ตร.ขอนแก่น ตามรวบ 'ไอ้แมน' หน.แก๊งเหล็กไหล พร้อมพวกอีก 1 คน ก่อเหตุฟันนักศึกษาในปั๊มน้ำมัน รับล้างแค้นอริ แต่ผิดตัว ตร.แจ้งข้อหาหนัก ขอออกหมายจับเพิ่มอีก 3 ราย ...
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 สิงหาคม 2560 ที่หน้าห้อง ศปก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.จำลอง ศุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.ท.นรวัฒน์ คำพิโล รองผกก.สส.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายศราวุธ ทาตา หรือแมน อายุ 21 ปี ชาว อ.เมือง จ.ขอนแก่น และ นายปิยะ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ชาว อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งทั้งสองคนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองขอนแก่น จับกุมตัวได้ที่บริเวณสี่แยกบ้านพรมนิมิต ต.โคกสี อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าโดยเจตนา
พ.ต.อ.จำลอง ศุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวถึงการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคนว่า เนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา มีกลุ่มวัยรุ่น รุมทำร้าย นายสิทธิกร วงนะรัตน์ อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยศรีปทุมขอนแก่น บาดเจ็บสาหัสและเพื่อนของนายสิทธิกร ถูกฟันเข้าที่แขนและนิ้ว ขณะจอดรถจักรยานยนต์ เติมน้ำมันอยู่ภายในปั๊ม ริมถนนมิตรภาพ ใกล้สี่แยกมิตรภาพ-มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ ชื่อว่า แก๊งเหล็กไหล ซึ่งมีรายชื่อเป็นวัยรุ่นกลุ่มเสี่ยง มีที่พักในเมืองขอนแก่น ไม่มีอาชีพ ไม่ได้เรียนหนังสือ รวมกลุ่มเตร็ดเตร่ในเวลากลางคืน เจ้าหน้าที่เคยเรียกมาทำประวัติ บางคนเคยถูกจับในคดีทำร้ายร่างกาย
หลังเกิดเหตุพยานยืนยันตามภาพชัดเจน 2 คน จึงขอศาลออกหมายจับ 2 คน คือนายศราวุธ และนายปิยะ ที่ถูกจับกุมได้ในครั้งนี้ ซึ่งทั้งสองคนสารภาพว่าร่วมอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้ายนักศึกษาจริง แต่ไม่ใช่คนลงมือใช้มีดฟันคนเจ็บ ส่วนคนที่ใช้มีดฟันเป็นเพื่อน 3 คน คือ นายบอล นายเดีย และนายอาท อายุ 19-20 ปี ขณะนี้ยังหนีการจับกุมอยู่ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ขอศาลออกหมายจับในข้อหาเดียวกันแล้ว
...
ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ยังกล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาให้การว่า การลงมือเป็นการล้างแค้น เพราะเข้าใจว่า คนเจ็บและเพื่อนๆ เป็นคู่อริที่เคยมีเรื่องกันที่บึงหนองโคตร เมื่อไม่นานมานี้ กระทั่งเห็นคนเจ็บและเพื่อนๆ ที่ปั๊มน้ำมัน จึงพากันเข้าไปทำร้าย แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าทำร้ายผิดคน ผิดกลุ่ม ในส่วนของการดำเนินคดี การลงมือจำนวนหลายคนต่อผู้เสียหายคนเดียว เป็นการกระทำที่รุนแรง จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าโดยเจตนา ซึ่งเจ้าหน้าที่มีพยาน หลักฐานความผิดของผู้ก่อเหตุทุกราย หลังจับกุมตัวจึงไม่ต้องนำตัวไปทำแผนในจุดเกิดเหตุ.