ตำรวจสำเหร่รวบเสี่ยโรงงานไอศกรีมพกปืน 3 กระบอกใส่เป้ขึ้นโรงพักท่าทางเครียด-พูดจาวกวน ด้านเจ้าตัวเผยจะมาตามคืบหน้าคดีลักทรัพย์ ส่วนปืนพกมากำลังจะไปซ้อมยิงปืนที่สนาม ไม่ได้พกมาขู่ใคร...

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ต.ค.60 ขณะที่ พ.ต.ท.ศุทรา หล่าสกุล สวป.สน.สำเหร่ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก พบชายต้องสงสัยท่าทางมีพิรุธเดินตาขวางสะพายเป้ใบใหญ่เข้าไปในห้องปฏิบัติการพนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ จึงนำกำลังสายตรวจเข้าไปขออนุญาตตรวจสอบ ทราบชื่อชายดังกล่าวคือ นายพรชัย เตชพรรุ่ง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 656 ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม.

และเมื่อตรวจค้นกระเป๋าเป้ที่ นายพรชัย สะพายขึ้นโรงพักมา พบอาวุธปืนลูกซองยาว ยี่ห้อวินเชสเตอร์ 1 กระบอก เครื่องกระสุนลูกซองเบอร์ 12 รวม 20 นัด อาวุธปืนสั้น ยี่ห้อบาเร็ตต้า ขนาด 9 มม. 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. รวม 125 นัด และอาวุธปืนสั้นยี่ห้อบาเร็ตต้า ขนาด .22 อีก 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 8 นัด โดยอาวุธปืนทั้ง 3 กระบอกนั้นมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงตรวจยึดไว้และคุมตัว นายพรชัย เอาไว้สอบสวน

...

จากการสอบสวน นายพรชัย ให้การในลักษณะวกวนและมีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา ว่า ปัจจุบันตนมีอาชีพผลิตไอศกรีมขาย วันนี้ตนเดินทางมาที่ สน.สำเหร่ เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดีลักทรัพย์คอมเพรสเซอร์เครื่องทำไอศกรีมภายในบ้านพัก เมื่อประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา ว่ามีความคืบหน้าเช่นไร แต่ยังไม่ทันได้พบพนักงานสอบสวนก็มาถูกจับกุมอาวุธปืนเสียก่อน ส่วนอาวุธปืนทั้งหมดที่นำมาในวันนี้นั้นตนไม่ตั้งใจจะนำมาข่มขู่ทำร้ายผู้ใด แต่เพราะตนเป็นนักกีฬายิงปืนและกำลังจะไปซ้อมยิงปืนที่สนามเลยนำอาวุธปืนติดตัวมาด้วยเท่านั้น

ด้าน พ.ต.อ.ภัสพงษ์ บุตรไทย ผกก.สน.สำเหร่ กล่าวว่า ต้องชมเชยความมีไหวพริบของเจ้าพนักงานชุดจับกุม ซึ่งในทันทีที่ควบคุมตัว นายพรชัยได้ก็รีบสั่งการ พ.ต.ท.สายชล ปัญจชัย รอง ผกก.สส.สน.สำเหร่ คุมตัวไปสอบสวน เบื้องต้นพบว่าปืนทั้งหมดมีทะเบียนเป็นชื่อ นายพรชัย ถูกต้องตามกฎหมาย แต่การพกพาอาวุธปืนในลักษณะเช่นนี้ย่อมมีความผิด จึงแจ้งข้อกล่าวหาพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควรแก่ นายพรชัย นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คดีลักทรัพย์ ที่นายพรชัย เดินทางมาสอบถามความคืบหน้านั้นเป็นเช่นไร พ.ต.อ.ภัสพงษ์ ตอบว่า คดีนี้หลังจากรับแจ้งความทางพนักงานสอบสวนก็ได้ดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยไปแล้ว เพียงแต่ขณะนี้ผู้ต้องสงสัยยังไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ซึ่ง นายพรชัยเองก็ทราบความคืบหน้าดี แต่เวลานี้ตนกำลังตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด นายพรชัย จึงมีอาการเคร่งเครียดและพูดจาวกวนไปมาอยู่ตลอดเวลา โดยประเด็นนี้จะติดตามตัวญาติพี่น้องผู้ที่อยู่ใกล้ชิดมาสอบสวนหาสาเหตุของพฤติกรรมที่เจ้าตัวแสดงความก้าวร้าวเพื่อหาทางช่วยเหลือให้ นายพรชัย ได้อยู่ร่วมกับคนรอบข้างอย่างปลอดภัยได้ต่อไป.