กองปราบ รวบหนุ่มนักตุ๋น สร้างเฟชบุ๊กตีสนิท ข้าราชการ-ตำรวจ แอบอ้างตัวเป็นนายทหารติดตามทหาร คุยโม้รู้จักผู้ใหญ่ในกระทรวง หลอกเหยื่อสูญเงินล้านจัดซื้อโครงการรัฐบาล มีประวัติคดีอาญา 19 คดี
เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท. ผบก.ป., พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.๒ บก.ป., พ.ต.ท.บุญลือ ผดุงถิ่น พร้อมด้วย พ.ต.ต.เอกพล ปัญจมานนท์ สว.กก.๒ บก.ป. ร่วมกันสืบสวนจับกุม นายมังกร สมทรัพย์ อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ตามข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกง”
พ.ต.ต.เอกพล ปัญจมานนท์ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจาก ผู้ต้องหามีพฤติกรรมเข้าไปทำความรู้จักกับผู้เสียหาย ซึ่งเป็นข้าราชการทหาร และตำรวจ ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยผู้ต้องหาใช้ชื่อเฟชบุ๊กว่า “หนุ่ม ภาสกร สมทรพย์” “นายทหารพระราชา” ปัจจุบันใช้เฟซบุ๊กชื่อ “พระมังกร ปิยธรรมโม” มักแอบอ้างกับคู่สนทนาว่า เป็นนายทหารติดตาม บิ๊กทหารและรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาธิการ
...
"ต่อมา ผู้ต้องหาอ้างว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ มีโครงการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ งบประมาณ 55 ล้านบาท จึงได้ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน จนผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุนด้วย นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังอ้างว่า เป็นญาติกับ ส.ส. จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งทาง อบต.ในจังหวัดร้อยเอ็ด กำลังมีโครงการจัดซื้อเครื่องเล่นสนามเด็กเล่นให้กับโรงเรียน และมีโครงการขุดลอกคลองสาธารณะเพื่อป้องกันน้ำท่วม ซึ่งผู้ต้องหาสามารถติดต่อให้ผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุนในโครงการได้ และจะมีผลกำไรตอบแทนเป็นจำนวนเท่าตัว"
พ.ต.ต.เอกพล กล่าวต่อว่า เหตุนี้เอง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้ผู้ต้องหาเป็นจำนวนกว่าล้านบาท ต่อมาผู้เสียหายติดต่อผู้ต้องหาเพื่อขอไปดูสถานที่ทำโครงการต่างๆ ตามที่ได้กล่าวอ้าง แต่ผู้ต้องหาได้บ่ายเบี่ยงจนเมื่อผู้เสียหายรบเร้ามากหน่อยจึงบอกว่ายกเลิกโครงการแล้ว และจะโอนเงินคืนให้ แต่เมื่อถึงกำหนดการโอนเงินคืน ผู้ต้องหากลับไม่โอนเงินคืนให้แต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงทราบว่าถูกหลอก
พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.๒ บก.ป. กล่าวว่า ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ผู้ต้องหาเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำกลางจังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อปี พ.ศ. 2555 ในคดีฉ้อโกง โดยผู้ต้องหามีประวัติคดีฉ้อโกงในลักษณะอื่นๆ พ.ร.บ.เช็ค และลักทรัพย์ด้วย ผู้ต้องหายังมีประวัติถูกออกหมายจับมาแล้วจำนวน 9 หมายจับ รวมถึงประวัติคดีอาญารวม 19 คดี
นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป