
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และผู้บริหารของ ททท. ได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อรับปัญหาที่เป็นวิกฤติของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่เป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยนางศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า ได้เสนอประเด็นปัญหาของธุรกิจโรงแรม ที่หากภาครัฐและสถาบันการเงินยังไม่เข้ามาช่วยเหลือ เชื่อว่าเม็ดเงินที่โรงแรมและสถานที่พักแรม เป็นลูกค้ากู้เงินรวม 700,000 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจที่พักแรม 400,000 ล้านบาท และที่พักแรมกับห้องอาหาร 300,000 ล้านบาท จะเกิดปัญหาเป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อย่างแน่นอน โดยกลุ่มที่จะต้องปิดกิจการและกลายเป็นหนี้สูญคือ อย่างน้อย 50% ของสินเชื่อสถานที่พักแรม คิดเป็นวงเงิน 200,000 ล้านบาท จะกระทบกับความมั่นคงของสถาบันการเงินแน่นอน
นางศุภวรรณ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญ คือ ขอให้ภาครัฐตั้งกองทุนเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในช่วงวิกฤติโควิด-19 วงเงิน 100,000 ล้านบาท เพื่อให้ธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งมีอยู่จำนวนมาก เช่น โรงแรมกว่า 10,000 แห่ง บริษัททัวร์กว่า 10,000 ราย เข้าถึงแหล่งเงินง่ายขึ้น เพราะไม่สามารถกู้มาเสริมสภาพคล่องได้ เนื่องจากธนาคารทุกแห่งยังคงยึดหลักเกณฑ์การปล่อยกู้ตามธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่มีใครกู้ได้ อย่างกรณีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ของธนาคารออมสินที่ปล่อยกู้แก่ภาคท่องเที่ยวโดยเฉพาะ วงเงิน 10,000 ล้านบาท มีผู้ประกอบการที่กู้ได้เพียง 390 ราย คิดเป็นวงเงิน 1,000 ล้านบาท จากผู้ประกอบการที่ยื่นขอกู้ทั้งหมดมากกว่า 1,000 ราย.