
นำร่องรถเมล์ 387 คัน 129 เส้นทาง ติดเครื่องฟอกอากาศลดฝุ่นพิษ
เทงบ 22 ล้านบาทติดต้ังทุกคัน
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยความคืบหน้าการนำเครื่องฟอกอากาศเคลื่อนที่ เพื่อติดบนหลังคารถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า
ข่าวแนะนำ
ขบ.ได้ประสานงานร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เพื่อจัดทำเครื่องฟอกอากาศเคลื่อนที่ ที่ระยะแรกจะเป็นการนำร่องติดตั้งกับรถเมล์ต้นแบบ ขสมก. จำนวน 3 คันต่อเส้นทาง ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 129 เส้นทางทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล รวม 387 คัน ซึ่งรถเมล์ที่จะนำมาติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ขสมก.เป็นคนคัดเลือกมา ส่วน ขบ.มีหน้าที่ในการตรวจมาตรฐานการติดตั้ง เนื่องจากเป็นการติดตั้งจากภายนอกรถเมล์ ที่จะทำการติดตั้งภายในสัปดาห์นี้
“การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศดังกล่าว ขบ.จะเป็นผู้ควบคุมรวมถึงการประเมินผลที่จะเกิดขึ้นจริง ซึ่งมั่นใจว่าประชาชนที่ใช้บริการรถเมล์ ขสมก. จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ ส่วนค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง ขสมก.จะเป็นผู้รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่มีราคาเฉลี่ยที่ 7,500 บาทต่อเครื่อง ส่วนไส้กรองอากาศราคาแผ่นละ 300-500 บาท โดย 1 แผ่นมีอายุการใช้งาน 15 วัน”
ทั้งนี้ เมื่อมีการใช้งานจริงและมีการทดสอบคุณภาพ ไม่มีปัญหาก็จะขยายผลนำไปติดตั้งในรถเมล์ของ ขสมก.ให้ครบทั้ง 3,000 คัน คาดว่าใช้งบประมาณรวม 22 ล้านบาท หากในอนาคตการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศได้ผลดี ก็จะขยายผลไปใช้กับรถร่วมบริการ ขสมก.ต่อไป ในรูปแบบการขอความร่วมมือติดตั้งมากกว่าการบังคับ
นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศดังกล่าว มีโอกาสที่จะประสบผลสำเร็จ เนื่องจากรถเมล์ 3,000 คัน ในแต่ละวันวิ่งให้บริการประชาชนเฉลี่ย 10-12 เที่ยวไปกลับ ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล รวมแล้วมีรถวิ่ง 23,000 เที่ยว จึงมีส่วนสำคัญช่วยการกรองอากาศลดฝุ่นพิษ พีเอ็ม 2.5 รวมทั้ง สามารถขยายผลไปยังรถตู้ที่อยู่ในกำกับดูแลของ ขสมก. อีก 2,000 คัน ส่วนเรื่องการติดตั้งอุปกรณ์กรองอากาศบนหลังคารถ ก็เชื่อว่าไม่มีปัญหาเนื่องจากปัจจุบันสามารถติดตั้งได้โดยไม่ต้องเจาะตัวถังรถ และไม่ได้มีการใช้ระบบไฟฟ้า.