ลากคอมาได้2-รับสิ้น จ่อยิงอำมหิตเรียงตัว ล่าอีก3ร่วมขบวนการ
ตำรวจอยุธยาหิ้วตัว 2 เพื่อนอำมหิตฆ่าโหดฝังดิน 3 หนุ่มใหญ่ไปชี้จุดเกิดเหตุ สารภาพนัดกลุ่มผู้ตายมาพูดคุยเรื่องยาเสพติด อ้างรับยาบ้าไปขายได้เงินมาแล้วไม่ยอมจ่ายคืน เจรจากันไม่รู้เรื่องเลยชักปืนจ่อยิงเหยื่อเรียงตัว จากนั้นอุ้มศพลงเรือพายไปตามคลองก่อนขุดหลุมฝังร่าง ตำรวจเชื่อยังมีผู้ร่วมขบวนการสังหารอีกหลายคน เตรียมขยายผลจับกุมยกแก๊ง
กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญ กรณีนายไพรัช หอมชะเอม อายุ 35 ปี นายสมพาล บุญสนุน อายุ 40 ปี และนายสำรวย วงษ์อักษร อายุ 32 ปี หายตัวไปอย่างลึกลับพร้อมรถ จยย. 3 คัน นานกว่า 1 สัปดาห์ ขณะชวนกันตั้งวงนั่งดื่มเหล้าในกระท่อมนา ริมคลองโคกทอง หมู่ 4 ต.บ้านนา อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ญาติเข้าแจ้งความคนหายแต่ไร้วี่แวว ต่อมามีชาวบ้านไปพบโทรศัพท์มือถือและหลุมขุดใหม่ๆใกล้บ่อน้ำในพื้นที่รกร้างกลางทุ่งนาหมู่ 4 ต.บ้านนา จึงแจ้งตำรวจมาขุดดูพบผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ในสภาพถูกจ่อยิงตามร่างกาย เบื้องต้นมุ่งประเด็นขัดแย้งเรื่องยาเสพติด
ความคืบหน้าของคดี เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 15 ส.ค. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา และชุดสืบสวน เดินทางไปที่ สภ.มหาราช เรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดีทั้งหมด เพื่อติดตามความคืบหน้าการคลี่คลายคดีฆ่าฝังดิน 3 ศพในพื้นที่ ต.บ้านนา อ.มหาราช รวมทั้งหารือเกี่ยวกับแนวทางดำเนินคดี ซึ่งมีเป้าหมายเป็นกลุ่มเพื่อนผู้เสียชีวิต และมีความเป็นไปได้สูงในเรื่องของการหักหลังล้างแค้นกันเองในขบวนการค้ายาเสพติด โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวสั้นๆว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขอหมายจับผู้ต้องสงสัยบางคน เชื่อว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายทั้งหมดได้เร็วๆนี้
...
ต่อมาเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผกก.สส.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบหาหลักฐานบริเวณจุดพบศพ และบริเวณกระท่อมนา ซึ่งอยู่คนละฝั่งคลองส่งน้ำ ประมาณ 600 เมตร ขณะเดียวกัน ได้นำตัวนายจรัญ หรือเอ๋ สังข์วิเศษ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/2 หมู่ 4 ต.บ้านนา อ.มหาราช และนายกริษณ์ หรือแจ๊ว นิ่มน้อย อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 4 ต.บ้านนา อ.มหาราช ทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนของ 3 ผู้เสียชีวิตและตกเป็นผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจควบคุมตัวมาสอบสวนยังจุดเกิดเหตุ
นายจรัญยอมรับสารภาพอ้างว่า มีความขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องของยาเสพติดที่กลุ่มผู้ตายไม่ยอมจ่ายเงินค่ายาบ้าที่รับไปขายต่อ ตนและนายกริษณ์เลยนัดผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน มาพบที่กระท่อมนา ระหว่างพูดคุยกับกลุ่มผู้ตายเกิดมีปากเสียงกันรุนแรง นายกริษณ์โมโหชักปืน 9 มม. ยิงขู่ 3 นัด ก่อนสั่งให้ตนออกมารอนอกกระท่อม จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นติดต่อกัน 3 นัด เข้าไปดูเห็นทั้ง 3 คนถูกจ่อยิงเสียชีวิตอยู่ในกระท่อมแล้ว และนายกริษณ์สั่งให้ตนเช็ดคราบเลือด นำปลอกกระสุนรวมทั้งรถ จยย. 3 คัน ของกลุ่มผู้เสียชีวิตไปโยนทิ้งน้ำให้หมด หลังจากนั้นนายกริษณ์ อุ้มร่างของทั้ง 3 คน ใส่เรือเหล็กพายไปตามคลอง เพื่อขุดหลุมฝังยังบริเวณจุดที่พบศพใกล้บ่อน้ำพื้นที่รกร้างกลางทุ่งนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน ตำรวจยังพบรถ จยย.ของผู้เสียชีวิตที่จมน้ำอยู่อีก 1 คัน เป็นรถ จยย. ฮอนด้าเวฟ สีดำแดง รวมกับรถ จยย.ที่พบก่อนหน้านี้ 2 คัน รวมเป็นทั้งหมด 3 คัน และยังพบปืนลูกซองอีก 1 กระบอกด้วย สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการฝังศพของทั้ง 3 คน นายกริษณ์ไม่ยอมซัดทอดใคร และไม่ยอมบอกจุดทิ้งปืน 9 มม. อาวุธที่ใช้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยลงดำค้นหาเป็นเวลานานแต่ไม่พบ ตำรวจสงสัยว่าจะมีเพื่อนของนายกริษณ์อีก 3 คนช่วยเหลือในการฝังศพ ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบสวน คาดว่าอาจมีความเกี่ยวข้อง เนื่องจากก่อนหน้านี้บุคคลทั้งหมดนั่งดื่มสุราอยู่ด้วยกันก่อนจะเกิดเหตุ คาดจะได้ตัวผู้ร่วมสังหารทั้งหมดภายใน 1-2 วันนี้