วิธีขับรถขึ้นลงเขาอย่างปลอดภัย ไปถึงภูเขาได้ทุกที่!

การสัมผัสธรรมชาติบนภูเขาพร้อมกับอากาศที่เย็นสบายค่อนข้างไปทางหนาว เป็นการขับรถพักผ่อนในวันหยุดเพื่อความผ่อนคลายท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ขับรถท่องเที่ยวไปตามเส้นทางภูเขา เป็นหนึ่งในกิจกรรมฤดูหนาวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย เมื่ออากาศเย็นลง ตามยอดดอย หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นยอดภู เนินเขาสูง ดอยต่างๆ ทางภาคเหนือหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ข้อควรระวังก็คือ แน่นอนว่า นี่คือเส้นทางที่ไม่ได้ขับผ่านบ่อยๆ โดยเฉพาะทางขึ้นลงเนินที่สูงชันและเต็มไปด้วยโค้งพับไปพับมา การไม่คุ้นเคยกับเส้นทาง หรือเป็นผู้ขับขี่มือใหม่ที่ไม่เคยขับรถขึ้นหรือลงเขามาก่อน อาจเกิดอันตรายได้หากไม่รู้วิธีขับขี่อย่างถูกต้อง

1. ควบคุมความเร็วของรถ
เมื่อขับลงเขา การควบคุมความเร็วของรถให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมมีความสำคัญ การใช้ความเร็วตามป้ายกำหนด เมื่อขับผ่านโค้งบนเส้นทางภูเขาแนะนำว่าให้อยู่ห่างจากเส้นทึบแบ่งเลน เนื่องจากรถบางคันที่เป็นรถใหญ่ อาจวิ่งกินเลนในบริเวณโค้งที่เป็นจุดบอด นั่นก็คือ โค้งที่มองไม่เห็นส่วนปลายหรือทางออกของโค้ง ห้ามเพิ่มความเร็วของรถขณะขับลงเขาอย่างเด็ดขาด เนื่องจากขณะที่วิ่งลงมาจากเนินเขา ความเร็วอาจเพิ่มสูงขึ้นเมื่อไม่ได้มีการชลอหรือลดความเร็วด้วยการใช้เบรก (แบบค่อยเป็นค่อยไป) ยิ่งขับลงมาเร็ว เมื่อเจอเข้ากับโค้งสลับซ้ายทีขวาที ก็ต้องใช้เบรกอย่างต่อเนื่อง ความเร็วบวกน้ำหนักของรถทำให้เบรกถูกใช้งานอย่างหนักจนอาจก่อให้เกิดอาการเบรกเฟรดหรือเบรกไม่อยู่เนื่องจากอุณหภูมิในระบบเบรกสูงเกินไป  เมื่อขับรถขึ้นเนินและผ่านโค้งยาว แนะนำให้เพิ่มความระมัดระวัง รักษาระดับความเร็วให้ช้าลงเพื่อความปลอดภัย สิ่งสำคัญที่สุดคือ การควบคุมคันเร่งอยู่ตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกหนักๆ บ่อยครั้ง อาจมากเกินไปจนผ้าเบรกร้อนแล้วเบรกไม่อยู่  

2. ใช้เกียร์ให้เหมาะสม
เมื่อขับบนเส้นทางที่ลาดชันมาก รถอาจไม่มีกำลังเพียงพอที่จะขึ้นเขาต่อไปได้  ควรเปลี่ยนไปใช้เกียร์ต่ำตามระดับความลาดชัน เกียร์ที่แนะนำคือ เกียร์ 1 หรือ 2 สำหรับเกียร์ธรรมดา และเกียร์ D2, D3, S, L สำหรับเกียร์อัตโนมัติ การขับลงเนินหรือลงทางลาดชัน  อย่าใส่เกียร์ว่างหรือเกียร์ N แล้วปล่อยให้รถไหลลงเขาอย่างอิสระ เพราะจะทำให้รถวิ่งเร็วเกินไปและควบคุมยาก  แนะนำให้ใช้เกียร์ต่ำเพื่อช่วยชะลอความเร็ว 

3. ห้ามเหยียบเบรกค้างไว้ขณะลงเนิน
อย่างที่บอกว่าการใช้เบรกอย่างต่อเนื่องขณะขับลงเขาด้วยความเร็ว ทำให้ระบบเบรกมีอุณหภูมิสูงขึ้น ยางทำงานหนักขึ้น และเริ่มจะอันตรายมากขึ้นจากสภาพเส้นทางที่ส่วนใหญ่ไม่เหมาะกับการขับเร็ว การใช้เบรกอย่างต่อเนื่องขณะขับลงเนินสูงชัน  ทำให้ผ้าเบรกเสียดสีกับจานเบรกซ้ำๆ จนอุณหภูมิของระบบสูงเกินขีดจำกัด  อาจทำให้ผ้าเบรกและจานเบรกไหม้ จนใช้งานไม่ได้ เมื่อขับลงเนินก็ลดความเร็ว อยู่ให้ห่างจากเส้นทึบกลางเลน  ใช้เกียร์ต่ำ และเบรกเฉพาะเมื่อจำเป็  ห้ามเหยียบเบรกค้างเหยียบแช่เด็ดขาด

4. ระวังโค้ง
เส้นทางขึ้นและลงเขาจะแคบ คดเคี้ยว หรือวกไปวนมา ไม่แนะนำให้ขับด้วยความเร็ว หรือขับจี้ท้ายรถคันหน้าแบบกระชั้นชิดมากจนเกินไป นอกจากจะเสียมารยาทแล้ว การขับจี้ท้ายใกล้เกินไปทำให้ระยะเบรกหดสั้นลงไปอีก ขับแบบทิ้งหรือเว้นระยะห่าง เผื่อระยะเบรกถ้าขับเอสยูวีหนัก 2.5 ตัน เพื่อความปลอดภัย เมื่อเข้าโค้งหักศอก ให้เพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ รถที่เร็วกว่า ก็ควรเปิดโอกาสให้เค้าแซงผ่านขึ้นไปด้วยการขับชิดไหล่ทาง ไม่ใช่ขับช้าแล้วยังทำตัวเป็นตะเข้ขวางคลอง ใช้แตรหรือสัญญาณไฟสูงกระพริบหนึ่งหรือสองครั้ง เพื่อส่งสัญญาณให้รถคันหน้าทราบว่ากำลังจะแซง ห้ามเปลี่ยนเลนขณะเลี้ยวเด็ดขาด

5. ห้ามแซง
เส้นทางบนภูเขาอุดมไปด้วยโค้งเยอะจนเวียนหัว หากไม่ชินเส้นทาง กำลังของรถไม่แรงพอ ไม่ควรแซงรถคันอื่นเด็ดขาด เหตุผลหลักคือ การแซงอาจทำให้เกิดการชนกับรถที่วิ่งสวนทางมาได้  ในกรณีที่แย่ ไม่ประสานงาก็อาจหักหลบจนตกจากภูเขาได้ ซึ่งเคยเกิดมาแล้วบ่อยๆ. 

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th  
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom  
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358