อ้างปมหึงหวงแค้นจะตีจาก แม่โฮรุดตรวจดีเอ็นเอไขคดี

“ศรีวราห์” สั่งตรวจสอบคดีศพนิรนาม เชื่อโครงกระดูกเพศหญิงพร้อมเหล็กดัดฟันที่พบโดนฆ่าเผาแถวเชิงเขากะบุด ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ช่วงปลายปี 57 มีแนวโน้มเป็นศพน้องพลอย หลัง “ไอ้เอส” อดีตทหารยศสิบเอก-แฟนเก่าน้องพลอยจนยอมจำนน เข้ามอบตัวกับทหารกองทัพภาคที่ 2 โคราช เปิดปากสารภาพซ้อมเหยื่อจนตายคามือตั้งแต่ 3 ปีก่อน อุ้มศพโยนทิ้งกลางป่าแก่งคอย อ้างหึงหวงที่ฝ่ายหญิงตีจากและส่งไลน์ขอเลิกเพราะจับได้ว่ามีครอบครัวแล้ว แม่เหยื่อรู้ข่าวลูกตายแทบช็อกปล่อยโฮร่ำไห้เสียใจหนัก พิสูจน์หลักฐานเร่งเก็บดีเอ็นเอส่งตรวจยืนยันใช่ลูกสาวหรือไม่

จากคดีคนหายกลายเป็นคดีฆาตกรรม กรณีนางพัชรี ปั้นทอง อายุ 51 ปี เข้าร้องเรียนศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยติดตามคดี น.ส.พลอยนรินทร์ หรือพลอย ผลิผล อายุ 28 ปี บุตรสาว ถูกนายพลกฤต หรือเอส วิเศษ อายุ 29 ปี อดีตทหารยศสิบเอก และเป็นอดีตแฟนหนุ่มของลูกสาว อุ้มหายไปหลังเลิกงานเมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค.2557 เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา กระทั่งศาลออกหมายจับนายพลกฤต แต่ผ่านมากว่า 3 ปี คดีไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากผู้ต้องหามีพ่อเป็นนายทหารยศใหญ่ หลังรับเรื่องร้องเรียน สำนักนายกรัฐมนตรีส่งเรื่องให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ตรวจสอบจนทราบว่า นายพลกฤตหลบซ่อนอยู่บ้านภรรยาในพื้นที่บ้านหนองไม้ไผ่ หมู่ 1 ต.หนองไม้ไผ่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ตำรวจประสานทหาร นำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุม ปรากฏว่าผู้ต้องหาไหวทันวิ่งหนีเข้าป่าอ้อยจนต้องส่งเฮลิคอปเตอร์บินไล่ล่ากดดัน แต่ยังไม่พบตัว

ความคืบหน้าเมื่อสายวันที่ 13 ส.ค. พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผกก.สส.บก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในวันนี้ พ.ต.อ.ณพล กลัดเข็มเพชร รอง ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางมาร่วมวางแผนการทำงานไล่ล่านายพลกฤต หรือเอส วิเศษ ผู้ต้องหาคนสำคัญอย่างต่อเนื่อง และประสานขอกำลังตำรวจมาเพิ่มเพื่อช่วยติดตาม โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาได้จัดกำลังกระจายออกตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัยทุกจุดที่คาดว่าคนร้ายอาจจะใช้หลบซ่อนตัวตลอดทั้งคืน แต่ยังไม่พบตัว อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่านายพลกฤตยังหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 บ้านหนองไม้ไผ่ ต.หนองไม้ไผ่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา เพราะมีกำลังตำรวจ-ทหารเฝ้าปิดล้อม เส้นทางไว้ทุกจุด ยากต่อการหลบหนีออกนอกพื้นที่

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายพลกฤตได้ให้ญาติติดต่อกับผู้นำท้องถิ่นประสานเจ้าหน้าที่ทหารที่รักษาความสงบในพื้นที่เพื่อขอเข้ามอบตัว โดยขอให้ตำรวจที่เฝ้าอยู่ในพื้นที่ถอน กำลังออกไปให้หมดเพราะเกรงจะได้รับอันตราย ตำรวจจำต้องถอนกำลังออกมาจากพื้นที่บ้านหนอง–ไม้ไผ่ หมู่ 1 ต.หนองไม้ไผ่ ต่อมาเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารรับมอบตัวนายพลกฤตบริเวณชายป่าอ้อยใกล้บ้านภรรยาผู้ต้องหา นำตัวไปควบคุมไว้ที่บ้านพัก พ.อ.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผบ.ร.23 ภายในกองพันทหารราบที่ 23 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา เพื่อสอบปากคำร่วมกับตำรวจ สส.บก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา

จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายพลกฤตให้การรับสารภาพอ้างว่า เป็นอดีตทหารยศสิบเอก สังกัดศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายพหลโยธิน จ.ลพบุรี ถูกให้ออกจากราชการตั้งแต่ปี 2557 และเป็นผู้ลักพาตัว น.ส.พลอยนรินทร์ หรือน้องพลอย ผลิผล อดีตแฟนสาวไปจริง โดยไปดักอุ้มน้องพลอยหลังจากเลิกงานที่โรงงานแห่งหนึ่ง จากนั้นนำตัวไปกักขังไว้เพื่อทำร้ายร่างกายด้วยการชกต่อย เตะ กระทืบจนน้องพลอยเสียชีวิตเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา สาเหตุเพราะความหึงหวงเนื่องจากน้องพลอยพยายามตีตัวออกห่างและส่งไลน์มาบอกเลิกหลังรู้ว่าตนมีภรรยาและครอบครัวแล้ว ก่อนนำศพไปเผาทิ้งในพื้นที่ป่ารกร้าง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี หลังสอบสวนทหารได้คุมตัวนายพลกฤตไว้ในกองพันทหารราบที่ 23 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ เพื่อรอส่งตัวให้ตำรวจต่อไป โดยมีทหารคุ้มกันตลอดเวลา

ที่ห้องประชุม สภ.แก่งคอย เวลา 18.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาตรวจสอบสำนวนการสอบสวนคดีเกี่ยวกับบุคคลสูญหาย และคดีศพนิรนาม รวมทั้งการพบโครงกระดูกในพื้นที่ อ.แก่งคอย เพื่อเชื่อมโยงว่าคดีใดจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอุ้มฆ่าน้องพลอย ซึ่งคดีลักษณะดังกล่าวได้ส่งหลักฐานไปให้กองพิสูจน์หลักฐานเก็บรวบรวมไว้แล้ว เบื้องต้นผู้ต้องหาสารภาพแล้วว่าฆ่าน้องพลอยและนำศพมาทิ้งในพื้นที่แก่งคอย จากนี้จะต้องค้นหาศพให้พบ พร้อมเชิญแม่ของผู้ตายมาเก็บดีเอ็นเอไว้เปรียบเทียบ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้เตรียมความพร้อมทั้งกำลังตำรวจ เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยต่างๆ และรถไฟฟ้าส่องสว่าง เพราะอาจต้องลงพื้นที่ค้นหาศพในช่วงค่ำคืนนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากตรวจสอบสำนวนคดีพบโครงกระดูกและศพนิรนามในพื้นที่ อ.แก่งคอย มีคดีที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นศพน้องพลอย 1 คดี เป็นคดีที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.หินซ้อน พนักงานสอบสวนรับแจ้งเมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 พ.ย.57 พบโครงกระดูกคาดว่าเป็นเพศหญิงถูกทิ้งกระจัดกระจายอยู่ในป่าเชิงเขากะบุด ริมถนนสายแก่งคอย-แสลงพัน ระหว่างหลัก กม. 15-16 หมู่ 2 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี บริเวณรอบจุดเกิดเหตุมีร่องรอยการเผาและยังพบเหล็กดัดฟันในซากเถ้าถ่านด้วย

ต่อมาช่วงค่ำวันเดียวกัน นางพัชรี ปั้นทอง มารดาน้องพลอย พร้อมด้วยนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ทนายความ เดินทางมาที่ สภ.แก่งคอย เข้าพบและให้ข้อมูลในทางคดีกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ทันทีที่ทราบว่าลูกสาวเสียชีวิตไปแล้ว นางพัชรีมีสีหน้าตกใจพร้อมปล่อยโฮร่ำไห้ด้วยความเสียใจเป็นที่น่าเวทนา โดยมีญาติและทนายจับมือพูดปลอบโยนให้กำลังใจและเข้มแข็ง จากนั้นตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อกระพุ้งแก้มจากนางพัชรี ส่งไปตรวจดีเอ็นเอเก็บไว้เปรียบเทียบกับดีเอ็นเอจากโครงกระดูกที่พบในพื้นที่ สภ.หินซ้อน เพื่อยืนยันว่าใช่โครงกระดูกน้องพลอย ลูกสาวที่ถูกอดีตแฟนหนุ่มอุ้มไปสังหารหรือไม่