คดีสาววัย 24 ปี ถูกพบเป็นศพผูกคอปริศนากับลูกบิดประตูห้องน้ำบ้านเพื่อนหนุ่ม หลังไปร่วมวงดื่มกิน พ่อพาทนายถามตำรวจ สภ.หนองแค หลังเผาศพลูกไปเข้าฝันบอก อยู่กับผู้ชายหลายคน ถูกรุมโทรมก่อนฆ่า ขณะที่ ตร.ยังรอผลนิติเวช...

จากกรณี เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.จตุพล สุวรรณจักษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองแค จ.สระบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีคนผูกคอเสียชีวิตในบ้านเลขที่ 46/1 ซ.1 หมู่บ้านเมืองแก้ว ถ.พหลโยธิน สายใน ต.หนองแค อ.หนองแค ไปตรวจที่เกิดเหตุ ภายในห้องชั้น 2 เจ้าหน้าที่พบศพ น.ส.นิศากร พุ่มพงษ์ อายุ 24 ปี เลขที่ 159/1 ม.4 ต.ทุ่งนางงาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี สภาพศพสวมเสื้อยืดสีดำแขนสั้น กางเกงสีดำขาสั้น นั่งหลังพิงอยู่กับประตูห้องน้ำ โดยที่ลำคอมีสายโทรศัพท์ยาวประมาณ 2 เมตร มัดคอพ่วงกับลูกปิดประตู จึงได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุ พร้อมนำศพส่งตรวจสถาบันนิติวิทยาศาตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต จากนั้นได้มอบศพให้ญาติรับไปจัดพิธีบำเพ็ญกุศล

อย่างไรก็ตาม นายสมพร พุ่มพงษ์ อายุ 56 ปี และ นางมะยอง บัวทอง อายุ 55 ปี พ่อและแม่ผู้ตาย รวมทั้งญาติพี่น้องไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย จนกระทั่งมีการเผาศพวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังขาในสาเหตุของการเสียชีวิต ดังนั้นในเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ก.ย. นายสมพร และ นางมะยอง พร้อมด้วย นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ทนายความพร้อมญาติ ได้นำลูกสาวผู้ตาย วัย 2 ขวบ เดินทางมาเข้าพบ พ.ต.อ. ฉัฐวัชร วงศ์วาสน์ ผกก.สภ.หนองแค จ.สระบุรี

นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ทนายความ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ได้ร่วมเดินทางมากับพ่อและแม่ของผู้ตาย หลังจากมาขอความช่วยเหลือ เพราะยังติดใจในการตายลูกสาว โดยไม่เชื่อว่าลูกสาวจะฆ่าตัวตาย เพราะว่าในวันเกิดเหตุ วันที่ 14 ส.ค. ผู้ตายอยู่กับเพื่อนชาย รวม 4 คน มีการนั่งดื่มเหล้าที่ชั้นล่าง จนกระทั่งบ่าย 2 จึงถูกพบเป็นศพฆ่าตัวตายในห้องน้ำชั้น 2 ซึ่งญาติไม่เชื่อว่าจะฆ่าตัวตายเอง จากหลายๆ สาเหตุ อีกอย่างกลอนลูกบิดประตูก็อยู่ต่ำ จึงเชื่อว่าน่าจะมีการถูกฆ่าแล้วนำมาแขวนไว้กับลูกบิด นอกจากนี้ 1 ใน 4 ผู้ชายที่อยู่ด้วย ก็เป็นลูกชายตำรวจ จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และตำรวจอาจมีการช่วยเหลือกัน ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่าตำรวจน่าจะเร่งรัดคดีได้เร็วกว่านี้ เพราะจากการสอบถามทราบว่า รอผลการตรวจทางวิทยาศาสตร์ที่จะออกประมาณอีก 1 เดือนข้างหน้า

...

ด้าน นายสมพร พ่อของผู้ตาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เชื่อเลยว่าลูกสาวจะฆ่าตัวตาย เพราะว่าหลังจากเกิดเหตุ ตนมารับศพลูกสาวเเพื่อส่งตรวจที่นิติวิทยาศาสตร์ ได้เปิดดูศพลูก พบว่าตามแขนมีรอยเขียวช้ำ และที่ท้ายทอยก็เขียวช้ำ ยังทราบจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่มาเข้าเก็บศพวันแรกว่าพบถุงยางอนามัยตกอยู่ในห้องอีกด้วย ขณะเดียวกันก็พบร่องรอยที่อวัยวะเพศด้วย จึงเชื่อมั่นว่าลูกสาวน่าจะถูกฆาตกรรม ถูกข่มขืนและนำศพมาแขวนคอ ไม่เชื่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ว่าลูกสาวผูกคอตาย จึงต้องตามมาทวงถามความเป็นธรรมในการหาตัวคนผิด

ต่อมา นายสมพร และทนายความพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางไปสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของ นายสมนึก อภิญญากุล อายุ 60 ปี พบว่า มีการทำความสะอาดไปหมดแล้ว โดยนายสมนึกเผยว่า ในวันเกิดเหตุนั้น ตนเองไม่อยู่ ไปธุระที่ประเทศเพื่อนบ้าน ปล่อยให้ลูกชายอยู่บ้าน ทราบว่าวันเกิดเหตุมีเพื่อนๆ ลูกชายมานั่งกินเหล้าและสั่งหมูกระทะมากินกันทั้งหมด 5 คน ผู้ตายเป็นหญิงคนเดียว ที่เหลือเป็นผู้ชาย 4 คน จนช่วง 4 โมงเย็น วันที่ 14 ส.ค. ลูกชายโทรไปบอกว่า มีเพื่อนผู้หญิงผูกคอตายในห้องนอน ตนจึงเดินทางกลับมาบ้าน ถึงประมาณ 5 ทุ่ม ซึ่งเท่าที่ทราบ ตัวผู้ตายรู้จักกับลูกชายตนมาประมาณ 2-3 อาทิตย์ และเคยมาบ้านตน 1 ครั้ง แต่ไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าเป็นเพื่อนลูก จนกระทั่งวันเกิดเหตุ ตนเดินทางกลับมาถึง ได้สอบถามลูกชายและเพื่อนว่ามันเรื่องอะไรกัน ลูกและเพื่อนบอกว่า น.ส.นิศากร แอบไปผูกคอตายในห้องนอนเอง หลังจากดื่มเหล้า

ทางด้าน พ.ต.อ.ฉัฐวัชร วงศ์วาสน์ ผกก. กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและสอบสวนได้ลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุพร้อมเก็บรวบรวมหลักฐาน และมีการสอบพยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับผู้ตายจนหมด หลังจากนั้นได้นำศพไปตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิต โดยต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ส่งกลับมาจึงจะทราบ ซึ่งถ้าผลออกมาว่าถูกฆาตกรรมทำร้ายหรือข่มขืนจนทำให้เสียชีวิต ก็จะดำเนินคดีส่งฟ้องศาลต่อไป 

ขณะเดียวกัน นายสมพรพ่อผู้ตาย ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า อย่างไรเสีย ตนเองก็ยังเชื่อมั่นว่า ลูกสาวถูกฆาตกรรมอย่างแน่นอน ที่ผ่านมาหลังจากมีการเผาศพลูกสาวแล้ว ลูกสาวได้มาเข้าฝันบอกว่า "พ่อมีคนมาข่มขืนหนู โดยมีผู้ชายสองคนจับมือหนูสองข้าง ส่วนผู้ชายอีก 3 คน ข่มขืนหนูแล้วฆ่าตาย" ซึ่งการฝันอย่างนี้ ตนเชื่อว่าลูกสาวถูกฆ่าตายแน่นอน และจะทวงถามความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด เพื่อให้ได้ต้วคนร้าย ถึงแม้ว่าผู้ต้องสงสัย 4 คนนั้น คนหนึ่งจะมีพ่อเป็นตำรวจก็ตาม.