เกียร์ออโต้ ขับยังไงไม่ให้เกียร์พังเร็ว!

การขับใช้งานรถเกียร์ออโต้ หรือเกียร์อัตโนมัติ เพื่อยืดอายุการใช้งานของชุดส่งกำลังก็ไม่มีอะไรยาก แค่ไม่เร่งออกตัวด้วยความรุนแรง ไม่เปลี่ยนเกียร์บ่อยครั้ง ดูแลของเหลวหล่อลื่นในระบบให้สดใหม่อยู่เสมอ วิธีการขับรถเพื่อถนอมเกียร์ออโต้ ยังมีรายละเอียดย่อยๆ ดังนี้

เดินหน้า ถอยหลัง รถต้องจอดนิ่งอยู่กับที่

การเลื่อนคันเกียร์จาก P ไป D หรือ R มองให้ชัดเจนว่าได้เลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการและถูกต้องเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการเคลื่อนที่โดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อจะเปลี่ยนจากเกียร์ D ไปยังเกียร์ถอย หรือเกียร์ R เหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่งสนิทดีแล้ว ค่อยเลื่อนคันเกียร์ไปยังตำแหน่ง R แล้วค่อยๆ คลายน้ำหนักเท้าขวาจากแป้นเบรกทีละน้อย มือใหม่หากไม่ชำนาญ อย่าถอยหลังโดยใช้คันเร่งถ้าไม่ได้ถอยขึ้นทางเนิน เบรกจนรถอยู่กับที่แล้วค่อยเลื่อนคันเกียร์ อาจไม่ทันอกทันใจ คนใจร้อน แต่การทำให้รถจอดอยู่กับที่แล้วค่อยเปลี่ยนไปเป็นเกียร์ถอยจะช่วยยืดอายุการใช้งานเฟืองเกียร์

อย่าเข้าเกียร์ว่างขณะรถกำลังเคลื่อนที่ 

นักขับหลายคนเข้าใจว่า การเข้าเกียร์ว่างเมื่อวิ่งลงเนินจะช่วยทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง เนื่องจากการปลดเกียร์ว่างในขณะที่รถกำลังเคลื่อนทีด้วยความเร็ว แรงดันน้ำมันเกียร์จะลดน้อยลงเพราะเกียร์ถูกเลื่อนไปยังตำแหน่ง N ชิ้นส่วนของเกียร์ที่ยังคงหมุนอยู่ แต่มีน้ำมันหล่อลื่นน้อยลงทำให้เกิดการสึกหรอ ไม่เป็นผลดีในระยะยาวกับการทำงานของเกียร์ รถยนต์รุ่นใหม่ราคาแพง จะมีระบบปล่อยคลัตช์เมื่อผู้ขับยกคันเร่ง ทำให้รถไหลต่อเนื่องโดยไม่มีการจ่ายเชื้อเพลิง หรือมีการฉีดจ่ายเชื้อเพลิงในรอบเดินเบา แต่ระบบดังกล่าวจะเสริมการทำงานของปั๊มแรงดันน้ำมันหล่อลื่นในระบบเกียร์ ทำให้ไม่เกิดปัญหาดังกล่าว ส่วนรถที่ไม่มีระบบนี้  แค่ยกคันเร่งก็พอ ไม่ต้องถึงกับเลื่อนไปตำแหน่งเกียร์ว่างเมื่อวิ่งลงทางเนินยาวๆ

อย่าขับแบบลากเกียร์ 

ปกติ เกียร์อัตโนมัติในตำแหน่ง D จะมี ECU หรือสมองกลไฟฟ้าคอยควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ให้มีความเหมาะสมกับสปีดความเร็วนั้นๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นนักขับที่ชอบซน ผลักคันเกียร์ออโต้ไปที่ตำแหน่งแมนนวลเพื่อเปลี่ยนเกียร์เองแทนการตัดสินใจของ electronic control unit เพื่อหวังผลในด้านอัตราเร่งและความสนุกเมื่อสามารถลากรอบเครื่องยนต์เข้าสู่ย่านสูงอย่างต่อเนื่อง การขับในลักษณะดังกล่าวจะทำให้คลัตช์สึกหรออย่างรวดเร็ว เนื่องจากผ้าคลัตช์ ต้องทำงานอย่างหนักจากการขับแบบมอเตอร์สปอร์ต 

ไม่เร่งแซงหรือคิกดาว์นต่อเนื่องเป็นประจำ

ไม่ควรขับแบบคิกดาวน์บ่อยๆ เครื่องยนต์และเกียร์ต้องทำงานอย่างหนักเมื่อคุณขับแบบเร็วจี๋ แซงทุกอย่างที่ขวางหน้า เกียร์อาจไม่พังทันตาเห็น แต่การขับในลักษณะดังกล่าวบ่อยครั้ง ก็ทำให้ระบบเกียร์เกิดการสึกหรอมากกว่าการขับปกติ ยิ่งน้ำมันเกียร์ไม่ค่อยอยากจะเปลี่ยนด้วยแล้ว พอเกียร์มีอุณหภูมิการทำงานสูงขึ้นก็จะสึกหรอเร็วขึ้นเป็นเงาตามตัว ขับแบบเรื่อยๆ ค่อยๆ ไป ไม่เปลี่ยนเกียร์เล่น หรือใช้รอบเครื่องสูงต่อเนื่องยาวนานบ่อยครั้ง เครื่องกับเกียร์จะอยู่รับใช้ไปนานแสนนาน แถมยังถูกกฎจราจรและทำให้ปลอดภัยอีกด้วย

เปลี่ยนถ่ายของเหลวหล่อลื่นระบบเกียร์ทุกๆ 40,000 กิโลเมตร 

การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะทางการใช้งานที่ถูกต้อง จะช่วยยืดอายุการใช้งานของชุดส่งกำลังราคาแพง ไม่มีเกียร์เทพลูกไหนที่ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตลอดอายุการใช้งาน การเคลมมาว่า เกียร์ลูกนี้ เป็นระบบปิด เปลี่ยนถ่ายของเหลวไม่ได้ เหมือนรอฟันลูกค้า หรือทำให้ลูกค้าที่ต้องใช้รถยาวนานเป็นสิบไปไปเจอเข้ากับปัญหาเกียร์พังหลังหมดการรับประกันชิ้นส่วน การเคลมว่าไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ เพื่อหวังขายอะไหล่ชิ้นส่วนเกียร์ที่เสียหายจากการใช้งาน จากการที่ไม่เคยมีการเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นมากกว่า ก็ได้แต่คิดว่า เมื่อไหร่กันนะ บริษัทรถยนต์จะเลิกเคลมแบบเห็นแก่ได้ซะที และที่เห็นๆ มา เกียร์จะพังเมื่อหมดการรับประกัน หรือพังเมื่อมีระยะทางเกิน 100,000 กิโลเมตร หรืออาจน้อยกว่านั้น บางคันที่พังถูกซื้อมาเป็นรถมือสอง ตอนถอดเกียร์ออกมาเปลี่ยนชิ้นส่วนหรือซ่อมแซม น้ำมันเกียร์ที่ไม่เคยเปลี่ยน จากที่มีสีแดงทับทิมกลายเป็นของเหลวข้นคลั่กคล้ายช็อกโกแลตเลยทีเดียว 

ตำแหน่งเกียร์อัตโนมัติ
P เกียร์จอดแบบเข็นไม่ได้
N เกียร์ว่าง รถสามารถเข็นได้ ใช้จอดเมื่อต้องจอดรถบังทางออกรถคันอื่น
D เกียร์ขับเคลื่อนเดินหน้า
D1 - D2 หรือ L เกียร์ต่ำใช้ขับลงทางลาดชัน หรือทางขึ้นลงเขาสูงชัน

อย่าใส่เกียร์ P แล้วจอดทิ้งเอาไว้โดยไปกีดขวางทางออกของรถคันอื่น

ติดไฟแดงนานๆ เลื่อนไป N แล้วขึ้นเบรกมือเอาไว้เพื่อความปลอดภัย 

ไม่เปลี่ยนเกียร์เล่นบ่อยครั้ง

ในรถที่มีเครื่องยนต์เล็ก มีเรี่ยวแรงไม่มาก ก็ต้องเผื่อระยะแซงกันมากหน่อย หรือขับแบบไปเรื่อยๆ ไม่ต้องไปไล่แซงใคร สำหรับตำแหน่งเกียร์ต่ำ หรือ เกียร์ L ห้ามโยกคันเกียร์ลงไปยังตำแหน่งนั้น เมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วเกินกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากไม่มีระบบป้องกัน ความเร็วไม่สัมพันธ์กับการเปลี่ยนเกียร์ อาจทำให้เกียร์สึกหรอ หรือได้รับความเสียหายได้.

ผู้เขียน : อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/