
กระตุ้นรายได้บริษัท สิงคโปร์แอร์ไลน์เดินหน้า ขายตั๋วรับประทานอาหารราคากว่าหมื่นบาท หมดเกลี้ยงภายในครึ่งชั่วโมง
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2563 เว็บไซต์ เดอะ การ์เดียน รายงาน ชาวสิงคโปร์แห่ซื้อตั๋วร้านอาหารจากสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เพื่อประสบการณ์การรับประทานอาหารบนเครื่องบินที่จอดอยู่เฉยๆ โดยตั๋วหนึ่งใบมีราคา 360 ปอนด์ หรือราว 14,606 บาท โดยลูกค้าจะได้ขึ้นไปรับประทานอาหารค่ำบนเครื่องบินจัมโบ้ แอร์บัส A380 ที่จอดในสนามบินชางงี พร้อมกับอาหารจากสายการบินที่เสิร์ฟให้ถึงที่ และสามารถดูภาพยนตร์ไปด้วยได้เสมือนกำลังเดินทางโดยเครื่องบิน
หลังจากตั๋วดังกล่าวขายดีเป็นเทน้ำเทท่าและขายหมดภายในระยะเวลาครึ่งชั่วโมง จนสิงคโปร์แอร์ไลน์ต้องเปิดให้ผู้ที่ต้องการซื้อตั๋วต่อคิว สายการบินได้เปิดบริการสำหรับใครที่พลาดซื้อตั๋วไม่ทัน ให้สามารถซื้อตั๋วราคา 501 ปอนด์ หรือราว 20,322 บาท เพื่อรับประทานอาหารระดับ เฟิสต์คลาสที่บ้านของลูกค้า ซึ่งทั้งโต๊ะอาหาร และชุดรับประทานอาหารของสายการบินจะถูกส่งตรงไปให้ถึงบ้าน
การเปิดขายตั๋วอาหารเป็นการกระตุ้นรายได้ของสายการบิน ที่ต้องสูญเงินจำนวนมหาศาลในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะที่สายการบินอื่นๆ ในเอเชีย เช่น สายการบิน EVA ของไต้หวัน เปิดบริการ เที่ยวบินที่ไม่มีจุดหมายปลายทาง "Flights to nowhere” โดยการขึ้นบินชมน่านฟ้าโดยไม่มีจุดหมายปลายทาง ขณะที่สายการบิน ออล นิปปอน แอร์เวย์ (ANA) ของญี่ปุ่น ได้เปิดเที่ยวบินธีม ฮาวาย หลังจากที่เส้นทางการบินดังกล่าวถูกระงับชั่วคราวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เดือนตุลาคมที่ผ่านมา สิงคโปรแอร์ไลน์ ประกาศเลย์-ออฟ หนักงาน 4,300 ตำแแหน่ง หรือราว 20% ของพนักงานทั้งหมด ขณะที่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ได้คาดการณ์ว่าการเดินทางในปีนี้ต่ำกว่าปี 2019 ถึง 66% ส่งผลให้งานที่เกี่ยวข้องกับสายการบินกว่าแสนตำแหน่งเสี่ยงถูกเลิกจ้าง.