
ยืนยันเสถียรภาพต่างประเทศปึ้ก-ทุนสำรองฯ หนาแน่น
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงความผันผวนในตลาดเงิน และตลาดทุนโลก ว่า ธปท.ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยยอมรับว่าความผันผวนจะยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง จากสถานการณ์ทางการเมืองทั่วโลก และแนวโน้มการปรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศอุตสาหกรรมหลักของโลก เพื่อปรับทิศทางนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติ โดยที่ ผ่านมายอมรับว่ามีเงินทุนไหลออกจากประเทศไทยบ้าง เห็นได้จากการขายหุ้น และพันธบัตรของไทย แต่เมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อื่นๆแล้ว เงินที่ไหลออกไปยังอยู่ในระดับที่น้อยกว่ามาก
ข่าวแนะนำ
“ไทยมีเสถียรภาพต่างประเทศที่เข้มแข็ง มีทุนสำรองทางการระหว่างประเทศในระดับสูง มีหนี้ต่างประเทศต่ำมากเมื่อเทียบกับทุนสำรองฯ และยังอยู่ในภาวะเกินดุลบัญชีเดินสะพัด และเศรษฐกิจฟื้นตัวดีและมีการกระจายตัวมากขึ้น แม้ว่าภาวะตลาดเงินโลกจะตึงตัวมากขึ้น ตลาดการเงินไทยก็ยังไม่ได้รับผลกระทบมากเท่ากับบางประเทศ โดยสัดส่วนการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดพันธบัตรของไทยอยู่ที่ไม่ถึง 10% ในขณะที่บางประเทศมีสูงถึง 30-40% ความผันผวนจากตลาดโลกกระทบไทยไม่มาก”
โดยในกรณีของปัญหาการเมือง และแนวโน้มการออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของอิตาลีนั้น ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ปัญหาการเมืองในประเทศอิตาลียังไม่มีผลกระทบต่อไทยโดยตรงในขณะนี้ เพราะตลาดการเงินและตลาดทุนของไทยมีความเชื่อมโยงกับประเทศอิตาลีน้อยมาก แต่ภาพรวมจะกระทบต่อเนื่องถึงตลาดการเงินโลก และเงินทุนเคลื่อนย้ายของโลกอย่างไร หรือไม่ ธปท.จะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
“ธปท.ยังคงสนับสนุนให้เอกชนไทยโดยเฉพาะรายย่อย ทำความเข้าใจในเรื่องความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท และดำเนินการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง โดยพยายามที่จะให้ความรู้และมีโครงการที่ให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กเข้ามาทดลองป้องกันความเสี่ยง ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะมีรายย่อยจำนวนหนึ่งที่เข้ามาทำจริง แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องยกเลิกโครงการไป เพราะธุรกิจเกิดใหม่ตลอดเวลา เราก็ต้องสอนตั้งแต่เริ่มต้นใหม่เช่นกัน ไม่อย่างนั้นธุรกิจใหม่ก็จะไม่มีความรู้ความเข้าใจในการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน”.