ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมชุดสืบสวนลุยตรวจคอนโดหรูย่านพหลโยธิน คลี่คลายคดีปล้นเงิน 60 ล้าน วางกรอบประเด็นแคบลง เร่งค้นวงจรปิดหาเส้นทางหนี เผยคดีนี้ไม่ยาก

กรณีกลุ่มคนร้าย ก่อเหตุปล้นเงินสด 196 ล้านเยน หรือ 60 ล้านบาท ภายในลานจอดรถชั้น 5 คอนโดรัชดา พาวิเลี่ยน ถนนรัชดาภิเษก ซอย 30 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. เมื่อวันที่ 2 ต.ค. เวลาประมาณ 23.20 น. ตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น

ต่อมา เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 4 ต.ค.60 พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป. และฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุบริเวณคอนโดดังกล่าว

พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า คดีดังกล่าวไม่น่ายาก ขอให้ใจเย็นๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย เบื้องต้นตั้งประเด็นปล้นทรัพย์ไว้ก่อน ส่วนกลุ่มคนร้ายจะเป็นใครรู้จักกับคนในหรือไม่ยังไม่ขอเปิดเผย ซึ่งที่ตนมาตรวจที่เกิดเหตุในวันนี้เพื่อวางกรอบประเด็นให้แคบลง

...

รายงานข่าว จากการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ประจำคอนโดดังกล่าว ที่เข้าเวรช่วงเวลา 17.00 น. (2 ต.ค.) ถึง 05.00 น. (3 ต.ค.) ให้การว่า ตามมาตรการรักษาความปลอดภัย หากไม่ใช้ผู้พักอาศัยหรือเกี่ยวข้องในคอนโดดังกล่าว จะไม่สามารถขึ้นคอนโดหรือนำรถเข้าออกได้ เนื่องจากต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าออก ซึ่งมีเพียงเฉพาะผู้พักอาศัยเท่านั้นที่จะมีคีย์การ์ดดังกล่าว โดยในคืนเกิดเหตุ จำได้ว่าเห็นรถยนต์ของกลุ่มผู้เสียหายขับเข้ามา แต่ไม่ทราบใครเป็นผู้ขับ ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายมีการสลับเปลี่ยนขับรถ กว่า 10 คัน เช่นเดียวกับคนขับที่สลับกัน รู้เพียงว่าเป็นรถของกลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งหลังจากที่รถกระบะ ฟอร์ด ขับเข้าและขับออกไป จำเวลาไม่ได้และใครเป็นผู้ขับ แต่หลังจากนั้น ประมาณ 15 นาที เห็นรถเบนซ์ของ นายภัทริศ หรือโต้โต้ แต้รัตนชัย และอีกระยะ มีรถฟอร์จูนเนอร์ เห็นคนหัวแตกขับตามออกมาอีกคัน นอกจากนี้หลังเวลา 22.00 น. เห็นเพียงรถผู้พักอาศัยเท่านั้น และไม่มีรถบุคคลภายนอกแลกบัตร ส่วนคนเดินเท้ามีเข้าออกตลอดคืน เนื่องจากใต้คอนโดมีร้านขายของและอาหารอยู่

รายงานข่าวอีกว่า คอนโดดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คน เข้าเวรละ 1 คน เวลา 17.00-05.00 น. และ 05.00-17.00 น. จะอยู่แค่เพียงเฝ้าป้อมประตูทางเข้าออก ไม่มีเดินตรวจตราตามชั้นต่างๆ ซึ่งมักมีผู้ร้องเรียนห้องผู้เสียหายบ่อยครั้งเนื่องจากเสียงดัง เพราะมีคนเข้าออกเกือบทั้งวัน รวมทั้งมีการนำรถขับเข้าออกตลอดเวลา ทุกวัน แม้กระทั่งวันหยุด ซึ่งบริเวณชั้น 5 ส่วนใหญ่จะมีเพียงรถของผู้เสียหายจอดหลายคัน และยังมีจอดกระจายตามชั้นต่างๆ อีก คอนโดดังกล่าว มีกล้องวงจรปิด 48 ตัว แต่บริเวณลานจอดรถ ชั้น 5 และ ชั้น 4 ไม่มีกล้องวงจรปิด มีเพียงกล้องหน้าลิฟต์ ซึ่งรัศมีเห็นเพียงประตูทางเข้าไม่ถึงลานจอดรถ ยกเว้นตั้งแต่ชั้น 3-1 ชั้น มีกล้องวงจรปิด

ทั้งนี้ชุดสืบสวนยืนยันว่ามีกล้องวงจรปิดการเข้าของรถบีเอ็มดับบลิว และรถกระบะฟอร์ด รวมทั้งภาพกล้องวงจรปิดขณะที่คนร้ายขับรถกระบะฟอร์ดออกจากคอนโด ซึ่งคาดว่ามีคนร้ายนั่งอยู่ในรถไม่ต่ำกว่า 4 คน โดยหลบหนีออกทางปากซอย รัชดา 30 มุ่งหน้า สี่แยกรัชดา-ลาดพร้าว ก่อนจะหายไป ซึ่งชุดคลี่คลายคดีได้เร่งทำการค้นหากล้องวงจรปิดเพิ่มในเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้ ทั้งถนนลาดพร้าวด้านขาเข้าและขาออก ร่วมถึงข้ามสะพานข้ามแยกลาดพร้าวเพื่อวิ่งต่อบนถนนรัชดามุ่งหน้าสี่แยกสุทธิสาร.