เหตุระเบิดสมานเมตตาแมนชั่น ย่านอำเภอบางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อปี 2553 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันที 4 ราย บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เนื่องจากบริเวณที่เกิดเหตุเป็นแหล่งที่พักอาศัย มีประชาชนจำนวนมากสัญจรไปมาตลอดเวลา...
ย้อนกลับไป 7 ปี ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น.วันที่ 5 ตุลาคม 2553 พ.ต.ท.มนัส นิลกลัด พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ในขณะนั้น รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดอาคารสมานเมตตาแมนชั่น ซ.ทิพย์สุวรรณ ม.6 ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบอาคารห้องพักสูงขนาด 5 ชั้น โดยที่ชั้น 1 และชั้น 2 บริเวณปีกขวาของอาคารถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหายพังยับเยิน ตรวจสอบพบว่าระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นที่ห้อง 202 โดยแรงระเบิดทำให้ห้องด้านข้างคือห้อง 201 บริเวณริมสุดของอาคารได้รับความเสียหายไปด้วย ทั้งนี้แรงระเบิดยังทำให้โรงงานแพปลาเทพบางบัวทอง ที่อยู่ติดกันได้รับความเสียหายทั้งโกดังอีกด้วย
...
เจ้าของห้องบึมสมานเมตตาเป็นเสื้อแดง พบแผ่นซีดีเขียน 'รัฐไทยใหม่'
อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 ศพ บาดเจ็บอีกนับสิบราย โดยมีการเปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิต 1 ใน 4 คือ นายสมัย วงศ์สุวรรณ ชาวอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของห้องหมายเลข 202 เป็นผู้ต้องหาคดีปาระเบิดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี และเคยเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งเจ้าหน้าที่พบแผ่นซีดีเขียนว่า "รัฐไทยใหม่" ตกอยู่ในห้องที่เกิดเหตุด้วย จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อประกอบการสอบสวนต่อไป
ขณะที่นายสมาน อยู่ประเสริฐ เจ้าของสมานเมตตาแมนชั่น และผู้ดำเนินรายการวิทยุชุมชนบางบัวทอง เอฟเอ็ม 106.25 ย่านตลาดบางบัวทอง กล่าวถึงเหตุระเบิดว่า ตนไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน รวมทั้งไม่ได้เคลื่อนไหวเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองสีใด อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้
แรงระเบิด เท่า TNT หนัก 10 กิโลกรัม คาดคนร้ายพลาดเอง
ต่อมา พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาการ ผบช.ภ.1 ในขณะนั้น ได้โทรศัพท์รายงาน พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ในขณะนั้น ว่า เหตุระเบิดเกิดจากภายในแมนชั่นดังกล่าวแน่นอน โดยประเมินว่า คนร้ายน่าจะเก็บระเบิดจำนวนมากไว้ก่อเหตุและมีการประกอบภายในห้องจนเกิดเหตุในที่สุด ขณะที่ พล.ต.อ.วิเชียร เปิดเผยหลังรับรายงานว่าของกลางทั้งหมดที่ยึดได้เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ก่อนหน้า 4 คดีความมั่นคง ระเบิดที่พบถูกบรรจุในถังดับเพลิง บางส่วนอยู่ในถังน้ำยาแอร์ มีดินดำ ปุ๋ยยูเรีย เป็นส่วนประกอบ แรงระเบิด เท่ากับระเบิด TNT น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม ด้านเจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายน่าจะมีความรู้เรื่องระเบิด แต่ไม่ใช่มืออาชีพ ส่วนสาเหตุที่ระเบิดสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเปิดสวิตช์วงจรระเบิดเพื่อเตรียมมาใช้ก่อเหตุ แต่เกิดพลาดเสียก่อน
...
ออกหมายจับ 'ครูแขก' ผู้ต้องหาสำคัญ
หลังเกิดเหตุ ได้มีการออกหมายจับ นางอัมพร ใจก้อน หรือ ครูแขก แนวร่วมกลุ่มนปช. ชาวบ้าน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ และ นายกษิ ดิฐธนรัชต์ ชาวบ้าน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นักธุรกิจข้ามชาติ ค้าปุ๋ยยูเรีย เนื่องจากพบหลักฐานเชื่อมโยงกับคดีอื่นๆ ทั้งนี้ จากการข่าวทราบว่า นายกษิ ได้รู้จักกับนายสมัย ผู้เสียชีวิตคาซากตึก ที่ จ.เชียงใหม่ และอาจจะเป็นนายทุนให้นายสมัยประกอบระเบิด
โยงไปป์บอมบ์มีนบุรี
เวลาผ่านไปเกือบ 4 ปี เกิดเหตุระทึกขวัญอีกครั้งในช่วงเดือนมีนาคม 2557 เมื่อมีคนพบศพ นายบุญเลื่อน ปินตา และนายเกรียงไกร ศิลป์อำนวย ภายในซอยราษฎร์อุทิศ ย่านมีนบุรี ในสภาพร่างกายแหลกเหลว รถ จยย. พังเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุต่อมาว่า ทั้งคู่ได้ขับรถออกมาจากบ้านพักในย่านดังกล่าว พร้อมพกพาระเบิดไปป์บอมบ์ออกมาด้วย ระหว่างทางที่ยังไม่ทราบจุดหมาย ก็เกิดระเบิดขึ้น ทั้งคู่จึงเสียชีวิตอย่างสยดสยอง
ภายหลังเจ้าหน้าที่ ได้ทำการตรวจค้นที่บ้านพัก พบระเบิดไปป์บอมบ์ ซุกซ่อนอีก 5 ลูก ซึ่งเป็นระเบิดที่ทำจากท่อเหล็ก ขนาดเส้นทางศูนย์กลาง 6 นิ้ว ยาว 1 ฟุต และใช้ดินดำเป็นส่วนประกอบ นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์ระเบิดทั้งถังแก๊สและแกลลอนน้ำมันอีกหลายรายการ ต่อมาศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องหลายคน หนึ่งในนั้นคือ อัมพร ใจก้อน หรือ ครูแขก ซึ่งมีความเชื่อมโยงและเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีระเบิด สมานเมตตาแมนชั่น ย่านบางบัวทอง เมื่อปี 2553 กระทั่งเจ้าตัวถูกจับกุมคาบ้านพักใน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2559
...
ได้รับอิสรภาพ
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ 7 ก.ย.60 ศาลจังหวัดมีนบุรีพิพากษายกฟ้อง “ครูแขก” ในคดีดังกล่าว เนื่องจากไร้ประจักษ์พยาน และหลักฐานนิติวิทย์ ไม่หนักแน่น ซึ่งเจ้าตัวจะได้รับการปล่อยตัวเสียที หลังจากถูกคุมขังมานาน ส่วนคดีระเบิดสมานเมตตาแมนชั่น ที่ จ.นนทบุรี คดีนั้นศาลอาญายกฟ้อง โดยอัยการยื่นอุทธรณ์คดี แต่เมื่อศาลไม่ได้สั่งขังระหว่างอุทธรณ์ เจ้าตัวก็จะได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน.