• รวมข้อแนะนำในการใช้ไฟหน้าขณะขับรถในภาวะทัศนวิสัยไม่ดี
  • หลายคนอาจเพิ่งรู้ว่า ห้ามเปิดไฟฉุกเฉินวิ่งกลางฝน เพราะยิ่งเพิ่มโอกาสเกิดอุบัติเหตุ 
  • เทคนิคใช้ไฟสูงให้เป็น โดยขับขี่ปลอดภัยมองทางชัดเจนและรถคันข้างเคียงไม่โมโหโกรธา

ระบบส่องสว่างหรือไฟหน้า ช่วยเพิ่มการมองเห็นเมื่อขับท่ามกลางสภาพแสงที่ลดต่ำลงไปเรื่อยๆ เช่น ในช่วงฝนตก มีหมอกลงจัด หรือขับตอนกลางคืนบนถนนที่ปราศจากแสงไฟส่องทาง แสงจากไฟหน้ารถ ต่อให้มีกำลังในการส่องสว่างสูง หรือเป็นไฟ LED รุ่นใหม่ ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติก็ตาม เมื่อขับในสภาวะที่ยากต่อการมองเห็น ไฟหน้าของรถจะช่วยเปิดมุมมองได้บ้างไม่มากก็น้อย เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยทำให้สามารถสังเกตการณ์ได้ดีขึ้น นอกจากนั้น ไฟหน้ายังช่วยแจ้งตำแหน่งรถของคุณให้กับรถคันอื่นได้รับรู้ สำหรับข้อแนะนำในการใช้ไฟหน้าขณะขับรถในภาวะทัศนวิสัยไม่ดี มีดังต่อไปนี้ 

...

อย่าติดฟิล์มที่กระจกบังลมบานหน้า

ไม่ควรติดฟิล์มกันแดดที่กระจกบังลมบานหน้า เนื่องจากฟิล์มจะทำให้การมองเห็นด้อยลงไปมาก โดยเฉพาะตอนก่อนค่ำ ฝนตก หรือมีหมอกควันปกคลุม การมองที่ย่ำแย่ แม้ไฟหน้าจะแรงจัด อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการมองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัดเจน การกรองแสงของฟิล์มกันแดดไม่ได้กรองเฉพาะตอนที่มีแดด เมื่อแสงแดดหมด ฟิล์มหน้าจะยิ่งทำให้ภายในห้องโดยสารมืดมากกว่าเดิม 

เปิดไฟต่ำ

เปิดไฟทันทีที่เห็นว่าทัศนวิสัยไม่ดี อาจขับผ่านถนนในขณะที่ฟ้าหลัวครึ้ม ฝนตกหนัก หมอกลงจัดหนาทึบ ขับในช่วงเช้า หรือในช่วงพลบค่ำที่แสงค่อยๆ หมดลงไปเรื่อยๆ ปัจจุบัน รถยนต์ส่วนใหญ่มีระบบเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ แต่ถ้ารถที่คุณขับใช้งานไม่มีระบบนี้ ก็ใช้การสังเกตเอาว่า เมื่อเริ่มจะมีแสงน้อยลงก็ควรที่จะเปิดไฟหน้าได้แล้ว การเปิดไฟถือเป็นการทำตามกฎหมายจราจรที่กำหนดเอาไว้ เมื่อเริ่มมองไม่เห็นรถหรือสิ่งต่างๆ บริเวณข้างทางได้อย่างชัดเจนในระยะ 150 เมตร ให้เปิดไฟหน้าทันที 

...

ใช้ปัดน้ำฝนควบคู่ไปกับการเปิดไฟหน้า

เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ที่ปัดน้ำฝน สำหรับรถที่ไม่มีระบบเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ ก็ควรจะเปิดไฟหน้าทุกครั้ง (ห้ามเปิดไฟฉุกเฉินวิ่งกลางฝน) การปฏิบัติอย่างนี้ถือเป็นสูตรมาตรฐานสากล เพราะเมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ที่ปัดน้ำฝนแล้ว นั่นหมายความว่า ทัศนวิสัยข้างหน้าเริ่มย่ำแย่ลงมาเรื่อยๆ ก็ให้เปิดไฟหน้า และใช้ไฟเลี้ยวเมื่อจะเปลี่ยนช่องทางทุกครั้ง แต่ห้ามกดใช้งานไฟฉุกเฉินหรือไฟผ่าหมากเด็ดขาด! การเปิดไฟผ่าหมากขับท่ามกลางฝนตก การเปิดไฟฉุกเฉินแล้ววิ่งท่ามกลางสายฝน จะทำให้รถคันอื่นเกิดความสับสนจนอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ เมื่อขับผ่านทางร่วมทางแยก! 

...

ใช้ไฟสูงให้เป็น

อย่ายกไฟสูงสาดใส่รถที่แล่นสวนมาขณะหมอกลงจัด เพราะถนนที่มีหมอกลงหนาทึบจะยิ่งทำให้เกิดเงาสะท้อนที่ยากต่อการมองเห็น ซึ่งจะส่งผลให้การสังเกตการณ์ของรถร่วมทางแย่ลงไปด้วย ทางที่ดี ถ้าไม่รีบจนเกินไป รอให้หมอกจางลงแล้วค่อยออกเดินทาง จะปลอดภัยมากกว่านะครับ

กะพริบไฟสูงเพื่อแจ้งเตือนรถที่แล่นสวนทางมา

...

ขับรถตอนกลางคืนบนถนนที่ปราศจากแสงไฟ ควรกะพริบไฟสูงหนึ่งหรือสองครั้ง เพื่อแจ้งเตือนรถที่กำลังแล่นสวนมาในระยะไกล ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบอกตำแหน่งของรถคุณให้กับรถที่กำลังขับสวนทางมา แต่ยังอยู่ห่างไกล ให้ได้รับรู้ตำแหน่งของรถคุณ แต่ไม่ควรยกไฟสูง หรือกะพริบไฟเมื่อมีรถแล่นเข้ามาใกล้ 

สังเกตเส้นแบ่งช่องทาง

ในกรณีที่เกิดหมอกลงจัด หรือฝนตกหนักจนยากต่อการมองเห็น แล้วมีความจำเป็นที่จะต้องขับรถ สิ่งที่ช่วยคุณได้มากก็คือ เส้นแบ่งถนน เส้นขอบทาง แถบสะท้อนตาแมว ทิ้งระยะห่างให้มีความปลอดภัยและมีระยะมากพอที่จะเบรกได้ทัน รักษาระดับความเร็วที่คิดว่าปลอดภัยที่สุดเอาไว้ ถ้าเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้แตรเป็นครั้งคราวเพื่อแจ้งเตือน ก็ไม่ควรลังเลที่จะใช้เสียงแตรแจ้งเตือน แตรเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการสังเกตการณ์ได้เหมือนกัน

การสังเกตการณ์เมื่อขับรถในตอนกลางคืน เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าด้อยกว่ากลางวันมาก ไม่ว่าจะเป็นรถที่คุณขับ หรือรถร่วมทาง ระบบส่องสว่างแบบใหม่ที่ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ ในรถยนต์ราคาแพง มีกำลังในการส่องไกล 500-600 เมตร เมื่อเซนเซอร์ตรวจพบว่ามีรถแล่นสวนทางมา ระบบไฟอัตโนมัติก็จะลด หรือเบี่ยงเบนลำแสง เพื่อไม่ให้ไปแยงตารถคันอื่นจนทำให้มองไม่เห็น

ในจังหวะที่ไฟอัตโนมัติกำลังทำงาน ด้วยการลดไฟสูง พร้อมๆ ไปกับมีแสงไฟจากรถที่แล่นสวนทางมา อาจทำให้คุณตาพร่า มองไม่เห็น หรือมองไม่ชัดเจน ควรลดความเร็วลงมาให้สอดคล้องกับการมอง เพราะถ้าระบบไฟอัตโนมัติทำการลดไฟหรือเบี่ยงเบนลำแสง ในจังหวะนั้น การมองไปข้างหน้าโดยเฉพาะบริเวณที่รถแล่นสวนมาจะยิ่งทำให้มองไม่เห็น คุณอาจเจอเข้ากับมอเตอร์ไซค์ไม่มีไฟท้าย หมา หรือรถบรรทุกที่จอดอยู่บนไหล่ทางแล้วไม่มีการแจ้งเตือนด้วยแสงไฟ ซึ่งอันตรายและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้นเป็นเท่าตัว 

อย่างที่บอกว่าการขับรถตอนกลางคืน หรือขับท่ามกลางภาวะที่ยากต่อการสังเกตการณ์ ไม่ว่าจะเป็นรถของคุณหรือของผู้ร่วมทาง คุณต้องคำนึงถึงการมองเห็น ซึ่งมีความสำคัญสูงสุด ไม่ควรติดฟิล์มกันแดดที่กระจกบังลมบานหน้า กระจกควรได้รับการทำความสะอาด คุณอาจแวะปั๊มข้างทางเพื่อเช็ดคราบแมลง เปิดทัศนวิสัยการมองให้ชัดเจน รวมถึงความสะอาดของโคมไฟหน้าและไฟท้าย ที่ต้องได้รับการชำระล้างเมื่อขับผ่านกลุ่มฝนซึ่งทำให้เกิดความสกปรก การขับรถตอนกลางคืน สายตาของคุณต้องทำงานหนักมากกว่าตอนกลางวัน ส่งผลให้เกิดความอ่อนล้ามากกว่าการขับรถในเวลาที่มีสภาพแสงปกติ.


ผู้เขียน : อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/