เป็น1ใน6คัน!ปล้นจากนาทวี ผบ.ทบ.ยอมรับ จับ4ต้องสงสัย
โจรใต้นำรถกระบะที่ปล้นมาจากเต็นท์รถมือสองใน อ.นาทวี จ.สงขลา ประกอบระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักร่วม 80 กก. เป็น “คาร์บอมบ์” ถล่มบ้านพักตำรวจ สภ.มายอ แรงระเบิดทำให้บ้านพัก 10 หลัง และบ้านเรือนประชาชนใกล้เคียงเสียหาย แต่ไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตำรวจปิดเมืองล่าพบรถกระบะอีซูซุอีกคันที่คนร้ายปล้นไปจากเต็นท์รถ และรถกระบะมาสด้าพาหนะขนคนไปปล้นจอดทิ้งอยู่ในสวนยาง พารา ส่วนคนร้ายที่ถูกตำรวจวิสามัญทราบชื่อแล้ว เป็นนักเรียนโรงเรียนสอนศาสนา “ผบ.ทบ.” ยันได้ตัว ผู้ต้องสงสัยแล้ว 4 คน เชื่อเป็นคนรุ่นใหม่ที่ถูกว่า จ้างมาร่วมก่อเหตุ ย้ำยังไม่เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาค4 “อุดมเดช” เชื่อ “บีอาร์เอ็น” มีเอี่ยว
จากเหตุการณ์กลุ่มโจรใต้ใช้รถกระบะเป็นพาหนะบุกปล้นเต็นท์ขายรถมือสองชื่อ “วังโต้คาร์เซ็นเตอร์” ในพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อตอนสาย ของวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา จับตัวเจ้าของเต็นท์รถพร้อมลูกจ้างรวม 4 คน เป็นตัวประกัน ปล้นเอารถกระบะไป 6 คัน หลบหนีมุ่งหน้าเข้าเขต จ.ปัตตานี เพื่อนำไปประกอบระเบิด “คาร์บอมบ์” เตรียมก่อเหตุ รุนแรงในพื้นที่ โดยหลังเกิดเหตุ ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง สนธิกำลังออกไล่ล่าสกัดจับคนร้าย จนเกิดการปะทะกันขึ้น คนร้ายถูกวิสามัญ 1 ศพ ตำรวจสามารถตามยึดรถกลับมาได้ 4 คัน โดย 1 ใน 4 คัน ถูกคนร้ายจุดระเบิดเหลือแต่ซาก ทหารบาดเจ็บ 4 นาย เหลืออีก 2 คัน คนร้ายขับหลบหนี ไปได้ คาดว่าน่าจะถูกนำไปประกอบระเบิด “คาร์บอมบ์” เรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวประกันถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 1 คน อีก 2 คน วิ่งหนีรอดตายมาได้หวุดหวิด ล่าสุดคนร้ายนำรถที่ปล้นไปประกอบระเบิด “คาร์บอมบ์” ถล่มบ้านพักตำรวจ
...
โดยเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 17 ส.ค. พ.ต.อ. สมปราช กรรณกานนท์ ผกก.สภ.มายอ จ.ปัตตานี รับแจ้งมีเหตุ “คาร์บอมบ์” บ้านพักข้าราชการตำรวจซึ่งอยู่ติดกับ สภ.มายอ เขตเทศบาลตำบลมายอ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานชุดเก็บกู้ระเบิดนำกำลังไปตรวจสอบ พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ริมถนนหน้าบ้านพักตำรวจซึ่งปลูกติดกันจำนวน 10 ห้อง พบซากรถกระบะถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหายทั้งคัน มีชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน แรงระเบิดทำให้บ้านพักตำรวจได้รับความเสียหายทั้ง 10 หลัง โดยเฉพาะบ้านพักของ ส.ต.ท.แสนยา คงยืน เสียหายมากที่สุด เนื่องจากคนร้ายนำรถไปจอดตรงหน้าบ้านพอดี อานุภาพจากแรงระเบิดยังทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหายไปด้วย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ตรวจสอบพบว่ารถกระบะที่คนร้ายนำมาประกอบระเบิดเป็น “คาร์บอมบ์” เป็นรถยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน สี่ประตู ทะเบียน บห 5714 สงขลา ที่ถูกคนร้ายปล้นไปจากเต็นท์ขายรถมือสองในพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อตอนสายวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา และเป็น 1 ใน 2 คันที่คนร้ายขับหนีรอดไปได้ โดยก่อนเกิดเหตุมีพยานเห็นคนร้าย 2 คน ขับรถกระบะคันดังกล่าวซึ่งได้ประกอบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุอยู่ในถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 80 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารเรียบร้อยแล้ว วิ่งมาจากเส้นทางสาย อ.ยะรัง ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปจอดหน้าบ้านพักของ ส.ต.ท.แสนยา ระหว่างนั้นตำรวจที่เฝ้าเวรยามผ่านมาพบเห็น จึงได้ไล่ให้ไปจอดที่อื่น แต่ปรากฏว่า คนร้าย 2 คนได้วิ่งออกจากรถเข้าไปในหมู่บ้าน จากนั้นไม่ถึง 2 นาที คนร้ายได้กดชนวนระเบิดจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ต่อมานายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผวจ.ปัตตานี รับรายงานเดินทางไปร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายแล้ว
ต่อมาเวลา 06.00 น. พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งว่า พบรถกระบะต้องสงสัยจอดทิ้งไว้บริเวณป่าใกล้กับแท็งก์น้ำประปา หมู่บ้านพื้นที่หมู่ 1 ต.คลองมานิง อ.เมืองปัตตานี เจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ไว้ ก่อนประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ ปรากฏว่าไม่พบวัตถุต้องสงสัยหรือระเบิด ตรวจสอบเป็นรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สี่ประตู สีขาว ทะเบียน ฆท 3327 กรุงเทพมหานคร เป็นรถที่ถูกคนร้ายปล้นไปจากเต็นท์รถในพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เจ้าหน้าที่เก็บวัตถุพยานไปตรวจสอบ เบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุน่าจะขับรถเข้ามาในพื้นที่เพื่อประกอบระเบิด “คาร์บอมบ์” นำไปก่อเหตุรุนแรง แต่ถูกเจ้าหน้าที่กดดันและระวังป้องกันเหตุร้าย ทำให้คนร้ายต้องทิ้งรถแล้วพากันหลบหนี
ส่วนรถกระบะมาสด้าธันเดอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บง 8378 นราธิวาส ที่คนร้ายปล้นไปจากชาวบ้านที่ปัตตานี แล้วนำไปใช้ก่อเหตุปล้นเต็นท์รถมือสองในพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันเดียวกัน ตำรวจพบรถคันดังกล่าวแล้วจอดทิ้งอยู่ภายในสวนยางพารา หมู่ 3 ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ประสานชุดเก็บกู้ระเบิดเข้าตรวจสอบ พบถังแกลลอนน้ำมันวางอยู่ตรงกระบะหลังจำนวน 3 ถัง ภายในรถไม่พบระเบิดแต่อย่างใด ตรวจสอบทราบว่าเป็นรถของนายมะกอซี แนปีแน ถูกคนร้ายปล้นเอาไปเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 16 ส.ค. บนถนนสายยาบี-พราโอ ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ก่อนจะนำไปใช้เป็นพาหนะพาพวก บุกปล้นเต็นท์รถมือสองใน อ.นาทวี จ.สงขลา คาดว่า คนร้ายถูกเจ้าหน้าที่กดดันจนต้องนำรถไปจอดทิ้ง
ขณะเดียวกัน พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก. ปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง สรุปผลสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพบว่ากลุ่มคนร้ายมีการวางแผนอย่างเป็นระบบและเป็นขั้นเป็นตอน แยกเป็นชุดปล้น ชุดประกอบระเบิดไว้ในรถ ตรวจสอบแล้วไม่พบประวัติข้อมูล เชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มใหม่ มีแกนนำระดับสั่งการเป็นผู้วางแผนในการก่อเหตุ สำหรับคนร้ายที่ถูกวิสามัญฯ ทราบชื่อแล้วคือ นายนูร์ฮาซัน อาแว อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/2 หมู่ 2 ต.ตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี ตำรวจเตรียมเชิญผู้บริหารโรงเรียนมาให้ข้อมูลรวมทั้งจะได้ตรวจสอบว่ามีใครเชื่อมโยงกับผู้ตายบ้าง ส่วนเต็นท์รถมือสองทุกแห่งในพื้นที่ จ.ปัตตานี พากันปิดบริการ มีเจ้าหน้าที่คอยคุมเข้มเกรงว่าคนร้ายจะเข้ามาก่อเหตุซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน นายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผวจ.ปัตตานี นำกระเช้าพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ไปมอบให้กับทหารทั้ง 4 นาย ที่บาดเจ็บและนอนพักรักษาตัวที่ รพ.ค่ายอิงคยุทธบริหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
...
พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 เผยว่า ขณะนี้ทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้วและเตรียมออกหมายจับได้อย่างน้อย 3-4 คน พร้อมกับสั่งการให้ปรับแผนรับมือการก่อเหตุร้ายให้รัดกุมยิ่งขึ้นและใช้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียน คนร้ายมีทั้งหมด 7 คน ปิดบังใบหน้า 2 คน อีก 5 คน ไม่ปิดบังใบหน้า อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุมที่สุดเพื่อเตรียมออกหมายจับได้ 4 คน ภายใน 1-2 วันนี้ โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นแนวร่วมกลุ่มเดิมที่รับผิดชอบก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดนของ จ.สงขลา มีชื่อและประวัติอยู่ในแบล็กลิสต์ มีเพียงคนเดียวเป็นแนวร่วมใหม่คือคนที่ถูกวิสามัญฯ สำหรับคนร้ายที่จะออกหมายจับได้ 4 คนนั้น พยานชี้ตัวยืนยันจากรูปตรงกันทุกคน
นอกจากนี้ ตำรวจสอบปากคำตัวประกันที่รอดชีวิตให้การว่า หลังถูกคนร้ายจับเป็นตัวประกันแล้วคนร้ายได้พาทั้ง 4 ขึ้นรถกระบะไปที่ริมถนนในสวนยางพาราหมู่ 8 ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา จากนั้นลากทั้งหมดลงจากรถใช้เชือกรัดคอนายประทานพร นวลละมุล อายุ 23 ปี แล้วยิงซ้ำเข้ากลางหลัง 1 นัด นายประทานพรทำทีแกล้งตาย คนร้ายจึงหันไปยิงนายสหรัฐ แหละนิ อายุ 19 ปี เสียชีวิต ส่วนนายธานีศักดิ์ ยี่จีน อายุ 53 ปี เจ้าของเต็นท์รถกับนายวีระศักดิ์ รัตนพันธ์ อายุ 37 ปี ลูกน้องอีกคนวิ่งหนีรอดตายมาได้ และก่อนที่คนร้ายจะหลบหนียังถอยรถกระบะไปทับร่างนายประทานพรอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิต แต่นายประทานพรเบี่ยงตัวหลบทัน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบปล้นเต็นท์รถมือสองแล้วนำรถไปก่อเหตุความรุนแรงว่า ถือเป็นการกระทำอหังการมาก การก่อเหตุของกลุ่มดังกล่าวอย่าไปมองว่ามีช่องโหว่ เพราะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีบริเวณกว้าง ใครจะไปคิดว่าจะลงมือที่ จ.สงขลา แต่เจ้าหน้าที่ไม่ประมาท หลังเกิดเหตุเราได้สกัดจับจนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิมๆกลุ่มเก่า โดยชี้ตัวผู้ต้องสงสัยได้ 4 คน ส่วนมาตรการป้องกันความรุนแรง เราเตรียมการได้ดีอยู่แล้วในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ทำให้ผู้ก่อเหตุเปลี่ยนมาก่อเหตุที่ จ.สงขลาแทน หากจับกุมไม่ได้เขาจะไปก่อเหตุรุนแรงครั้งใหญ่อย่างแน่นอน อยากให้ผู้สื่อข่าวชมเชยเจ้าหน้าที่บ้างที่ตั้งใจทำงาน ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุจะติดตามจับกุมต่อไป
...
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าคนจ้องก่อเหตุรุนแรงคิดวิธีการก่อเหตุพลิกแพลงไปเรื่อย เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมรับมือวิธีการพวกนี้ไว้ด้วย การก่อเหตุครั้งนี้เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องเพิ่มความระมัดระวัง ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ผู้ก่อเหตุจะขอเงินสนับสนุนต่างประเทศ รมช.กลาโหมกล่าวว่า เขาพยายามรักษาตัวตนในการ เคลื่อนไหว ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิมๆอย่างบีอาร์เอ็นก็มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเชื่อมโยงกลุ่มที่อยู่นอกวงกระบวนการพูดคุยสันติสุขชายแดนภาคใต้ ท่านนายกฯ ได้กำชับไปยัง พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ให้ดูแลในเรื่องนี้ เพราะอาจมีคนตกหล่น และอยู่นอกวงการพูดคุย ต้องเชิญเข้ามาพูดคุยสันติสุข เพื่อจะได้มีประโยชน์มากขึ้นในการแก้ไขปัญหาพื้นที่
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น ผู้ก่อเหตุใช้วิธีการที่เราไม่คาดคิด ทราบว่าคนร้ายต้องการรถไปติดระเบิดเพื่อนำไปก่อเหตุในพื้นที่เศรษฐกิจ ที่ผ่านมากลุ่มผู้ก่อเหตุจะปล้นรถนำมาติดตั้งระเบิด ต้องใช้เวลานาน แต่ปัจจุบันปล้นได้จะนำไปติดตั้งระเบิดแล้วนำไปก่อเหตุทันที เมื่อถามว่า มีการมองกันว่าเป็นการกระทำของกลุ่มคนหน้าขาวที่ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า เป็นไปได้ที่แกนนำชักชวนคนรุ่นใหม่ที่ไม่มีประวัติก่อเหตุเข้ามา เพื่อให้ง่ายต่อการหลบหลีก คนเหล่านี้พื้นฐานไม่ได้เกิดจากอุดมการณ์ แต่อาจเกิดจากการจ้างวาน เหตุครั้งนี้ทราบว่าได้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว 4 คน
เมื่อถามว่าควรเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 4 หรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า คงไม่ใช่สถานการณ์แบบนี้ เพราะมีปัจจัยอื่นอีกมาก ที่ผ่านมาขอชื่นชมแม่ทัพภาคที่ 4 ทำงานดี ติดตามการทำงานมาตลอดโดยเฉพาะงานด้านการข่าว กลไกการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ใช่แม่ทัพภาคที่ 4 เพียงคนเดียว และเรื่องนี้ไม่ใช่ความรับผิดชอบของแม่ทัพภาคที่ 4 ว่าถ้าเกิดเหตุแล้วต้องเปลี่ยน คงไม่ใช่ประเด็น เมื่อถามย้ำว่ามีผลกระทบต่อการปรับเปลี่ยนตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 หรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน อย่าไปมองจุดเล็กๆเพียงจุดเดียว
...
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ก่อนหน้าการข่าวได้แจ้งเตือนจะมีการก่อเหตุ แต่ไม่รู้ว่าคนร้ายจะลงมือที่ใด กลุ่มคนร้ายน่าจะมีวัตถุประสงค์พิเศษไม่ใช่การสร้างสถานการณ์ปกติ เป็นครั้งแรกที่คนร้ายอุกอาจปล้นเต็นท์รถในช่วงกลางวัน คนร้ายเป็นกลุ่มเดิมที่เคยเคลื่อนไหวในพื้นที่ มีหน้าใหม่เพียง 1 คน คือ นายนูร์ฮาซัน อาแว ส่วนที่เหลืออีก 6 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม ไม่ยืนยันว่าเป็นกลุ่มบีอาร์เอ็นหรือไม่ ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอและลายนิ้วมือก่อน