รายการ ถามตรงๆ กับจอมขวัญ มาฟังว่าหลังจากที่ศาลมีคำสั่งว่า ธวัชชัย อนุกูล ถูกของแข็งกระแทกตับแตกทำให้ตายในห้องขังดีเอสไอ ไม่ใช่การฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอแล้ว ทางญาติจะไปต่ออย่างไร และดีเอสไอจะตอบคำถามคาใจได้หรือไม่...

กรณีคดีการเสียชีวิตของ "นายธวัชชัย อนุกูล" เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน จ.พังงา เสียชีวิตในห้องขังดีเอสไอ วันที่ 30 สิงหาคม 2559 ในสภาพผูกคอด้วยถุงเท้ากับประตูห้องขัง เกิดข้อกังขาหลายอย่างว่า ฆ่าตัวตายจริงหรือไม่ ด้วยเหตุผลที่นิติเวชตำรวจระบุไว้ เลือดออกในช่องท้อง ตับแตก ถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก ร่วมกับขาดอากาศหายใจจากการผูกคอ ญาติจึงคาใจ และออกมาต่อสู้ขอความเป็นธรรม คดีนี้ตกเป็นข่าวใหญ่ เพราะ นายธวัชชัย อนุกูล เป็นผู้ต้องหาคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 ด้วยพฤติกรรมออกโฉนดที่ดินผิด เสียหายหมื่นล้าน แต่เมื่อศาลมีคำสั่งออกมาแบบนี้ ปริศนาที่ต้องไขต่อ ใครฆ่าธวัชชัย?

ในรายการ ถามตรงๆ กับจอมขวัญ ทางไทยรัฐทีวี เมื่อเวลา 18.40 น. วันที่ 4 ส.ค. 2560 โดยมีแขกรับเชิญ คือ นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายนายธวัชชัย พร้อมด้วยทนายความ มาร่วมรายการ

จากที่ศาลอาญามีคำสั่ง "ธวัชชัย อนุกูล" ถูกของแข็งกระแทกตับแตกทำให้ตายในห้องขัง ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ชี้ ผลการตรวจสอบนิติเวช สภาพตับแตกเกิดก่อนตีหนึ่ง ทำให้ผู้ตายไม่มีแรงทำอะไรต่อได้ แถมมีรอยรัดตรงกลางกระเดือก ซึ่งถุงเท้าไม่อาจทำให้ตายได้ ทำให้ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ดีเอสไอแถลงออกมา 

...

โดย นายชัยณรงค์ กล่าวว่า ในการชันสูตรศพนายธวัชชัย พบว่าขณะตับแตก พบเม็ดเลือดขาวไปรักษาแผลที่ตับ ทำให้ทราบว่าย้อนเวลาไปได้ 3-4 ชั่วโมง ก่อนที่จะพบตอนตี 1 เท่ากับว่าตับแตก หรือถูกทำร้ายในเวลา 3-4 ทุ่ม และกระดูกกล่องเสียงแตก จากการถูกรัดคอจากด้านหลัง ส่วนกล้องวงจรปิดไม่สามารถกู้ข้อมูลได้ และเรื่องนี้ก็ไม่ได้ให้น้ำหนักมากนัก เพราะให้ความสำคัญกับการชันสูตรมากกว่า สิ่งสำคัญที่สุดของการไต่สวนครั้งนี้ คือ ผลชันสูตร และคำให้การของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ไม่ได้มีผลอะไรต่อรูปคดีมากไปกว่าที่เป็นข่าว

จากนี้ขั้นตอนต่อไป ศาลจะส่งสำนวนให้กับเจ้าหน้าที่อัยการ และส่งต่อให้กับพนักงานสอบสวน คือ ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ในการสืบสวนหาผู้ที่ลงมือทำให้ นายธวัชชัย เสียชีวิต ก็ต้องรอให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง สอบสวนต่อไป โดยทีมทนายยังกังวลเรื่องการหาพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน ที่จะนำมาใช้สืบสวนคดีนี้

นายชัยณรงค์ กล่าวด้วยว่า เริ่มต้น ผมให้โอกาสทางดีเอสไอมาโดยตลอด นับตั้งแต่นำศพไปผ่าพิสูจน์ ดังนั้น ขณะนี้ ดีเอสไอควรพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่ามีศักยภาพแค่ไหน ที่จะแก้ปมคาใจตรงนี้ได้.