รวบแล้วแก๊งเงินกู้โหด โมโหทวงหนี้ไม่ได้ ยกพวกฉีดพ่นสีสเปรย์รอบบ้าน ทุบกระถางต้นไม้ ป้าวัย 59 ชาวพระสมุทรเจดีย์ อ้างไม่ได้ตั้งใจแค่ระบายอารมณ์แค้น ปัดมีลูกพี่ใหญ่อยู่เบื้องหลัง...
จากกรณีนางอุส่าห์ รักษาชาติ อายุ 59 ปี ชาวต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ แจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ ว่ามีแก๊งเงินกู้มาพ่นฉีดสเปรย์บริเวณทางเข้าบ้านและรั้วประตูบ้าน โดยทุบกระถางต้นไม้หน้าบ้านจนแตกหลายใบ รวมถึงประตูรั้วแผ่นยิปซั่มถูกถีบทำลายเสียหาย ทำให้ครอบครัวอยู่กันอย่างหวาดผวา
ล่าสุดเมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 9 ต.ค. พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.อนันต์ ชัยชาญ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุมตัวนายอัจฉริยะ หรือตั้ม นาสวน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ม.3 ต.หนองชิ่ม อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี นายเกษมสิทธิ์ เชษฐบุรี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 579/456 พระราม 2 ซอย 25 แขวง บางมด เขตจอมทอง กทม. และเยาวชนชายอายุ 17-18 จำนวน 2 คน ซึ่งจับกุมได้ในห้องพัก ชั้น 4 อาคารปาริชาติ 2 คอนโดสวนธน ถ.พุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ พร้อมสัญญากู้ยืมเงิน สมุดบันทึก เอกสารอื่นๆเกี่ยวข้องกับลูกค้าเงินกู้ และรถจักรยานยนต์ รวม 3 คัน
จากการสอบสวนนายอัจฉริยะ อ้างว่าได้ยืมเงินเพื่อนมาจำนวน 500,000 บาท เพื่อนำมาปล่อยเงินกู้โดยเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาทต่อวัน เพราะเห็นว่าเป็นงานที่มีรายได้ที่ดี และรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง แต่ที่ทำลงไปนั้นทำด้วยความคึกคะนองไม่ได้ตั้งใจ เพราะโมโหโทรหาผู้เสียหายแล้วติดต่อไม่ได้ มาหาที่บ้านไม่พบ จึงเกิดความแค้นคิดว่าผู้เสียหายหนีหนี้ไปไม่ยอมจ่ายใช้หนี้ จึงได้ซื้อสีสเปรย์มาพ่น พร้อมชวนเพื่อนมาที่บ้านผู้เสียหาย เพื่อระบายอารมณ์แค้น ส่วนที่บอกว่าลูกพี่เป็นคนใหญ่คนโตนั้นแค่แอบอ้างเท่านั้น เพราะเกรงว่าผู้เสียหายจะไม่ยอมใช้หนี้ จึงพูดกันท่าไว้เท่านั้น
...
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา “ร่วมกันให้กู้ยืมเงินโดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด , ร่วมกันทวงถามหนี้ กระทำการทวงถามหนี้โดยการข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น และร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ และร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น” ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมคัดค้านการประกันตัวเกรงว่าผู้ต้องหาทั้งหมดจะไปข่มขู่ผู้เสียหายเพิ่มอีก.