โหด!! หนุ่มพม่าฆ่าเพื่อนร่วมชาติ หลังนั่งซดเหล้า-เบียร์จนเมาได้ที่ มีปากเสียงด่ากัน ขู่จะฟ้องเจ้าของโรงงานให้ไล่ออก รุ่นน้องฉุนขาดคว้าท่อนเหล็กหวดศีรษะใบหน้าไม่ยั้งจนกะโหลกแตก มันสมองไหล ลากศพหมกพงหญ้าหลังบ้านพักคนงาน...
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 2 ส.ค.60 ร.ต.อ.ชาญวิทย์ ดาวเรือง รองสว.(สอบสวน) สภ.หนองขาว ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ประจำจังหวัดกาญจนบุรีว่า เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตถูกฆ่า เหตุเกิดด้านหลังบ้านพักคนงานบริษัท สหพันธ์การแร่จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 114 / 1 หมู่ 1 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วงฯ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษ์ธรณ์ เอื้อประเสริฐ ผกก.สภ.หนองขาว พ.ต.ท.วรวุฒิ กาญจนวณิชย์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ชาติชาย กาญจนภูษิต สว.(สอบสวน) พ.ต.ท.วรรณะ แจ่มศรีงาม สว.สส. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ จากนั้นจึงประสานแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ร่วม มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ฯ
จากการตรวจสอบภายในห้องพักคนงานห้องที่ 3 ในจำนวน 5 ห้อง ซึ่งเป็นห้องพักของนายเมาเต็งเอา อายุ 40 ปี คนงานแรงงานชาวเมียนมา พบคราบกองเลือดไหลหยดเป็นทางไปที่บริเวณพงหญ้าด้านหลังบ้านพัก โดย พ.ต.อ.พงษ์ธรณ์ช สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ กระจายเดินค้นหา และพบว่า ที่บริเวณพงหญ้าข้างกำแพงโรงงานพบร่างของนายเมาเต็งเอา นอนหงายจมกองเลือดในสภาพลำตัวเริ่มแข็ง จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์พบว่า สภาพศพผู้ตายมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่บริเวิณใบหน้าด้านซ้าย และกะโหลกศีรษะด้านซ้ายจนแตกยับ กะโหลกแตกมันสมองไหล กระดูกแขนข้างซ้ายหัก จึงมอบศพให้มูลนิธิฯ นำศพส่ง รพ.ศูนย์ราชบุรี เพื่อผ่าพิสูจน์ตามระเบียบอีกครั้ง
...
สอบสวนปากคำนายปกรณ์ สินชีวเมธาสิทธิ์ อายุ 52 ปี เจ้าของบริษัท สหพันธ์การแร่ จำกัด ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่มของคืนวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงนายเมาเต็งเอา อายุ 40 ปี กับนายเมาซูเอา อายุ 33 ปี 2 คนงานชาวเมียนมา ที่นั่งกินเหล้าเบียร์กันอยู่ในห้องพัก ส่งเสียงร้องรำทำเพลงกันดังลั่นห้อง ตนจึงบอกเตือนให้เบาๆ เสียงลงหน่อย จากนั้นตนก็เดินกลับเข้าบ้านไป กระทั่งเช้าเวลาประมาณ 07.00 น. ตนออกจากบ้านพักมาดูคนงานทำงานก็พบนายเอาซู ขี่รถ จยย.เข้ามาในโรงงาน จึงสอบถามนายเอาซู ว่าไปไหนมา นายเอาซู บอกว่าเมื่อคืนหลังกินเหล้าเสร็จ ได้ออกไปนอนข้างนอกโรงงาน ตนจึงออกเดินตามหานายเมาเต็งเอา คนงานชาวเมียนมาอีกคนที่หายไป ไม่ออกมาทำงาน จึงเดินไปดูที่บ้านพัก ก็พบว่าภายในห้องของนายเมาเต็งเอา มีร่องรอยการต่อสู้ มีรอยคราบเลือดที่ถูกล้างแต่ยังมีกลิ่นเหม็นคาวของคราบเลือด ตนเชื่อว่าน่าจะมีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับลูกน้อง จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ประสานมูลนิธิฯ มาตรวจสอบจนกระทั่งพบศพนายเมาเต็งเอา ถูกทำร้ายแล้วนำศพไปหมกอยู่ในพงหญ้าริมกำแพงด้านหลังบ้านพัก
ส่วนนายเมาซู คนงานหายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังออกติดตามล่าตัวแรงงานต่างด้าว ผู้ต้องสงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายเมาเต็งเอา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับแพทย์กำลังชันสูตรพลิกศพนายเมาเต็งเอาอยู่นั้น นายเมาซูได้ออกจากที่ซ่อนตัวใต้เครื่องโม่หิน เดินออกมา เจ้าหน้าที่จึงตรงเข้าสอบถามเมื่อทราบว่า เป็นนายเมาซู จึงควบคุมตัวมายังห้องพัก โดยนายเมาซู ได้ยอมรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือทำร้ายนายเมาเต็งเอา เพื่อนคนงานร่วมชาติเดียวกันจริง ส่วนสาเหตุเป็นเพราะผู้ตายเมาเหล้า ถือตัวว่าเป็นคนงานเก่า และเป็นขาใหญ่ แถมพูดข่มขู่ด่าพ่อ ด่าแม่ ตนจึงแค้นด่าโต้ตอบไปบ้าง จึงถูกผู้ตายต่อยมีปากเสียงทะเลาะกัน และถูกผู้ตายต่อยหน้า จึงแค้นวิ่งเข้าไปในห้องคว้าท่อนเหล็กกระหน่ำตีผู้ตายแบบไม่ยั้ง จนนายเมาเต็งเอาเสียชีวิต และลากศพไปหมกพงหญ้าอำพรางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปทำแผนชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.