กองปราบจับตัวหลวงปู่เณรโต พร้อมพวก ตามหมายจับศาลจังหวัดบัวใหญ่ คดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หลังแอบนำเงินจัดสร้างวัตถุมงคล ของวัดบ้านบัวน้อย เข้ากระเป๋าตัวเอง ด้านเจ้าตัวให้การปฏิเสธ ไม่ได้เป็นผู้จัดสร้าง แค่มาปลุกเสก...

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 18 พ.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป) พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.อนุชา ธนะอุดม รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์, พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ กู้พิมายวรกูล สว.กก.3 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุมตัว พระถนอมแสง สมสวย หรือ หลวงปู่เณรโต อายุ 27 ปี ชาว จ.นครราชสีมา นางนวรัตน์ โตเทียนซิน อายุ 70 ปี ชาว กทม.และนายนดล หรือ ใหญ่ มณีแสงบำรุงสาร อายุ 53 ปี ชาว จ.นครราชสีมา 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดบัวใหญ่ ที่ 64/2560 - 66/2560 ลงวันที่ 17 พ.ย. 60 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามลำดับ จับกุม พระถนอมแสง ได้ที่กุฏิพระภายในวัดเลียบราษฎร์บำรุง แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ จับกุมตัวนางนวรัตน์ ได้ที่บ้านพักเลขที่ 63 ซอยโชติวัฒน์ 14 แขวงและเขตบางซื่อ และจับกุมตัวนายนดล ได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาอ่อนนุช เมื่อกลางดึกของวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา

...


ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อ 2-3 ปี ก่อนหน้านี้ พระถนอมแสง สมสวย หรือ หลวงปู่เณรโต ขณะเป็นพระลูกวัดอยู่ที่ วัดบ้านบัวน้อย ต.โนนทองหลาง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ได้อวดอ้างอุตริว่ามีญาณทิพย์หยั่งรู้เรื่องราวในอนาคตได้ ก่อนจะร่วมกับพวกอีก 2 คน คือนางนวรัตน์ แม่บุญธรรม อ้างว่าเป็นร่างทรงของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และนายนดล หรือ ใหญ่ คนขับรถส่วนตัวของหลวงปู่เณรโต หลอกลวงฉ้อโกงประชาชนด้วยการจัดสร้างพระประธานสมเด็จพระเจ้าตากสิน และเหรียญหลวงปู่เณรโต สิริวัณโณ รุ่นที่ 1 ให้ชาวบ้านเช่าบูชา ในราคาองค์ละ 2,000 บาท อ้างว่าเป็นการหารายได้เข้าบูรณปฏิสังขรณ์อาคารต่างๆ ภายในวัด

ต่อมาชาวบ้านในละแวกดังกล่าวพบเห็นความผิดปกติของผู้ต้องหากลุ่มนี้ จึงได้ตรวจสอบ ก่อนจะทราบว่าหลวงปู่เณรโต และพวกไม่ได้มีการนำเงินรายได้จากการจัดสร้างวัตถุมงคลดังกล่าว เข้าสู่กองทุนวัดเพื่อทำประโยชน์ให้แก่วัดแต่อย่างใด แต่เป็นการนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว อีกทั้งเงินที่นำมาใช้ในการจัดสร้างวัตถุมงคลดังกล่าว ยังเป็นเงินที่ได้มาจากการทำบุญผ้าป่าของประชาชน จำนวนหลายล้านบาท จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวใหญ่ กระทั่งมีการออกหมายจับดังกล่าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะกระจายกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสจนสามาถจับกุมตัวได้ทั้งหมด พร้อมกับนำตัว หลวงปู่เณรโต ไปทำพิธีลาสิกขาที่วัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.นนท์บุรี ก่อนนำตัวมาสอบปากคำ ที่ กองบังคับการปราบปราม

สอบสวน นายถนอมแสง หรือ อดีตพระหลวงปู่เณรโต ให้การปฏิเสธ อ้างว่าบวชเรียนเป็นสามเณรมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จนกระทั่งอายุครบ 20 ปี ได้บวชเป็นพระต่อมาอีก 7 พรรษา จนทำให้ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธาและเรียกตนว่าเป็นหลวงปู่เณรโต เนื่องจากมองว่า มีความรู้ทางด้านบทเรียนคำสอนตามหลักพระพุทธศาสนาเกินอายุเทียบชั้นกับพระผู้ใหญ่ ตนไม่ได้เป็นคนตั้งชื่อหรือยกระดับตนเองขึ้นมา รวมถึงวัตถุมงคลดังกล่าวยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้จัดสร้างขึ้นมา แต่เป็นกลุ่มคณะกรรมการวัดเป็นผู้จัดทำขึ้น และเป็นผู้บริหารเงินรายได้ต่างๆ ของวัด ตนมีหน้าที่เป็นเพียงผู้ปลุกเสกเท่านั้น ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่า ตนมีพฤติการณ์ในการอวดอุตริ อ้างว่ามีอิทธิฤทธิ์ต่างๆ นั้น ตนไม่เคยมีพฤติการณ์ดังกล่าว จะมีเพียงแค่การดูดวงตามตำราให้กับชาวบ้านปลุกเสกน้ำมนต์และวัตถุมงคลให้กับชาวบ้านนำไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลเพียงเท่านั้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.บัวใหญ่ รับไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.