ผู้การพังงา นำกำลังชุดสืบสวนในพื้นที่บุกรวบตัว 3 ผู้ต้องหาเพิ่ม คดีรุมโทรมเด็กอายุ 14 ปี พร้อมนำ 5 ผู้ต้องหาชาวบ้านเกาะแรดที่จับได้ก่อนหน้านี้ส่งศาลฝากขัง-โดยมีทนายความอาสาชาวบ้านคอยช่วยเหลือ คาดแห้วประกันตัว เหตุครอบครัวยากจน ต้องใช้เงินคนละ 4.6 แสน
วันที่ 9 ก.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ทาง พล.ต.ต.บุญทวี โตรักษา ผบก.ภ.จว.พังงา นำกำลัง กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพังงา และกำลังตำรวจในพื้นที่ เข้ารวบตัว 3 คน คือ นายวรชิต คงบุตร (อีฉา) นายบุญพจน์ นนทรีย์ (อาหลี) ได้ภายในหมู่บ้านเกาะแรด ส่วนนายชาติชาย ศรีรัตน์ (เล็ก) เข้าจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดพังงาได้ที่ บ้านในไร่ ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาชุดแรกที่ข่มขืนเด็กวัย 14 ปี ที่ได้รับการประกันตัวไปก่อนหน้านี้ จากนั้นได้พาตัวทั้ง 3 คน เข้าสอบสวนและตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ที่ สภ.โคกกลอย ผลการตรวจเบื้องต้นพบว่า นายชาติชาย และนายบุญพจน์ มีปัสสาวะสีม่วง
สำหรับบรรยากาศบริเวณหน้า สภ.โคกกลอย คับคั่งไปด้วยญาติของผู้ต้องหาทั้งหมดมารอให้กำลังใจอยู่หน้าโรงพักจำนวนมาก โดยผู้ต้องหา 3 คน ได้ให้การปฏิเสธ
...
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย ที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย 1. นายเฉลิม สามิน (หวาบ๋า) อายุ 69 ปี 2. นายสุชีพ สุเมนร์ (หวาเดช) อายุ 55 ปี 3. นายธวัชชัย เถากู (ยูนุส) อายุ 34 ปี 4. นายนัฐวุฒิ บุตร์น้อย อายุ 27 ปี และ 5. นายกีรติ สุเมนร์ (อาหมาด) อายุ 30 ปี พาขึ้นรถตู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดพังงา หลังจากใช้เวลาทั้งคืนจนสอบสวนเสร็จ โดยมีทีมทนายความอาสา และญาติตามมาที่ศาลเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นเมื่อญาติของผู้ต้องหาบางรายเป็นลม อีกหลายรายร่ำไห้ด้วยความเสียใจที่ญาติของตนถูกจับกุม เนื่องจากทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมดในการกระทำผิดฐาน ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาตน ร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ร่วมกันพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจาร และเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น พาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หรือวิธีข่มขืนใจด้วยประการใดๆ ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้การกระทำการใดๆ ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สิน ของผู้ถูกข่มขืนใจ ใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นอื่น และร่วมกันบุกรุกในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยกำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย พร้อมนำส่งทั้งหมดเข้าดำเนินคดีตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ นายณัฐรัตน์ หนูแก้ว ทนายความอาสาชาวบ้าน เปิดเผยว่า หลังจากที่ศาลจังหวัดพังงาออกหมายจับเมื่อวานนี้ ทีมทนายก็ได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.โคกกลอย โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ และขอเข้ามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์
สำหรับการฝากขังต่อศาลในวันนี้ เบื้องต้นได้รับแจ้งว่าจะต้องใช้เงินสดประกันตัวคนละ 460,000 บาท ชาวบ้านที่มีฐานะยากจน คงจะไม่มีเงินประกันตัวออกมาอย่างแน่นอน จากนี้คาดว่าจะยื่นขอความช่วยเหลือจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดพังงาในเรื่องการประกันตัวมาต่อสู้คดีต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่.