ในปัจจุบันการต่ออายุใบขับขี่กำลังค่อยๆได้รับการปรับปรุงความสะดวกมากขึ้นเรื่อยๆ ผลจาก COVID-19 ทำให้ขั้นตอนต่างๆถูกปรับเปลี่ยนเพื่อให้หลายอย่างสามารถทำที่บ้านก่อนได้ ลดโอกาสที่ต้องมาอยู่รวมกันในสถานที่คนเยอะ สำหรับ Update ล่าสุดของการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ปี 2568 นั้น มีรายละเอียดอย่างไร อ่านในบทความได้เลยครับ

สัปดาห์นี้น้าฉ่าง อาคม รวมสุวรรณ น่าจะไม่ค่อยว่าง เลยหาเรื่องให้ผมควานหาข้อมูลเรื่องการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์มาให้หน่อย ผมก็ท้วงแล้วว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำได้ว่าน้าแกเขียนไปแล้ว นึกว่าน้าแกความจำเสื่อม แต่เปล่าหรอกครับ น่าจะอยากเตรียมข้อมูลให้หลานสาวคนสวยของแกไปต่ออายุใบขับขี่เสียมากกว่า แต่ไม่แน่ใจว่าคิดผิดหรือเปล่าที่มาไหว้วานมนุษย์ยุคหิน ผู้ซึ่งเกิด แก่ เจ็บ..และทันต่อการทำใบขับขี่แบบตลอดชีพ แล้วผมจะเอาข้อมูลที่ไหนมาเขียน ก็ต้องอาศัยข้อมูลจากเว็บมารวมๆกันนี่ล่ะครับ

การต่ออายุใบขับขี่ สิ่งที่ต้องถามหลานก็คือ เราจะต่ออายุใบขับขี่รถยนต์จากแบบ 2 ปี (ชั่วคราว) เป็นแบบ 5 ปีหรือเปล่า ถ้าเป็นกรณีนั้นอาเองก็ได้ลองค้นมาหลายเว็บแล้วพูดตรงกันว่า “ไม่ต้องอบรม e-Learning ก็จองคิวและเข้าไปทำเรื่องที่ขนส่งได้เลย” คือเราสามารถจองคิวเพื่อต่ออายุใบขับขี่บนแอพพลิเคชั่น DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/ ก็ได้เช่นกัน หลายที่บอกว่า Walk-in ได้เลย แต่แนะนำว่า เราอยู่ในเขตที่ต้องติดต่อสาขาไหน ให้โทรสอบถามก่อน เพราะผมก็ค้นเจอเหมือนกันว่า บางทีต้องจองคิวเท่านั้น บางที่ต้อง Walk-in เท่านั้นไม่รับจองคิว ผมเองยังไม่แน่ใจ ถ้าเก็บข้อมูลสักปีว่าทำได้เหมือนกันทั่วประเทศจะมาอัปเดตอีกครั้ง แต่นี่ไม่อยากให้เสียเวลา เลยยังแนะให้โทรถามแต่ละแห่งก่อน ยกเว้นพวกสำนักงานสาขาใหญ่ๆ อาจจะได้ทั้งสองแบบจริงๆ

...

สำหรับคนที่ต้องการต่ออายุใบขับขี่จากแบบ 5 ปี เป็นแบบ 5 ปี คราวนี้ เราต้องอบรมด้วยแล้วล่ะครับ โดยเราต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ www.dlt-elearning.com เตรียมเลขบัตรประชาชน อีเมล เบอร์โทรศัพท์ไว้กรอกด้วยนะครับ แล้วก็เลือกประเภทใบขับขี่ที่เราจะอบรม ก็คือแบบใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลนั่นล่ะ ยกเว้นว่าหลานๆคนไหนขับรถขนส่งหรือรถสาธารณะก็เลือกให้มันถูกแบบที่เราทำ แล้วเราก็ต้องอบรม 1 ชั่วโมงสำหรับกรณีรถส่วนบุคคล อย่าเพิ่งบ่นนะหนู พวกรถสาธารณะนี่ต้องอบรม 3 ชั่วโมงเลยนะ นั่งกันก้นแบนเลยทีเดียว

ตอนดูวิดิโออบรมก็อย่าเสียสมาธิ เพราะตอนท้ายเขาจะให้เราทำแบบทดสอบว่าได้ฟังสิ่งที่วิดิโอมันอบรมเรามาจริง แล้วกดส่งคำตอบไป เมื่อผ่านการอบรมแล้วอย่าลืมบันทึกภาพหน้าจอว่าได้ผ่านการอบรมแล้วไว้ด้วยนะครับเพราะต้องใช้เป็นหลักฐานยืนยันตอนไปยื่นต่ออายุใบขับขี่ที่ขนส่งฯ ตอนแรกเหมือนว่าใบนี้จะมีอายุใช้งานได้ 90 วัน แต่ล่าสุดเหมือนจะขยับเป็น 180 วัน เพื่อให้สัมพันธ์กับการต่ออายุล่วงหน้า ซึ่งแต่เดิมคุณต่ออายุได้เร็วสุด 90 วันก่อนวันหมดอายุ ตอนนี้ก็ขยับเป็น 180 วันให้แล้ว คือถ้า 6 เดือนคุณหาวันว่างไม่ได้เลยเราก็โทษกรมขนส่งฯไม่ได้แล้วล่ะครับ

แล้วก็ ถ้าลืมต่ออายุจนใบขับขี่มันขาดช่วงอายุไป คุณจะเดือดร้อนต้องไปอบรมหลักสูตรหลายชั่วโมงนะครับ ถ้าขาดต่ออายุเกิน 3 ปี ก็คือต้องทำเหมือนไปสอบเอาใบขับขี่ใหม่อีกครั้ง ดังนั้น หาเวลานะหลานๆ อย่าลืมเรื่องนี้ ผู้ชายเลวๆลืมมันบ้างก็ได้ แต่อย่าลืมต่ออายุใบขับขี่

ทีนี้ คุณก็ต้องเอาหลักฐานที่จำเป็น ไปติดต่อยังกรมขนส่งทางบกสำนักงานที่คุณสะดวก สมัยนี้ไม่ต้องไปขนส่งตามภูมิลำเนาหรือตามที่อยู่ในทะเบียนบ้านแล้วครับ เตรียมสิ่งเหล่านี้ให้พร้อม

-บัตรประชาชนตัวจริง
-ใบขับขี่ใบเดิมของเรา
-ใบรับรองแพทย์ที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือน
-ถ้าจองคิวออนไลน์มาก็เตรียมหลักฐานการจองคิวไว้ด้วยครับ
-หลักฐาน Cap จอ ไอ้ใบที่มันยืนยันว่าเราผ่านการอบรมมาแล้ว
-และเตรียมค่าธรรมเนียมต่อใบขับขี่รถยนต์ 505 บาทไว้ด้วยครับ

ก่อนไปขนส่ง อย่าลืม แต่งตัวสุภาพ เหมือนจะไปสมัครงานนะครับ เพราะได้ยินว่า ใส่ขาสั้น เสื้อกล้าม แขนกุด อะไรทำนองนี้ เขาไม่ถ่ายรูปให้ และมันจะมีขั้นตอนที่ต้องถ่ายรูปเพื่อใช้บนใบขับขี่ซึ่งจะถ่ายโดยเจ้าหน้าที่ของทางกรมฯนั่นล่ะครับ เก็บชุดเก๋ไว้ไปเท่กับเพื่อนนะ พอดีขนส่งฯเขาเป็นคนทำงาน เขาไม่ใช่เพื่อนดริงค์

...

เมื่อไปที่สำนักงานขนส่งฯ เราก็ไปยื่นเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร เขาจะให้เราลงนามในใบคำขอต่ออายุใบขับขี่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะแนะนำคุณต่อไปยังห้องทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ตา และเท้า เพื่อพิสูจน์ว่าเรายังมีความสามารถที่จะขับรถได้ ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร จากนั้นถ้าผ่านก็จ่ายเงิน แล้วรอใบขับขี่ใบใหม่ของคุณเลย

แบบนี้หลานๆก็ทำเองได้ไม่ต้องพึ่งพาคุณพ่อคุณแม่ช่วยแล้วล่ะครับ ผมเองจะบอกว่า คนรุ่นผมนี่น่าอิจฉาตรงที่เราทำใบขับขี่ตลอดชีพได้ ไม่ต้องกลับไปต่ออายุ ไปทดสอบสมรรถภาพใหม่ แต่ในทางกลับกัน หากมองในแง่ความปลอดภัย คนเราพอแก่ตัวลงสมรรถภาพร่างกายก็ไม่ได้ว่องไวเหมือนก่อน บางที การที่ได้กลับไปทดสอบ 5 ปีต่อครั้ง ก็ไม่ได้บ่อยเกินไปและเป็นการทำเพื่อความปลอดภัยของผู้อื่นที่ใช้ถนนร่วมกับเรา ถ้าเรากะจะขับรถไปจนอายุ 80 ผมว่าเราก็ไปทำเรื่องที่ขนส่งแค่ 12-13 ครั้งในชีวิตครับ มองแบบนี้จะน่ารำคาญน้อยลง

ทางกรมขนส่งทางบกเอง ก็กำลังพิจารณาที่จะปรับวิธีการต่ออายุใบขับขี่ใหม่อยู่ครับ ล่าสุดเดือนเมษายนที่ผ่านมา เห็นว่าจะพยายามเสนอให้มีการงดเว้นการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย สำหรับคนที่เขาดูโหงวเฮ้งแล้วว่าอายุยังอยู่ในเกณฑ์ไม่หูตาฝ้าฟาง ยังมีร่างกายที่สมบูรณ์ ก็ไม่ต้องทดสอบร่างกาย แต่ถ้าคนที่อายุเกินเกณฑ์ หรือไปประสบอุบัติเหตุมาจนขับรถไม่ได้มานานเกินเกณฑ์ อาจจะยังต้องเข้าทดสอบสมรรถภาพอยู่ ซึ่งเขาน่าจะกำลังคุยหารือกันว่าเกณฑ์ต่างๆเหล่านี้จะมีรายละเอียดอย่างไร

ถ้าไม่ชอบ..ก็จะเล่าแค่ว่าสมัยอานั้น ต่ออายุใบขับขี่นี่ไม่มีคำว่าผ่านเว็บผ่านแอพครับ เตรียมเอกสารเอง ไปนั่งรอเอง ครึ่งวันเพื่อยื่นเรื่อง แล้วก็ต้องรออีก 3 หรือ 7 วันเพื่อกลับมารับใบขับขี่อีกรอบครับ ไม่ได้สะดวกเหมือนสมัยนี้ เทคโนโลยีมันช่วยเซฟเวลาให้เราเหลือไปยุ่งกับชีวิตคนอื่นมากขึ้น ไม่ได้ด่าใครนะ อุ๊บส์

...

Pan Paitoonpong