ฟ้ามิได้แบ่ง ‘ยอดคน’ กับ ‘คนธรรมดา’ ออกจากกัน
ยอดคนจะปรากฏขึ้นเสมอแต่นั่นมิใช่เพราะ ‘ฟ้ากำหนด’
การที่ ‘ยอดคน’ ปรากฏขึ้นได้
เพราะเขาผ่านการ ‘ฝึกฝน’ และ ‘เรียนรู้’ ที่จะเป็นยอดคน

งานสืบสวนนอกจากจะใช้วิชาความรู้ตามตำรับตำราที่เรียนมา แต่สิ่งที่เหนือกว่า คือไหวพริบ ปฏิภาณ ความเชี่ยวชาญในตัวนักสืบคนนั้นๆ ที่ต้องหมั่นฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา  "เพราะการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด" โดยเฉพาะการเรียนรู้ให้เกิดความชำนาญของอาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ พึงนำไปปฏิบัติในหน้าที่การงานให้เกิดผล จึงถือเป็นเรื่องที่คู่ควรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ "ตำรวจนักสืบ" ต้องเก่งทั้งทักษะวิชาภาคทฤษฎี ความรู้รอบตัว และการลงพื้นที่ปฏิบัติงานจริง

“ไทยรัฐออนไลน์” โดย Police Community แนะนำท่านผู้อ่านทำความรู้จักกับอีกหนึ่งตำรวจนักสืบมือฉมัง พ.ต.อ. ด.ร.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.อก. บช.ปส. นักเรียนเตรียมทหาร รุ่น 31 นักเรียนนายร้อยรุ่น 47 หรือ “บิ๊กจ๋อ” ... เรียกได้ว่า ฝีไม้ลายมือ นรต.47 ค่อนข้างที่จะเก่งไม่ธรรมดา การันตีได้จากเพื่อนร่วมรุ่น เช่น  ‘บิ๊กโจ๊ก’ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการ 191 นายตำรวจฝีมือดี มีพลังเยอะอีกหนึ่งคนแห่งยุค และ พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.ทท. คนขยัน สร้างผลงานจับกุมสำคัญ เป็นข่าวลือลั่นจนชื่อชั้นขึ้นทำเนียบ

...

และแม้วันนี้ "บิ๊กจ๋อ" อีกหนึ่งผลผลิตน้ำดี นรต.รุ่น 47 จะยังไม่ได้นั่งเก้าอี้ตำแหน่งหลักรับผิดชอบด้านงานสืบสวนอย่างเคยทำมา แต่ด้วยความสามารถเชี่ยวชาญ ชำนาญพิเศษเฉพาะด้าน จึงได้รับความไว้วางใจ แต่งตั้งให้เป็น เจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรอง ตามคำสั่งคณะกรรมการนโยบาย และอำนวยการแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายสากล ที่ 1/2559 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2559 ลงนามโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และยังได้รับความไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่เป็น วิทยากรหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กว่า 15 ปี การันตรีความเชี่ยวชาญ ด้วยการรับประกาศนียบัตรหลักสูตร บริหารเหตุการณ์วิกฤติ (Critical Incident Management course) มหาวิทยาลัยหลุยเซียน่า (Louisiana state University)

จบหลักสูตรเจรจาต่อรอง (Hostage Negotiations) มหาวิทยาลัย หลุยเซียน่า (Louisiana state University) ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมื่อ พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (การเมือง) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
 ..... Police Community เปิดมุมคิด เจาะมุมทำงาน สัมภาษณ์ "กระชับ แต่ ลึก" ที่นี่เป็นครั้งแรก  

ลูกทหารยศนายพล - เลือกรับราชการตำรวจ เพราะ “ใจรัก”

พี่เกิดในครอบครัวที่มีคุณพ่อเป็นทหาร คุณพ่อชื่อ พลตรี สมพงษ์ ธรรมสุธีร์ รับราชการทหาร ที่กรมพลาธิการทหารบก (ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีเทศบาลบางเดื่อ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี) เติบโตและใช้ชีวิตอยู่ในกฎระเบียบเหมือนทหาร ชีวิตโดยส่วนใหญ่มุ่งเรียนหนังสือ ฝึกซ้อมวิ่งมาราธอน และว่ายน้ำที่แม่น้ำเจ้าพระยา ทุกวัน เพื่อเตรียมสอบเข้า ร.ร.เตรียมทหาร ขณะนั้นพี่เรียนชั้นมัธยมที่ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี และเป็นนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นประจำโรงเรียน

พี่เลือกเรียนเหล่าตำรวจเพราะใจรัก อยากที่จะรับใช้ดูแลประชาชน ระหว่างเข้าเรียนที่ ร.ร.นายร้อย มีความรู้สึกภาคภูมิใจนะที่เข้ามาเรียนที่นี่ เพื่อนๆ ร่วมรุ่นทุกคนเก่ง มีความพร้อมทุกด้าน โดยเฉพาะด้านกำลังสมอง ต้องยอมรับว่า ถ้าคุณหัวไม่ดี เรียนไม่เก่ง คุณต้องมีความพยายามมากกว่าคนอื่นหลายเท่าตัวถึงจะสอบได้ หรืออาจจะสอบไม่ได้เลย ดังนั้น เมื่อพี่ได้รับโอกาสตรงนี้ พี่ก็ต้องตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด ส่วนผลการเรียนก่อนจบ คะแนนสอบเป็นอันดับต้นๆ ของรุ่นนะ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเก่งกว่าใคร เพราะอย่างที่บอกคือ เพื่อนร่วมรุ่นเก่งทุกคน ผลการเรียนขึ้นอยู่กับความตั้งใจมากกว่า

...

...


ก้าวแรกสู่ชีวิตข้าราชการตำรวจ

หลังเรียนจบเข้ารับราชการก็รู้สึกว่ามันใช่สิ่งที่เราต้องการน่ะ ยิ่งเฉพาะงานด้านสืบสวนเป็นอะไรที่พี่สนใจเป็นพิเศษ ส่วนตำแหน่งคร่าวๆ ที่ผ่านมาของพี่ ในตำแหน่งแรกที่จบ บรรจุเป็น รอง สวส.สน.นางเลิ้ง ก่อนจะย้ายไปทำงานสืบ เป็น รอง สว.กก.สส.บก.น.2, ผบ.หมวดปกครอง รร.นรต., สว.สืบสวน กก.สส.บก.น.2, สว.กก.1 บก.ป., รอง ผกก.(กลุ่มงานปป.)บก.ทล., รอง ผกก.1 บก.ป., ผกก.1 บก.ปปป. ผกก.6 บก.ป., ผกก.6 บก.รน., ผกก.6 บก.ป., ผกก.ฝอ.บก.ปส.3 บช.ปส, และคำสั่งแต่งตั้งวาระล่าสุด รอง ผบก.อก. บช.ปส. ทุกตำแหน่งทุกหน้างานมีความสำคัญแทบทั้งสิ้น เราได้เรียนรู้ พัฒนาตนเองในทุกๆ วัน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อประโยชน์​สุขของประชาชนทั้งสิ้นครับ

เป็นอาจาร์ยพิเศษสอนวิชาสืบสวนให้กับตำรวจ

ครับ...พี่สอนมาหลายปีแล้วนะ รู้สึกชอบเพราะสามารถถ่ายทอดความรู้ไปสู่คนอื่นๆ นำใช้ประโยชน์ หลักๆ ที่สอนอยู่ตอนนี้คือ

- วิชาสืบสวน ให้กับหลักสูตรสืบสวนระดับรองสารวัตร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

- วิชาสืบสวนก้าวหน้าระดับสารวัตร, รองผู้กำกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, วิชาการซักถามโดยจิตวิทยาให้กับ กกต.(คณะกรรมการการเลือกตั้ง), กรมราชทัณฑ์, กอง 12 ศรภ.(ศูนย์รักษาความปลอดภัย) กองทัพไทย, กรมสรรพสามิต

- วิชาการเจรจาต่อรองให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข - ศตก.(ศูนย์ต่อต้านก่อการร้ายสากล) กองทัพไทย และสอนวิชาสืบสวนการรักษาความปลอดภัย ให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของการท่าอากาศยาน (AOT) 

"ส่วนผลที่ได้รับจริงๆ จากการสอนคือ ทำให้ได้บุคลากรนักสืบรุ่นใหม่ที่มีหัวใจในการรักงานสืบสวน ช่วยเหลือสุจริตชน โดยเน้นปรัชญาทางศีลธรรมในการทำงานด้านการสืบสวน เนื่องจากงานสืบสวนจากคดีที่ผ่านมา ผู้ปฏิบัติงานมักไม่ค่อยประสบความสำเร็จในชีวิตราชการ เพราะเป็นการปิดทองหลังพระ คนทำพูดไม่ได้ อีกทั้ง ต้องเสียสละชีวิตส่วนตัวที่ให้กับครอบครัว โดยคาดหวังว่าน้องๆ นักสืบรุ่นใหม่จะตั้งใจทำงานให้กับประชาชนทุกระดับ ในการคลี่คลายความเดือดร้อนในกับประชาชน พร้อมกับมีหัวใจที่แกร่ง ไม่กลัวอาชญากรทุกรูปแบบ"

...

ได้รับความไว้วางใจ ต่อรองเจรจา ลุยจับคดีสำคัญ  

สำหรับคดีสำคัญทำมาค่อนข้างเยอะให้เขียนตรงนี้คงไม่หมด พี่ขอยกตัวอย่างคดีเป็นบางคดี เช่น

- เป็นเลขาการปิดล้อมตรวจค้นของ บช.ปส.ตามหนังสือเลขที่ 0027.62(กท.)/284
ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2559

- เป็นเจ้าหน้าที่ชุดสนับสนุนข้อมูลด้านการข่าวและเทคโนโลยี ของ บช.ปส.3

- เป็นเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรองแก้ไขสถานการณ์การก่อการร้ายสากล สถานทูตพม่า ประจำประเทศไทย

- เป็นเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรองแก้ไขสถานการณ์การก่อการร้ายสากล ศูนย์โรงพยาบาลราชบุรี

"นอกจากนี้ ยังมี คดีไบโอคลินิก (เหยื่อศัลยกรรมความงาม) ผู้ตาย 3 คน สามารถจับกุมนายแพทย์ไพศาล เฮงสวัสดิ์ กับพวก และคดีมอมยาผู้โดยสารบนรถไฟ สายกรุงเทพฯ–นราธิวาส สามารถจับกุมตัว นายอุสมาน หรือ สมนึก อาดัม ชาวปากีสถาน ผู้ต้องหา ....เอาจริงๆ คือ ทุกคดีที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนสำคัญหมดสำหรับพี่ จะเล็กหรือใหญ่ สำคัญระดับประเทศ หรือเล็กระดับหมู่บ้าน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ตำรวจต้องบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชนทั้งสิ้น"

มีรางวัลการันตรีผลงานโดดเด่น

ถ้าเทียบกับตำรวจคนอื่นๆ รางวัลของพี่ไม่ได้เยอะ แต่ทุกรางวัลที่ได้มันคือความภาคภูมิใจ และดีใจที่เค้าเห็นผลงานของเรา รวมถึงยังเป็นแรงผลักดันให้พี่ทำหน้าที่ตำรวจต่อไป ส่วนรางวัลที่ได้รับ เช่น..

1. รางวัลตำรวจสืบสวนดีเด่น กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขณะดำรงตำแหน่งสารวัตรสืบสวน กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 2 พ.ศ. 2548 คู่กับ พ.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ (ชั้นยศสมัยนั้น)

2. รางวัลเกียรติยศตำรวจไทย
สาขาโครงการดีเด่น “โครงการโรบินฮู้ด” (โครงการป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมทรัพย์สิน) โดยที่พี่เป็นหัวหน้าโครงการ ขณะดำรงตำแหน่งรองผู้กำกับ 1 บก.ป. พ.ศ. 2554

3. รางวัลชนะเลิศ การฝึกประจำปีของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขณะดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจน้ำ พ.ศ. 2555  

และ 4. รางวัลตำรวจดีเด่น กองบังคับการปราบปราม ขณะดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ 6 กองกำกับการปราบปราม พ.ศ. 2557 

ความหวังที่จะให้เกิดขึ้นกับงานสืบสวนของไทย 

ถ้าเป็นไปได้อยากจะให้งานสืบสวนของวงการตำรวจ เป็นรูปแบบสถาบันแบบต่างประเทศ เช่น FBI สร้างผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ของงานสืบสวนตำรวจไทย ไว้รับมืออาชญากรรมที่พัฒนาไปสู่โลกาภิวัฒน์ แต่ละ บช.ต้องมีนักเจรจาช่วยเหลือยามประชาชนเดือดร้อน เช่น การเรียกค่าไถ่, การพยายามทำร้ายตัวเอง ฯลฯ ต้องยอมรับว่า งานแบบนี้ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเข้ามาเสี่ยง ทั้งยังมีความคาดหวังจากผู้เสียหาย และสังคมสูงมาก

ปัจจุบันไม่ได้ทำงานสืบสวนที่ใจรัก หันจับไมค์ถ่ายทอดความรู้

ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า งานสืบสวน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีการถ่ายทอดความรู้ เพราะอาจารย์นักสืบจะไม่ค่อยพูดมาก และถ่ายทอดไม่เก่ง ตลอดจนหวงวิชา แม้ปัจจุบันจะไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่งานสืบสวนที่รัก พี่จึงหันไปจับปากกา จับไมค์ในการถ่ายทอดความรู้วิชาสืบสวน เพราะมีโอกาสเรียนรู้จากครูดีๆ เก่งๆ จากไทย และต่างประเทศ น่าเสียดายที่ตำรวจนักสืบรุ่นน้องโชคไม่ดี เพราะตำรวจไทยยังไม่มีสถาบันในการถ่ายทอดความรู้วิชาสืบสวนที่เป็นมาตรฐาน

เหตุนี้เองน้องๆ จึงต้องพยายามเรียนรู้ด้วยตนเอง อาจถูกบ้าง ผิดบ้าง จึงเป็นสาเหตุให้ขาดประสิทธิภาพในการทำงานให้สังคม อีกทั้งทำให้เกิดภาพลักษณ์ของตำรวจติดลบ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจขาดความรู้และความเชี่ยวชาญ ตลอดจนผู้กำหนดนโยบายอาจไม่เข้าใจรายละเอียดของหน้างานด้านการสืบสวนอย่างแท้จริง

คิดว่างานสืบสวนเป็นงานที่เหมาะสมกับตัวเราที่สุด ?

ไม่ได้คิดว่าเป็นงานที่เหมาะที่สุด แค่เป็นงานที่พี่ถนัดมากที่สุด เพราะจริงๆ แล้วพี่สามารถปฏิบัติได้ทุกหน้างาน เพราะทุกหน้าที่ของตำรวจมีความสำคัญเท่าเทียมกัน และที่พี่ออกตัวว่าถนัดด้านงานสืบสวน เนื่องจากได้ผ่านการอบรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2539 อีกทั้งได้ผ่านการทำงานคลี่คลายคดีสืบสวนสำคัญๆ หลายคดี เชื่อว่าความสามารถทางด้านงานสืบของพี่ จะช่วยเหลืองานตำรวจได้บรรลุตามวัตถุประสงค์ในการคลี่คลายคดี ตามจับคนร้าย

ภารกิจสำคัญของตำรวจ คือ ช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อน

พวกเราที่ได้มาเป็นตำรวจ ถือว่าได้รับภารกิจสำคัญยิ่งในการช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อน คนที่จะมาหาเราทุกคนล้วนเดือดร้อน หากน้องๆ ตำรวจเข้าใจ ให้ความสำคัญ และตั้งใจในงานอย่างเต็มกำลัง จะช่วยผู้เดือดร้อน และทำให้สังคมเราหน้าอยู่ ทำให้ตำรวจเรามีภาพพจน์ที่ดียิ่งขึ้น อาชีพตำรวจจึงมีโอกาสได้ช่วยคนเดือดร้อนมากกว่าอาชีพอื่น  ... ไม่อยากให้น้องๆ ตำรวจท้อถอยกับสิ่งใดๆ เดินหน้าทำสิ่งที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จด้วยดี พี่เชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า "ถ้าน้องได้ทำในสิ่งที่ยากที่สุดแล้ว น้องจะสามารถเอามาปรับใช้สิ่งที่ง่ายที่สุดได้เช่นกัน"  

****** ...... ทุกวันนี้การบริหารงานของทุกองค์กร ไม่ว่าจะราชการหรือภาคส่วนงานเอกชน ล้วนแล้วแต่ใช้หลักการบริหารบุคคล ตามคำนักปรัชญาจีนโบราณ เคยกล่าวไว้ว่า "ผู้ปกครองต้องชาญฉลาดในการมองเห็น ว่างานชนิดใดเหมาะกับคนประเภทใด โดยดูจากบุคลิกภาพ อุปนิสัย ทักษะ และศักยภาพ Put the right man on the right job

...แต่ปัญหาก็คือ... การใช้คนให้ถูกกับงานนั้น "ผู้ใช้จะต้องเป็นผู้ซึ่งเหมาะสมกับงานตั้งแต่ต้น จึงจะสามารถเลือกคนที่เหมาะสมกับงานมาช่วยบริหารประเทศได้ดี ... หากแนวคิด-ความสามารถด้านงานสืบสวนของ "บิ๊กจ๋อ" สามารถทำประโยชน์ให้ส่วนรวม และถูกจัดวางตัวนั่งเก้าอี้ลุยงานด้านสืบสวนอีกครั้งอย่างเต็มสูบ ...เชื่อเถอะค่ะว่า ขุมกำลังมันสมองของเหล่า นรต.47 จะถูกรวบรวมไว้ด้วยกัน ร่วมเดินหน้าสร้างผลงาน ปิดจ๊อบคดีดัง ... "เพราะคนเก่ง คนขยัน คนใฝ่รู้ตั้งใจ บวกกับความสามัคคีในหมู่คณะ" ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติทั้งสิ้น

   Police Community