ตำรวจหนุ่มหวังดีแนะหนุ่มโคราชตกงานไม่มีเงิน ไปสมัครงานแต่หางานทำมันยาก คล้อยหลังไปไม่นาน กลับไปก่อเหตุชิงทรัพย์-ลักจยย. ก่อนทหารเรือรวบทันควัน สารภาพคิดชั่ววูบ ด้านเจ้าทุกข์ไม่ติดใจ แต่คดีว่าไปตามกฎหมาย...
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 ก.ย.2560 ร.ต.ต.เกียรติศักดิ์ เพชรพิมานสมุทร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ กำลังปฏิบัติหน้าที่ อยู่ในห้องแจ้งความ ได้มีนายวีระวิทย์ พันชนะ อายุ 21 ปี เดินเข้ามาขอความช่วยเหลือว่าไม่มีงานทำและนายจ้างไล่ออก วอนให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือด้วย หลังรับทราบปัญหา ว่าที่ ร.ต.ต.เกียรติศักดิ์ จึงได้แนะนำให้เดินทางไปหาที่ศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งอยู่ในศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งห่างจากโรงพักไม่ไกลมากนัก พร้อมกับบอกเส้นทางให้อย่างละเอียด ก่อนที่นายวีระวิทย์ จะออกจากโรงพักไป
ต่อมาผ่านไปไม่ถึง 30 นาที่ นายสำเริง บุตรน้ำเพชร อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นพนักงานขับรถที่สำนักงานสรรพากร สาขาสมุทรปราการ ได้วิ่งหน้าตื่นเข้ามาแจ้งความกับ ร.ต.ต.เกียรติศักดิ์ เพชรพิมานสมุทร ว่าถูกคนร้ายขโมยรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นสปาร์ค สีบรอนซ์ดำ หมายเลขทะเบียน 1กร 6048 กรุงเทพฯ ไป ขณะที่จอดติดเครื่องไว้ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงได้รายงาน ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนที่ พ.ต.ท.โสภณ ภูนุช รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้วิทยุประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจไล่สกัดจับ จนกระทั่งได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ บริเวณหน้าโรงเรียนนายเรือ ซึ่งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ ห่างจากจุดขโมยรถไปประมาณ 1 กิโลเมตร ทราบต่อมาคือ นายวีระวิทย์ พ้นชนะ ที่เข้ามาขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนหน้านี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้าโรงเรียนนายเรือ ช่วยกันจับกุมเอาไว้ได้ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ซึ่งได้ขโมยไป ตรวจค้นในกระเป๋าพบโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และมีดพับ 1 เล่ม ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวน ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ
...

สอบสวนนายวีระวิทย์ สารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเดินทางมาจากบ้านเกิดที่ จ.นครราชสีมา ก่อนที่จะพักอาศัยกับแม่ ที่ย่านบางปู ระหว่างอาศัยอยู่ได้มีปัญหาหากับแม่ จึงได้ออกเผชิญชีวิตเพียงลำพัง และระหกระเหิน ตระเวนไปสมัครงานตามโรงงาน แต่ก็ไม่มีใครรับ กระทั่งวันนี้หมดหนทาง จึงได้เข้ามาขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าทำไมไม่มีคนรับเข้าทำงาน เจ้าหน้าที่จึงได้แนะนำให้ตนไปที่ศูนย์ดำรงธรรม ก่อนที่เจ้าหน้าที่ของศูนย์ดำรงธรรม จะให้ตนไปเขียนใบสมัครงาน ที่ศูนย์จัดหางานจังหวัดสมุทรปราการ แต่ระหว่างที่ตนเดินออกมา ที่หน้าศาลากลางจังหวัด ระหว่างนั้นเห็นรถจักรยานยนต์จอดติดเครื่องอยู่ จึงได้คิดชั่ววูบประกอบกับหมดหนทางของชีวิต จึงตัดสินใจเข้าขโมยรถจักรยานยนต์ และขับหลบหนีไป กระทั่งขี่ไปถึงหน้าโรงเรียนนายเรือ พบเห็นหญิงสูงวัย ยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ 2 คน จึงได้จอดรถและใช้อาวุธมีด ที่พกติดตัวมาเข้าไปจี้เพื่อหวังชิงทรัพย์ แต่ผู้เสียหายร้องให้คนช่วย ตนจึงตกใจวิ่งหลบหนีไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ทหารเรือจับกุมตัวเอาไว้ได้
ส่วน นายสำเริง บุตรน้ำเพชร ผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากส่งไปรษณีย์ ก่อนที่จะแวะมากดเงิน ที่ตู้หน้าศาลากลางจังหวัด โดยได้จอดรถติดเครื่องเอาไว้ ต่อมาระหว่างที่ตนกดเงินเสร็จได้หันกลับมา ถึงกับมึนงง เพราะรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่กลับหายไป หลังตั้งสติได้ จึงวิ่งข้ามถนนไปขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบนโรงพัก และเดินทางกลับบ้าน กระทั่งได้รับข่าวดี เจ้าหน้าที่ติดต่อมาว่า จับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว จึงได้รีบเดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ทั้งนี้ได้ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ สำหรับคนที่จอดรถโดยสตาร์ตเครื่องทิ้งไว้ อาจจะไม่โชคดีเหมือนตนก็ได้ ส่วนผู้ต้องหาตนให้อภัย แต่เรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
เบื้องต้น จนท.ตำรวจ แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ และพยายามชิงทรัพย์ โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การหลบหนี ส่งตัวดำเนินคดีต่อไป.