ไฟโหมไหม้บ้านพักพนักงานรถไฟ กม.11 ซอยวิภาวดีรังสิต เพลิงเผาวอดกว่า 15 หลัง โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รฟท.เร่งจัดการเยียวยา พบเป็นบ้านไม้ปลูกดั้งเดิมมานานกว่า 30 ปี ส่วนตร.ยังไม่ชัดสาเหตุต้นเพลิง เตรียมประสาน พฐ.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ก.ย.60 ร.ต.อ.ทิวากร โปร่งเส็ง รอง สว.(สอบสวน) สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านพักพนักงานรถไฟ กม.11 ถ.รถไฟสาย 1 ซอยวิภาวดีรังสิต 11 แยก 9 แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน ผกก.สน. พ.ต.ท.ปริญญา กลิ่นเกษร รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สมาน ครองสิน รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางซื่อ พร้อมประสานรถดับเพลิงจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร และอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย จำนวนกว่า 10 คัน และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ปลูกติดกันจำนวนหลายหลังจำนวน 3 แถว แถวละ 7-8 หลัง พบกลุ่มควันและแสงเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านพักที่ติดกับถนนรถไฟสาย 1 เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง ใช้เวลา 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ เบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนถูกเพลิงไหม้ทั้งหมด 15 หลัง จาก 2 ซอย ประกอบด้วยบ้านเลขที่ 188/1-7 ที่อยู่ติดถนนรถไฟสาย 1 และบ้านเลขที่ 206/1-8 ซึ่งอยู่ในซอยวิภาวดี 11 แยก 9 (ซ.1) ทั้งหมดถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหลัง ทั้งนี้ยังมีบ้านไม้ซอยที่ 2 ซึ่งหลังบ้านติดกับ ซอย 1 ถูกเพลิงไหม้เล็กน้อยอีกจำนวน 4 หลัง เนื้อที่ความเสียหายประมาณ 1 ไร่ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
...
จากการสอบสวนนายนภดล ดิลกแพทย์ อายุ 68 ปี คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง เล่าว่า ขณะตนขับรถมาส่งผู้โดยสารภายใน ซ.วิภาวดี 11 แยก 9 สังเกตเห็นควันและแสงไฟออกมาจากบ้านหลังที่ 2 ซ.1 จึงตะโกนขอความช่วยเหลือชาวบ้านในละแวกนั้นนำถังดับเพลิงมาฉีดสกัดจำนวน 10 ถัง แต่ด้วยความที่ลมแรงเอาไม่อยู่จึงทำให้ไฟลุกลามไปยังหลังอื่นๆ ก่อนจะแจ้งทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยเหลือ
ด้านนายจรัญ บั้นโฉม ผู้ช่วยสารวัตรงานบางซื่อ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จุดเกิดเหตุนั้นเป็นบ้านพักของพนักงานการรถไฟ แผนกขับเคลื่อนและช่างเครื่อง บางซื่อ ซึ่งมีบ้านพนักงานอยู่ตรงนี้จำนวนมาก แบ่งเป็นโซน และคาดว่าต้นเพลิงน่าจะเกิดจากบ้านเลขที่ 206/7 มีนายดิเรก พงศ์วรเสนีย์ ช่างเครื่อง เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้าน และอยู่ระหว่างการประสานมาให้ข้อมูล ทั้งนี้บ้านพักดังกล่าวเป็นบ้านไม้ปลูกดั้งเดิมมานานกว่า 30 ปี ตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าทางพนักงานได้รับผลกระทบมากน้อยเท่าใด เบื้องต้นทางการรถไฟฯ จะเร่งหาที่พักให้ใหม่พร้อมเยียวยาให้ความช่วยเหลือต่อไป ส่วนความเสียหายจะตรวจสอบอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.ท.สมาน กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพบบ้านพักได้รับความเสียหายประมาณ 15 หลังคาเรือน ซึ่งต้นเพลิงอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเกิดจากบ้านเลขที่ 206/6 หรือ 206/7 ก่อนลุกลามไปยังบ้านหลังอื่นๆ ซึ่งตรงนี้พยานยังให้การไม่ตรงกัน เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่มีผู้พักอาศัยระหว่างเกิดเหตุ ซึ่งในเบื้องต้นได้ตั้งไว้ 2 ประเด็น ประเด็นแรกอาจจะเกิดจากความประมาทของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรืออาจเกิดจากอุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุดเสียหายจนทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะประสานทางกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจที่เกิดเหตุเพื่อหาบ้านต้นเพลิงและสาเหตุเพลิงไหม้ต่อไป.
...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนีตายอลหม่าน! ไฟไหม้ชุมชนบ้านพักรถไฟ เผาวอด10หลัง คุมเพลิงได้วงจำกัด