พ.ต.อ.ชัชวรินทร์ บุนนาค ผกก.สภ.แม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 มอบหมายที่ศูนย์ปฏิบัติตำรวจภูธรภาค 5 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. วันที่ 20 พ.ย. 60 เป็นต้นไป โดยไม่มีกำหนด และให้ พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ลงไปควบคุมดูแลการสอบสวนในคดีทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ทางด้านนายสุดเขต สกุลทอง ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เผยว่าในขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยเร่งดำเนินการเรื่องการจัดการศพนักศึกษา ส่วนด้านคดี จะได้ติดตามการทำงานของตำรวจในเรื่องที่เกิดขึ้น จนสิ้นกระบวนการทางศาล และที่น่าข้องใจ คือ ทางร้านทั้งหุ้นส่วนเจ้าของร้านและการ์ดกลับมาเป็นผู้ก่อเหตุเสียเอง มีการกระทำเกินกว่าเหตุ มีการใช้ปืนจนปืนลั่นมีผู้บาดเจ็บ ในส่วนเรื่องของนักศึกษาได้ทำความเข้าใจ อบรมทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง ซึ่งทางมหาวิทยาลัยจะดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเรื่องคดี เรื่องการนำศพกลับและดูแลเด็กที่บาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ขอให้ทางตำรวจมีมาตรการที่เข้มงวด เพราะเหตุที่เกิดขึ้น เกิดหลังเที่ยงคืน เกินเวลาด้วย.