- จอดรถไว้นานๆ แม้จะช่วยประหยัดค่าน้ำมันแต่ระวังเครื่องยนต์เสียหายโดยเฉพาะแบตเตอรี่
- หากจอดรถทิ้งไว้ไม่เกินเดือน ไม่จำเป็นต้องถอดขั้วแบตเตอรี่ (สำหรับรถที่อายุแบตเตอรี่ไม่เกิน 1 ปี)
- ถ้าคิดจะจอดรถไว้เฉยๆ เกิน 1 ปี มีหลายขั้นตอนที่ควรทำและหลายความเชื่อที่ไม่ควรทำ
ฟังข่าวทุกวัน ใจคอมันก็ไม่ค่อยดี ยิ่งใครที่ออฟฟิศประกาศให้สามารถ Work From Home ได้ การจะออกไปไหนแต่ละทีเลยยิ่งคิดแล้วคิดอีก รถยนต์ที่เคยเป็นพาหนะคู่ใจ กลายเป็นจอดทิ้งไว้เฉยๆ ซึ่งการจอดทิ้งนานๆ ย่อมไม่เป็นผลดีกับเครื่องยนต์เป็นแน่
คำว่าจอดทิ้งไว้นาน นานแค่ไหนจะเรียกว่านานสำหรับเครื่องยนต์ ถ้าในระยะเวลา 1 สัปดาห์หรือ 1 เดือนอาจเรียกไม่ได้ว่านานจนเกินไป แค่หาเวลาว่างๆ จากการทำงานในบ้าน ออกมาสตาร์ตเครื่องยนต์ครั้งละ 10-15 นาที ทำทุกสัปดาห์ เพื่อให้แบตเตอรี่ชาร์จพลังงานและตรวจดูความเรียบร้อยของรถด้วยว่ามีแมลงแอบลักลอบไปอาศัยในรถหรือเปล่า มีสัตว์อะไรมาอยู่ใต้ท้องรถหรือไม่ ประตูหน้าต่างยังครบไม่แตกไม่เสียหาย
...
อาจมีคำแนะนำเพิ่มเติมในเรื่องของลมยาง หากมั่นใจว่ารถยนต์ของเราจะจอดแน่นิ่งยาวนานแบบไม่คิดจะขับออกไปไหนเร็ววันนี้ ให้เติมลมยางให้มากกว่าปกติเล็กน้อย เช่นเคยเติม 32 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ก็เพิ่มเป็น 34 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
ส่วนถ้าใครจะออกเดินทางไกล ทิ้งรถให้นอนแช่ในโรงรถนานเกินปีเป็นต้นไป อาจต้องมีการเตรียมการสำหรับรถที่รักอยู่สักหน่อย เช่น ดูพื้นที่จอดรถไม่อยู่ใกล้วัสดุไวไฟ อย่างถังสี น้ำมันหรือกล่องกระดาษ ยิ่งถ้าที่บ้านมีหนูหรืองูมาเยี่ยมบ่อยๆ ควรใช้สเปรย์ไล่หนูฉีดรอบคันรถเน้นหนักที่ห้องเครื่อง ตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก หม้อน้ำ ให้มีปริมาณสูงสุดตามขีดที่กำหนด แล้วหาผ้ามาคลุมรถ เป็นอันจบ
ความเชื่อที่ส่งทอดต่อกันมาว่า การจอดรถไว้นานควรแง้มหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเท ซึ่งอันนี้ควรคำนึงถึงอสรพิษที่จะเห็นรถของเรากลายเป็นบ้านในช่วงที่เราไม่อยู่แทน และการบอกให้ใช้แม่แรงยกล้อทั้ง 4 ล้อให้ลอยจากพื้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าไม่ควรทำ เพราะมีผลกับระบบสปริงโช้ค แค่เติมลมยางให้มากกว่าที่เคย แต่คงต้องมากกว่าที่บอกไว้ข้างต้น เช่นจากที่เติม 32 ปอนด์ อาจต้องเพิ่มเป็น 40-50 ปอนด์ เพื่อรักษารูปทรงโครงสร้างยาง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
การดูแลแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ที่ไม่ได้ขับเกิน 1 ปี ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
1. ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกทั้งขั้วบวกและลบ เพื่อเป็นการถนอมแบตเตอรี่ให้ยังมีประจุไฟฟ้าเหลืออยู่ เพราะนอกจากประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่จะลดลงหากไม่ได้สตาร์ตรถนานแล้ว ยังมีโอกาสเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วได้
2. เมื่อถอดขั้วลบออกมา ฝั่งสายไฟตัวรถควรใช้ผ้าพันไว้ ป้องกันไม่ให้สายไฟขั้วลบกระทบตัวถังที่เป็นเหล็ก
3. เช็ดส่วนบนของแบตเตอรี่และขั้วให้สะอาดไม่มีฝุ่นหรือคราบน้ำมันติด เพื่อป้องกันประจุไฟฟ้ารั่วผ่านความชื้นบนเปลือกและฝาของแบตเตอรี่
เมื่อวันที่เราจะใช้งานรถยนต์อีกครั้ง ต่อขั้วแบตเตอรี่ให้เรียบร้อย ตรวจสอบลมยางว่าอยู่ในระดับที่สมควรหรือไม่ ถ้าลมยางยังแข็งอยู่ ปล่อยลมยางออก จากนั้นสตาร์ตวอร์มเครื่องยนต์ประมาณ 15 นาที เพื่อให้น้ำมันเครื่องและน้ำมันส่วนอื่นๆ ไปเคลือบเครื่องยนต์อย่างทั่วถึง
ผู้เขียน : เครื่องยนต์คนขยัน