ผบ.ตร.รอรายงานผลสอบซื้อขายตำแหน่ง ภ.8 ปัดยังไม่รู้ 3 นายเป็นใคร ยันไม่ล้วงลูก จ่อตั้งรอง ผบ.ตร.สอบวินัย ลั่นจัดการเด็ดขาด ไม่หมกเม็ด
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 ส.ค.60 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหามีการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผู้บังคับการถึงสารวัตร วาระประจำปี 2559 ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานผลสรุปการตรวจสอบจาก พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) แต่ไม่ว่าผลสอบจะออกมาเป็นอย่างไร ตนก็ต้องเชื่อมั่นในกรรมการ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องพิจารณารายละเอียดก่อนว่าอาจจะต้องเพิ่มเติมประเด็นไหนหรือไม่ แต่เบื้องต้นก็เชื่อว่าครบถ้วนแล้ว ก่อนหน้านี้ได้สอบถามทางวาจามาโดยตลอดว่ามีความคืบหน้าอย่างไร แต่ยังไม่ได้รับรายงานถึงผลสรุปอย่างเป็นทางการ ตอนนี้จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะต้องดำเนินการกับใครอย่างไรบ้าง
ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ตามกระบวนการเมื่อตนได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ ก็จะต้องพิจารณาและดูว่าผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงคณะกรรมการชี้ให้ต้องดำเนินการกับใคร อย่างไรบ้าง จำเป็นต้องให้ใครออกจากพื้นที่ก่อนระหว่างการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงหรือไม่ หากผลชี้ว่าต้องให้ตำรวจนายใดออกนอกพื้นที่ ตนก็จะออกคำสั่งให้ตำรวจรายนั้นช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อน จากนั้นก็จะตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงสอบสวนทางวินัยต่อไป โดยคณะกรรมการชุดที่จัดตั้งขึ้นก็จะไม่มี พล.ต.อ.ปัญญา อยู่ในนั้น เนื่องจากเป็นหัวหน้าชุดตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นแล้ว แต่จะแต่งตั้งให้ รอง ผบ.ตร. คนใดคนหนึ่งเป็นประธานคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงและสอบสวนทางวินัยต่อไป
...
"ทราบจากข่าวว่ามีตำรวจ 3 นาย แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใครบ้าง ยศตำแหน่งอะไร เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร อาจจะเป็นลักษณะเข้าข่ายเรียกรับผลประโยชน์ก็ได้ แต่ยังไม่ชัดเจน หากผมพูดไปก่อนก็คลาดเคลื่อนเป็นประเด็นเปล่าๆ ยืนยันว่าหากพาดพิงใครก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนอยู่แล้ว ที่ผ่านมา ผมให้อิสระท่านปัญญาในการตรวจสอบ ไม่มีการแทรกแซงใดๆ ทั้งนั้น และเมื่อผลสอบออกมา ผมก็เชื่อมั่น และจะดำเนินการตรวจสอบและทำตามกระบวนการของกฎหมายถึงที่สุด ไม่มีหมกเม็ด ไม่ยกเว้นอยู่แล้ว ขอให้สังคมเชื่อมั่น และเราอยากทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนอยู่แล้ว" ผบ.ตร.กล่าวและว่า ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องการแต่งตั้งในพื้นที่ภาค 8 จึงสั่งการให้ตรวจสอบตามกระบวนการนี้ ส่วนกองบัญชาการอื่นๆ ที่พูดกัน ก็ไม่มีใครมาร้องเรียน ที่ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเฉพาะกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เพราะ นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตแกนนำ กปปส.เข้าร้องเรียน
ส่วน พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ก็ยังคงช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ หลังจากนี้จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ พล.ต.อ.ปัญญา ว่าออกมาอย่างไรเกี่ยวข้องหรือไม่ หลังจากนี้ก็ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกชุดตามกระบวนการ โดยยังไม่สามารถระบุได้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไร.