• รวมเทคนิคหมุนพวงมาลัยรถยนต์แบบถูกต้อง ปลอดภัยไร้อุบัติเหตุแน่นอนถ้าทำตามอย่างเคร่งครัด
  • อธิบายละเอียดแม้กระทั่งตำแหน่งการจับพวงมาลัยขณะขับขี่ ซึ่งมีอยู่ 2 แบบด้วยกันตามหลักสากล
  • ปิดท้ายด้วย How to จับพวงมาลัยขณะถอยรถที่บางคนอาจจะงง เพราะทิศทางมันกลับกันกับการขับขี่ไปด้านหน้า

พวงมาลัยคืออุปกรณ์บังคับทิศทางของรถ เพื่อทำให้รถวิ่งไปตามทิศทางที่ต้องการ และเมื่อถึงคราวจำเป็นที่จะต้องหลบหลีกแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นตรงหน้าให้มีความปลอดภัย การจับพวงมาลัยที่ถูกต้องทำให้การเปลี่ยนทิศทางกะทันหันมีความรวดเร็วฉับไว ทันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า อุบัติเหตุมากมาย เกิดขึ้นจากการที่ผู้ขับไม่สามารถใช้พวงมาลัยแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นขณะขับรถใช้ถนน เมื่อจับพวงมาลัยถูกต้องที่ตำแหน่ง 9 และ 15 นาฬิกาแล้ว การหมุนพวงมาลัยที่ถูกหลักเพื่อเปลี่ยนทิศทาง เลี้ยวโค้ง หรือเลี้ยวกลับรถ (ยูเทิรน์) จะช่วยลดอุบัติเหตุได้ เป็นการขับรถในเชิงป้องกัน ด้วยการจับและหมุนพวงมาลัยที่ถูกต้อง

...

ตำแหน่งของการจับพวงมาลัยที่ 10 และ 14 นาฬิกา (มือซ้ายอยู่ที่ตำแหน่ง 10 นาฬิกา มือขวาอยู่ที่ตำแหน่ง 14 นาฬิกา) การจับพวงมาลัยในลักษณะดังกล่าว เหมาะกับรถที่มีพวงมาลัยเล็กกะทัดรัด ส่วนใหญ่อยู่ในรถสปอร์ต หรือรถแข่ง นี่คือการจับพวงมาลัยสไตล์โบราณที่ใช้งานได้จริง 

ส่วนการจับพวงมาลัยที่ตำแหน่ง 9 และ 15 นาฬิกา (มือซ้ายอยู่ที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา มือขวาอยู่ที่ตำแหน่ง 15 นาฬิกา) เหมาะกับพวงมาลัยวงโต หรือพวงมาลัยในรถยนต์ทั่วไป ทั้งรถขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมถึงรถบรรทุก เนื่องจากการจับในตำแหน่ง 10 และ 14 นาฬิกา ทำให้ไหล่ของผู้ขับหลุดจากพนักพิงหลัง ช่วงแผ่นหลังจะไม่แนบสนิทกับพนักพิง อาจตามมาด้วยอาการปวดหลังเมื่อขับทางไกล การจับที่ตำแหน่ง 9 และ 15 นาฬิกา น่าจะเหมาะสมที่สุดสำหรับการควบคุมทิศทาง

สำหรับเทคนิคของการหมุนพวงมาลัย สำหรับการขับในเชิงป้องกันอุบัติเหตุล่วงหน้า ในสถานการณ์ปกติ มีการหมุนอยู่สองรูปแบบก็คือ แบบ ดึง-ดัน (pull-push steering) และแบบคล่อมแขน หรือ (hand-over-hand) ทั้งสองแบบเป็นการหมุนพวงมาลัยในระบบสากล และเป็นแบบที่ถูกต้อง ให้ความคล่องตัวและควบคุมทิศทางของรถได้ดีที่สุด 

การหมุนพวงมาลัยแบบ ดึง-ดัน (pull-push steering)

เทคนิคของการหมุนพวงมาลัยในลักษณะนี้ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมทิศทาง รถจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนทิศทางอย่างนิ่มนวล ผู้ขับที่ใช้การหมุนแบบดึง-ดัน มีความมั่นใจในการควบคุมรถไปตามทิศทางที่ต้องการ ให้ความรู้สึกว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างแท้จริง ด้วยวิธีการหมุนพวงมาลัยแบบดึง-ดัน มือทั้งสองจะต้องอยู่บนพวงมาลัยตลอดเวลา สอดคล้องกับเทคนิคของการจับพวงมาลัยดังที่ได้กล่าวเอาไว้ข้างต้น การหมุนพวงมาลัยแบบดึง-ดัน มือทั้งสองข้างจะทำหน้าที่สลับกัน ระหว่างการดึงและการดัน คือไม่ดึงหรือดันไปพร้อมๆ กันทั้งสองมือ เมื่อจะเลี้ยวขวา ให้เลื่อนมือรูดผ่านวงพวงมาลัยขึ้นมาหาตำแหน่ง 12 นาฬิกา หรือประมาณ 12.30-13.00 นาฬิกา

เมื่อทำในลักษณะดังกล่าว ก็เพื่อให้ได้วงเลี้ยวที่กว้างขึ้น จากนั้นมือขวาก็ดึงพวงมาลัยมาสู่ตำแหน่ง 18 นาฬิกา และพบกับมือขวาที่จุดนัดหมาย ณ ตำแหน่ง 18 นาฬิกา หากวงเลี้ยวยังไม่พอตามที่ต้องการ มือซ้ายจะดันพวงมาลัยจากตำแหน่ง 18 นาฬิกา ขึ้นไปหาที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา มือขวาจะรูดขนานไปกับมือซ้าย ไปสู่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาเช่นเดียวกัน ไม่ควรปล่อยให้พวงมาลัยหมุนฟรีแบบตีกลับ ถ้าคุณทำให้พวงมาลัยหมุนฟรีในระหว่างการตั้งลำให้ตรง แสดงว่ารถเป็นผู้ควบคุมทิศทาง ไม่ใช่คุณที่กำลังควบคุม! 

...

วิธีการคืนพวงมาลัยก็คล้ายกับการหมุนพวงมาลัยเลี้ยวขวา เพียงแต่ทำกลับทางกัน เพราะการคืนพวงมาลัยหลังจากการหมุนเพื่อเลี้ยวขวา ก็คือการหมุนพวงมาลัยเลี้ยวซ้ายนั่นเอง เมื่อได้ทิศทางหรือเลี้ยวไปทางขวาตามที่ต้องการแล้ว ใช้มือขวาดันไปจนสุดที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ใช้มือซ้ายดึงมาอยู่ที่ตำแหน่ง 18 นาฬิกา กลับทางกับการหมุนพวงมาลัยเลี้ยวขวาดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ถ้าจะเลี้ยวไปทางซ้าย ก็ทำเช่นเดียวกับการหมุนพวงมาลัยเลี้ยวขวา เพียงแต่สลับหน้าที่ของมือ คือ จากขวาดึง ซ้ายดัน มาเป็น ซ้ายดึง ขวาดันแทน บางครั้งก็อาจหมุนพวงมาลัยนิดหน่อย ไม่ถึงกับต้องหมุนรอบกันแบบเต็มวง ก็สามารถเคลื่อนไปยังทิศทางที่ต้องการได้ 

...

ใช้วิธีรูดมือผ่านพวงมาลัยเท่านั้น ห้ามยกจับ เพื่อทำให้แน่ใจได้ว่า เมื่อใดก็ตามที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น คุณจะสามารถจับพวงมาลัยได้อย่างมั่นคงในทันทีทันใด การจับแบบสบายๆ นั้นช่วยทำให้การขับมีความผ่อนคลาย แต่ก็ต้องเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากอุบัติเหตุนั้นมักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ ทั้งสิ้น การเตรียมความพร้อมด้วยสมาธิที่มั่นคงจดจ่ออยู่กับการควบคุมรถจะช่วยทำให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้

...

การหมุนพวงมาลัยแบบคล่อมแขน (hand-over-hand)

การหมุนพวงมาลัยแบบคล่อมแขน ผู้คนทั่วไปมักนิยมใช้กัน เพราะให้ความสะดวก แถมยังได้วงเลี้ยวที่กว้างกว่าอีกด้วย สำหรับการขับรถในเชิงป้องกันอุบัติเหตุ มีข้อกำหนดที่ใช้ในขอบเขตค่อนข้างจำกัด และเหมาะสมกับบางกรณีเท่านั้น เช่น การเลี้ยวที่มีมุมเลี้ยวมากกว่า 120 องศา การเลี้ยวกลับลำแบบยูเทิรน์ หรือกับมุมหักซึ่งบริเวณวงเลี้ยวค่อนข้างแคบ หรือในกรณีที่ขับเข้าออกจากที่จอดรถด้วยความเร็วต่ำ การหมุนพวงมาลัยแบบคล่อมแขน มีข้อเสียอยู่หลายอย่าง เช่น มือซ้ายและมือขวาจำเป็นต้องไขว้กัน บางช่วงต้องจับพวงมาลัยด้วยมือแค่ข้างเดียว

ข้อดีของการหมุนแบบคล่อมแขนก็คือ ทำวงเลี้ยวได้อย่างรวดเร็วและสนุกกว่าการหมุนแบบอื่น การหมุนพวงมาลัยในลักษณะคล่อมแขน มีหลายอย่างที่ขัดแย้งกับการหมุนพวงมาลัยแบบดึง-ดัน เช่น มือซ้ายและมือขวาข้ามตำแหน่ง 12 และ 18 นาฬิกา อันเป็นข้อห้ามของการหมุนพวงมาลัยในแบบดึง-ดัน ต่อมาก็คือ ยอมให้มีการยกจับแทนการรูดผ่านมือแบบดึง-ดัน ดังนั้นก่อนที่จะใช้การหมุนแบบคล่อมแขน จะต้องแน่ใจว่าปลอดภัยจริงๆ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแก้ใขสถานการณ์ฉุกเฉินแบบฉุกละหุก ขณะกำลังหมุนพวงมาลัย

วิธีหมุนพวงมาลัยแบบคล่อมแขน เริ่มต้นด้วยมือข้างใดข้างหนึ่ง ดันพวงมาลัยให้ผ่านจุด 12 นาฬิกา ไปจนถึงตำแหน่ง 9 หรือ 14 นาฬิกา แล้วใช้มืออีกข้างข้ามไปจับพวงมาลัยอีกด้าน ในตำแหน่ง 10 นาฬิกา หรือ 14 นาฬิกา และหมุนตามไปในทิศทางเดียวกัน สมมติว่าคุณจะเลี้ยวขวามุมหักศอก คุณจะต้องเริ่มต้นด้วยการลดมือซ้ายลงมาที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา แล้วดันไปทางขวา ผ่านจุด 12 นาฬิกา ไปจนถึงตำแหน่ง 14 นาฬิกา ขณะเดียวกัน ใช้มือขวาคล่อมแขนซ้าย ไปจับพวงมาลัยที่ตำแหน่ง 10 นาฬิกา แล้วดึงไปทางขวา การคืนพวงมาลัย ก็ทำในลักษณะเดียวกัน แต่กลับทิศทางกันก็คือ ลดมือขวามาที่ตำแหน่ง 15 นาฬิกา แล้วดันไปทางซ้ายจนถึงตำแหน่ง 10 นาฬิกา ยกมือซ้ายคล่อมแขนขวาไปจับพวงมาลัยประมาณ 14 นาฬิกา แล้วดึงไปทางซ้าย อย่าลืมว่าวิธีหมุนพวงมาลัยแบบคล่อมแขนนั้นใช้ได้ในวงจำกัด และก่อนจะใช้วิธีหมุนแบบคล่อมแขนต้องแน่ใจว่าปลอดภัยจริงๆ ไม่ต้องแก้ใขสถานการณ์ฉุกเฉิน 

การใช้พวงมาลัย ขณะขับถอยหลัง 

สมัยก่อน การขับรถถอยหลัง ต้องใช้เทคนิคการมองข้ามไหล่ และบางครั้งคุณจำเป็นที่จะต้องยึดพนักเบาะด้านซ้าย เพื่อทำให้ลำตัวตรง เพราะฉะนั้นการหมุนพวงมาลัยด้วยมือทั้งสองข้าง จะทำไม่ได้ในช่วงนี้ แต่ในปัจจุบัน รถยนต์สมัยใหม่มีตัวช่วยมากมาย ทั้งระบบถอยจอดอัตโนมัติ กล้องมองหลังหรือมองรอบทิศทาง เซนเซอร์แจ้งเตือนการถอยเข้าไปใกล้กับวัตถุกีดขวาง เราสามารถใช้มือทั้งสองข้างจับพวงมาลัยรถขณะขับถอยหลัง ค่อยๆยกเท้าออกจากแป้นเบรก ปล่อยให้รถไหลถอยหลังไปช้าๆ ขยับพวงมาลัยเท่าที่จำเป็นเมื่อถอยตรงๆ เพื่อควบคุมทิศทางการถอยให้เป็นไปตามความต้องการ การขับรถถอยหลังก็แค่จับพวงมาลัยในตำแหน่ง 9 และ 15 นาฬิกา

แต่ในบางกรณี ไม่จำเป็นจะต้องจับพวงมาลัยทั้งสองมือ หรือหมุนพวงมาลัยแบบดึง-ดัน ให้หมุนพวงมาลัยแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะการใช้พวงมาลัยขณะขับถอยหลัง จะกลับทิศทางกับการหมุนพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวรถไปข้างหน้า ถ้าถอยบนทางราบ ไม่ควรกดคันเร่งขณะขับถอยหลัง ถอยช้าๆ ด้วยการยกเท้าออกจากแป้นเบรกทีละนิด แต่ยังคงคาเท้าเอาไว้บนแป้นเบรก เพื่อทำให้สามารถใช้เบรกหยุดรถได้อย่างรวดเร็วหากเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือมีอะไรมาขวางทิศทางขณะกำลังขับถอยหลัง. 


ผู้เขียน : อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/