อุณหภูมิคือศัตรูตัวฉกาจของระบบเกียร์อัตโนมัติ เมื่อน้ำมันเกียร์ร้อนจัด จะทำให้การทำงานของเกียร์เกิดปัญหา ออยเกียร์ หรือออยคูลเลอร์เกียร์ มีความสำคัญ การขับขี่ที่หนักหน่วง เส้นทางภูเขา ลากจูงเทรลเลอร์ และการบรรทุกของหนัก ทำให้เกียร์อัตโนมัติร้อนจัดเกินไป ส่งผลให้อายุการใช้งานของเกียร์สั้นลง ออยเกียร์เสริมช่วยลดอุณหภูมิของระบบส่งกำลังได้ อุณหภูมิสูงส่งผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานที่สั้นลง แม้ว่าจะมีระบบแยกกัน ถ้าเครื่องยนต์ร้อนจัดเกินไป ก็อาจทำให้เกียร์ร้อนจัดตามไปด้วย ระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์และเกียร์ ควรได้รับการดูแลเป็นประจำ
น้ำมันเกียร์ในรถยนต์เกียร์อัตโนมัติจะหล่อลื่นชิ้นส่วนเกียร์และทำให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างราบรื่น ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามคำแนะนำของผู้ผลิต โดยทั่วไปทุกๆ 40,000 ถึง 60,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับประเภทรถและสภาพการใช้งาน การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์เป็นประจำจะช่วยป้องกันการสึกหรอของระบบเกียร์ นอกจากการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์แล้ว ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไส้กรองน้ำมันเกียร์อยู่ในสภาพดี ไส้กรองที่สกปรกอาจขัดขวางการไหลของน้ำมันและเพิ่มอุณหภูมิของเกียร์ ซึ่งอาจทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ เสียหายได้ ควรตรวจสอบไส้กรองเป็นประจำและเปลี่ยนใหม่ทันทีที่ของเดิมใช้งานมานานแล้ว
...
รถยนต์เกียร์อัตโนมัติมีระบบหล่อเย็นเพื่อรักษาอุณหภูมิของระบบเกียร์ให้คงที่ หากระบบหล่อเย็นทำงานผิดปกติ อุณหภูมิของเกียร์อาจสูงขึ้นและทำให้เกิดความเสียหายได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบหล่อเย็นหรือระบบระบายความร้อน ปั้มน้ำ วาว์ลน้ำ สายพาน พัดลมไฟฟ้า หม้อน้ำและถังพักหม้อน้ำรวมถึงอุปกรณ์ในระบบหล่อเย็นของเกีบร์อัตโนมัติหรือออยเกียร์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ และหมั่นตรวจสอบระบบหล่อเย็นเป็นประจำเพื่อลดปัญหาเครื่องยนต์และเกียร์มีอุณหภูมิสูงขณะขับใช้งาน
แน่นอนว่า การขับรถเกียร์อัตโนมัติมีความสะดวกสบายจนทำให้เกียร์ธรรมดาเริ่มสาบสูญ ความสบายไม่ต้องคอยเลี้ยงคลัชต์อาจไม่ถูกใจนักขับรุ่นเก่าและขาซิ่งที่ชอบยัดเกียร์เอง แต่ข้อดีมากมายของเกียร์ออโต้โดยเฉพาะการใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นวิ่งๆหยุดๆ แค่ใช้เท้าขวาขับสลับไปมาระหว่างคันเร่งและเบรก โดยเท้าซ้ายของคนขับเอาไว้แค่กระดิกเล่นเท่านั้นเอง
...
เหยียบเบรกตอนก่อนสตาร์ท เหยียบเบรกในจังหวะเกียร์ว่าง หรือเกียร์จอดแล้วจะเลื่อนคันเกียร์ไปยังตำแหน่งขับเคลื่อนไม่ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง
จะเข้าเกียร์เพื่อเคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง ทุกครั้ง รถต้องหยุดสนิทก่อนเลื่อนคันเกียร์ไปยังตำแหน่งเกียร์ถอย การเลื่อนคันเกียร์จากเดินหน้าหรือ D ไปยังตำแหน่งถอยหลังหรือ R ห้ามใจร้อน รถยังไม่หยุดสนิทดีก็ทำการเลื่อนคันเกียร์สวนทันที คุณจะได้ยินเสียงดังกึก นั่นคือฟันเฟืองที่เปลี่ยนจากเกียร์เดินหน้ามาเป็นเกียร์ถอยหลังอย่างฉับพลันทันที ทำแบบนั้นบ่อยๆ เกียร์จะสึกหรอลงอย่างรวดเร็ว แม้จะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะก็ไม่มีวันทำให้เฟืองเกียร์ที่สึกหรอไปแล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ หยุดให้นิ่งสนิทดีแล้ว ค่อยๆเลื่อนคันเกียร์ไปยังตำแหน่งที่ต้องการไม่ว่าจะถอยหรือจอด
...
บางคนมักจะหาวิธีการขับที่ช่วยทำให้ประหยัด เช่น เห็นทางลงเนินยาว ความที่อยากประหยัดน้ำมันก็เลื่อนคันเกียร์จาก D ในตำแหน่งเดินหน้า ไปที่ N ซึ่งเป็นตำแหน่งของเกียร์ว่าง นั่นจะทำให้เกียร์สึกหรออย่างรวดเร็ว เนื่องจากช่วงที่ปลดเป็นเกียร์ว่าง ชิ้นส่วนของเกียร์ยังคงหมุนอยู่ แต่ไม่มีแรงดันน้ำมันและน้ำมันหล่อลื่นเข้าไปในระบบอย่างพอเพียง ทำให้เกียร์ร้อนและเกิดการสึกหรอเสียหายได้ ด้วยเหตุนี้เอง การลากจูงรถเกียร์อัตโนมัติจึงไม่นิยมทำกัน หรือหากจำเป็นต้องลากรถเกียร์ออโต้ ก็ควรใช้ความเร็วต่ำมาก หรือลากในระยะทางสั้นๆ เท่านั้น การลากต้องมีการเติมน้ำมันเกียร์เพิ่มเข้าไปในระบบ ซึ่งยุ่งยากมากกว่าเกียร์ธรรมดาที่สามารถลากได้เลย หรืออีกทางหนึ่งก็คือยกล้อขับเคลื่อนที่เกียร์เชื่อมต่อ ให้ลอยขึ้นก่อนลาก ใช้วิธีจดเบอร์รถสไลด์ออนเอาไว้เผื่อต้องพึ่งบริการหากรถเกิดเสียกลางทาง ไม่ต้องลากไปมาจนเกียร์เสียหาย
ตำแหน่งเกียร์ D2 จะมีแค่เกียร์ 1-2 ใช้อัตราทดสูง ออกแบบอัตราทดมาเพื่อการวิ่งขึ้นเขาลงเนินสูงชัน หรือใช้ในกรณีที่ต้องการกำลังฉุดลากมากเป็นพิเศษ เช่น ตอนขับขึ้นภูเขาสูงชัน หรือเมื่อต้องการหน่วงความเร็วรถเมื่อต้องวิ่งลงทางชันทางลงเขาที่มีโค้งมุมแคบดักรออยู่ ห้ามใช้เกียร์ D2 ขณะที่วิ่งด้วยความเร็วสูง เพราะจะทำให้เครื่องยนต์มีรอบสูงตามไปด้วย จนกระทั่งเกินพิกัดและเกิดความเสียหาย รถรุ่นใหม่ส่วนมากจะมีซอฟต์แวร์ของระบบป้องกันการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ท่ีไม่มีความสัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ เมื่อวิ่งที่ย่านความเร็วสูงกดแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัยเพื่อลดเกียร์ลงมาเกียร์ต่ำ หากมีกลไกป้องกันดังกล่าว เกียร์จะไม่เปลี่ยนลงให้จนกว่ารอบเครื่องยนต์จะอยู่ในเกณฑ์ที่มีความสัมพันธ์กับรอบการหมุนของเกียร์ ช่วยลดความสึกหรอเสียหายก่อนเวลาอันควร หากรถคุณไม่มีระบบดังกล่าว ควรใช้ความระมัดระวัง ไม่เปลี่ยนเกียร์ลงต่ำเมื่อรอบเครื่องยนต์ยังสูงอยู่
...
การใช้งานเกียร์อัตโนมัติในตำแหน่ง D เกียร์จะเปลี่ยนอัตราทดขึ้น-ลงให้เองตามความเหมาะสมของสภาพทาง นักขับบางคนทำตัวเป็นพวกรู้มากใช้วิธีเปลี่ยนเกียร์โดยเลื่อนคันเกียร์ หรือกดแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัยไปตามจังหวะด้วยตัวเอง โดยเปลี่ยนในจังหวะที่รอบเครื่องยนต์สูงสุด หรือคิกดาวน์กดคันเร่งลงจนสุดเพื่อให้เกียร์เปลี่ยนลงต่ำสำหรับเร่งแซง เพื่อความมันในอารมณ์แบบรถแข่ง และเพื่อหวังผลในด้านอัตราเร่ง ทำบ่อย ผ้าคลัตช์ในเกียร์จะสึกหรอ
การลดเกียร์ลงต่ำ ควรทำเมื่อจำเป็นเท่านั้น เช่น เมื่อต้องขับลงเขาแล้วทางข้างหน้าเป็นทางโค้ง หรือต้องการเร่งความเร็วเพื่อแซงรถช้าด้วยการกดคันเร่งลงไปจนสุด ผ้าคลัตช์เป็นอุปกรณ์ในเกียร์ที่จะต้องรับแรงทำหน้าที่หนัก อาจเกิดความสึกหรอมากกว่าการขับปกติ
ของเหลวหล่อลื่นเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ น้ำมันเกียร์ออโต้ช่วยลดการสึกหรอ ลดความร้อนและเป็นตัวเชื่อมการทำงานของเกียร์ การดูแลเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะทาง 40,000 กิโลเมตร หรือบางคนใช้รถน้อย ก็ 60,000 กิโลเมตร ใช้น้ำมันเกียร์ที่โรงงานกำหนดมาให้อย่างถูกต้องจะช่วยยืดอายุเกียร์ ควรตรวจเช็กระดับน้ำมันเกียร์ หรือดูรอยรั่วซึม น้ำมันเกียร์ต่างจากน้ำมันเครื่องยนต์ตรงสี สีแดงของน้ำมันเกียร์ที่รั่วซึมลงพื้นต่างจากสีดำของน้ำมันเครื่อง หากพบว่าใต้ท้องรถบริเวณพื้นที่จอดประจำมีน้ำมันสีแดงหยด หรือกองอยู่ ก็นำไปให้ช่างเกียร์ตรวจสอบได้เลย หากปล่อยไว้จนน้ำมันเกียร์พร่อง หรือเหลือน้อยกว่าที่กำหนด จะทำให้เกียร์สึกหรออย่างรวดเร็วครับ.
หมายเหตุ...."ออยเกียร์" ย่อมาจาก ออยคูลเลอร์เกียร์ (Oil Gear Cooler) อุปกรณ์สำหรับระบายความร้อนของน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ทำหน้าที่ลดอุณหภูมิของน้ำมันเกียร์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อยืดอายุการใช้งานของเกียร์และน้ำมันเกียร์ให้ยาวนานขึ้น ช่วยลดการสึกหรอของชิ้นส่วนภายใน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเกียร์.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/