น้ำมันเครื่องเลือกยังไง เปลี่ยนที่ระยะทางเท่าไร? สังเคราะห์ หรือธรรมดา?

การเสื่อมสภาพของน้ำมันเครื่องซึ่งถือเป็นหัวใจของการหล่อลื่นเกิดขึ้นทุกครั้ง อย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อเราใช้รถ จากการสัมผัสกับอุณหภูมิที่สูงอย่างต่อเนื่อง ความชื้นจากสภาพอากาศในประเทศไทย ใช้งานหนัก วิ่งๆ หยุดๆ ท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ เมื่อน้ำมันเครื่องเริ่มหมดประสิทธิภาพ จะเกิดการก่อตัวของคราบสกปรก กากตะกอน ที่เป็นตัวการทำร้ายเครื่องยนต์ให้ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ เครื่องยนต์ส่งเสียงดัง กินน้ำมัน และเร่งไม่ขึ้น 

สารเติมแต่งที่อยู่ในน้ำมันเครื่อง เมื่อใช้งานไปนานๆ ก็จะเสื่อมสภาพ เมื่อสารเติมแต่งเสื่อมสภาพ น้ำมันเครื่องจะไม่สามารถจัดการกับสิ่งสกปรกและกากตะกอน ทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ก่อให้เกิดกากตะกอน และไม่สามารถปกป้องเครื่องยนต์จากการกัดกร่อนและสึกหรอ ไปอุดตันทางเดินน้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์ ส่งผลให้เกิดความเสียหาย ตามมาด้วยค่าซ่อมที่ไม่ใช่ถูกๆ บางคันถึงกับต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่กันเลยทีเดียว 

ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องยนต์
ควรรอให้เครื่องเย็นก่อน แล้วค่อยดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องยนต์ออกมาทำความสะอาด แล้วเสียบกลับเพื่อดึงออกมาดูระดับของน้ำมันเครื่องอีกครั้ง หากพบว่าน้ำมันเครื่องต่ำกว่ากำหนดก็ควรจะเติมเพิ่ม หรือตรวจสอบหาจุดรอยรั่วซึม ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องยนต์ ตามเกรดของน้ำมันเครื่องที่เลือก เกรดธรรมดา เปลี่ยนที่ 3,000-5,000 กิโลเมตร เกรด เซมิ-ซินเทติก (กึ่งสังเคราะห์) เปลี่ยนที่ 7,000-10,000 กิโลเมตร ส่วนน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ เปลี่ยนที่ 15,000 กิโลเมตร  ไม่ควรใช้จนถึง 20,000 กิโลเมตรตามเกณฑ์ สภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย รวมกับลักษณะของการขับใช้งานจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้น้ำมันเครื่องยนต์เสื่อมสภาพลงไปเรื่อยๆ

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกครั้ง ควรจดบันทึกวันที่เปลี่ยนกับระยะทางเลขกิโลเมตร เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเปลี่ยนถ่ายครั้งต่อไป ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องสามารถดูสีของน้ำมันหล่อลื่นที่เปลี่ยนไปจากเหลือง กลายเป็นน้ำตาลหรือสีดำ สำหรับน้ำมันหล่อลื่นที่เสื่อมสภาพ รถยนต์จะมีอาการดังต่อไปนี้

เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้น
ดูให้แน่ใจว่าท่อไอเสียไม่ได้รั่วหรือขาดออกจากกัน! 

อัตราเร่งย่ำแย่
กดคันเร่งแล้วรถไม่พุ่งเหมือนเมื่อก่อนแล้วโทษน้ำมันเครื่องว่าเป็นตัวการอาจไม่จริงเสมอไป การที่น้ำมันเครื่องจะเสื่อมสภาพจนทำให้รถวิ่งอืดลงนั้น น้ำมันเครื่องต้องข้นคลั่กจริงๆ เมื่อใช้เกินระยะที่ 17,000 กิโลเมตร กรองน้ำมันเครื่องยังอยู่ในสภาพดี ก็ไม่น่าที่จะทำให้รถวิ่งอืดลงเพราะน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ อาจเกิดจากสาเหตุอื่นมากกว่า 

กินน้ำมัน
เคยขับความเร็วเท่าเดิมบนเส้นทางเดิมแต่มีอัตราสิ้นเปลืองต่างกันมาก ถ้าน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพจนหนืดข้นคลั่กจะทำให้รถกินเชื้อเพลิงมากขึ้น 

สีของน้ำมันเครื่องเปลี่ยน
ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำตาลไหม้ สีดำ หรือสีเหมือนกาแฟเย็น นั่นยิ่งเลวร้ายหนักเพราะน้ำอาจรั่วหลุดรอดเข้าไปผสมกับน้ำมันเครื่องเรียบร้อยไปแล้ว ในปัจจุบัน เทคโนโลยีการวิจัยสารหล่อลื่นเครื่องยนต์ล้ำหน้าไปไกล น้ำมันเครื่องนอกจากจะหล่อลื่นแล้ว ยังทำหน้าที่ชะล้างทำความสะอาดชิ้นส่วนต่างๆ อีกด้วย ลองง่ายๆ แค่เติมน้ำมันเครื่องใหม่ เปลี่ยนไส้กรองใหม่ แล้วสตาร์ตเครื่องยนต์ทิ้งไว้สักครู่ ดับเครื่องแล้วดึงก้านวัดออกมากดู ก็จะเห็นว่าสีของน้ำมันเครื่องนั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้ว วิธีการสังเกตสีของน้ำมันเครื่องจึงใช้ไม่ได้ดี หรือแม่นยำเท่ากับระยะทางที่ใช้งาน

จอดรถนานหลายเดือน
น้ำมันเครื่องจะเสื่อมสภาพลงไปเรื่อยๆ ตามการใช้งานรวมถึงระยะเวลา ถ้าใช้รถน้อย ควรเลือกน้ำมันเครื่องเกรดสูง ที่ช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานได้มากกว่าน้ำมันเครื่องเกรดทั่วไป

เลือกน้ำมันเครื่องแบบไหนดี
การเลือกซื้อน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ที่มีราคาแพงกว่าน้ำมันเครื่องชนิดอื่น ต้องสังเกตให้ดี เนื่องจากปัจจุบัน มีการใช้คำว่า Synthetic บนฉลากน้ำมันเครื่องอย่างแพร่หลาย เช่น Synthetic Technology , Synthetic Performance , Plus Syn , Synthetic Guard , Syntec และ Synthetic Based ข้อความเหล่านี้ ไม่ได้สื่อชัดเจนว่าเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100 % หรือกึ่งสังเคราะห์ จึงควรอ่านฉลากหรือข้อความภาษาไทยประกอบ เพราะบางชนิด เป็นน้ำมันเครื่องธรรมดา แต่ผู้ผลิตใช้คำว่า Synhtetic เพื่อสื่อถึงองค์ประกอบอื่นในน้ำมันเครื่องที่ไม่ใช่ Base Oil อันนี้ต้องระวังให้ดีๆ 

แต่ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันพื้นฐานสังเคราะห์ประเภทใด ควรพิจารณาถึงความจำเป็นที่จะเลือกใช้น้ำมันสังเคราะห์ในการใช้งานด้วย โดยทั่วไปการใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ก็เนื่องจากมีระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายที่นานกว่าน้ำมันเครื่องทั่วไป แต่ก็ควรจะพิจารณาว่าคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายแพงขึ้นหรือไม่ สำหรับการใช้งานจริงในท้องถนนซึ่งรอบและสภาวะการใช้งานเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ก็มีส่วนช่วยได้บ้างเนื่องจากมีความคงตัวสูงกว่า แต่สำหรับการใช้งานในสภาวะปกติและระยะ ทางไม่มากนัก ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ราคาแพงแต่อย่างใดทั้งสิ้น.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/