คำแนะนำจากกรมการขนส่งรัฐฟลอริดา ในโครงการ Put It Down

1.อย่าใจลอย
ตั้งใจและจดจ่อกับการขับอย่างเต็มที่ อย่าให้สิ่งอื่นมาเบี่ยงเบนความสนใจของคุณ
ใช้สายตาจดจ่ออยู่กับถนนข้างหน้า มองให้ทั่วและมองให้ไกล สลับกับมองกระจกหลังและกระจกมองข้าง

2.มองให้ทั่ว
สังเกตการณ์รอบๆ ตัวขณะขับขี่ หากขับในเมืองในเขตที่มีโรงเรียนหรือมีผู้คนพลุกพล่าน ให้ระวังคนเดินบนถนน จักรยาน มอเตอร์ไซค์ สัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขหรือแมวที่อาจวิ่งตัดหน้า

...

3.ไม่บ้าสมบัติ
เก็บอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ และสิ่งของต่างๆ ที่อาจกลิ้งไปมารบกวนการขับขี่ได้ และเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเอื้อมไปหยิบสิ่งของเหล่านั้นที่เบาะนั่งหรือหล่นไปที่พื้น ไม่บ้าสมบัติขนของจำนวนมากมายัดใส่ห้องโดยสาร สิ่งของต่างๆ เหล่านี้จะเป็นตัวดึงสมาธิของการขับขี่แบบไม่รู้ตัว

4.นั่งผิดชีวิตเปลี่ยน
ปรับที่นั่ง และอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนเริ่มเดินทาง รวมถึงตั้งระบบต่างๆ บนรถของคุณให้เรียบร้อย การนั่งขับแบบรถสปอร์ต เล่นยืดเบาะจนแขนตึงขาเหยียดเป็นท่านั่งที่อันตราย หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินท่านั่งแบบนอนขับจะไม่สามารถควบคุมพวงมาลัยเพื่อหักหลบอย่างรวดเร็วได้เลย ปรับตั้งเบาะให้แขนหย่อนพอสมควร ไม่ใช่ต้องยืดแขนจนสุดเพื่อควบคุมการเลี้ยวซึ่งเป็นท่าที่ผิด รวมถึงช่วงขาก็ต้องไม่ตึงเกินไป ปรับตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนออกรถ เช่น จีพีเอส เบาะนั่ง กระจกมองข้างและมองหลัง อุณหภูมิภายในห้องโดยสาร และระบบเครื่องเสียงก่อนออกเดินทาง ศึกษาเส้นทางให้ดีๆ และตรวจสอบสภาพการจราจรล่วงหน้าก่อนการเดินทาง

5.รองเท้าแตะไม่ควรใส่ขับรถ
แต่งตัวและจัดการดูแลตัวเองให้เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่ที่บ้าน โดยเฉพาะรองเท้าที่ใช้ใส่ขับรถควรเป็นรองเท้าหุ้มส้นหรือรองเท้ากีฬา ไม่ควรใส่รองเท้าแตะหรือรองเท้าส้นสูงขับรถเนื่องจากการสลับขาจากคันเร่งไปที่เบรกจะไม่มีความแน่นอนเท่ากับการใส่รองเท้ากีฬาขับรถ

6.อย่าขับแบบลากยาว 
ทานอาหารให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง ไม่ควรรับประทานขณะขับขี่ หากขับทางไกลให้จอดพักทุกๆ 120 กิโลเมตร ไม่ควรขับแบบลากยาวไม่พักไม่หยุด ยิ่งขับนานเท่าไหร่ก็จะยิ่งอ่อนเพลียมากเท่านั้น จอดพักดื่มน้ำผลไม้ ล้างหน้าล้างตา สูดอากาศ แล้วค่อยขับต่อ โดยเฉพาะเมื่อรู้ตัวว่าเริ่มง่วง ควรจอดพักทันทีไม่ใช่ขับต่อไปจนหลับในแล้วไปประสานงากับรถคันอื่น

...

7.จัดที่ทางให้หมาแมวที่ไปด้วยกัน
ดูแลความปลอดภัยของเด็กและสัตว์เลี้ยงก่อนออกเดินทาง หากเด็กหรือสัตว์เลี้ยงต้องการการดูแลจากคุณขณะขับรถ คุณควรหาที่จอดข้างถนนที่ปลอดภัยก่อนหันไปดูแล การเคลื่อนตัวไปเบาะหลังอาจทำให้คุณสูญเสียการควบคุมรถได้

8.ขับทางไกลมีเพื่อนไปด้วยดีกว่าไปคนเดียว
เมื่อขับออกทางไกล การขับคนเดียวอาจทำให้รู้สึกง่วงนอน เมื่อคุณมีผู้โดยสารนั่งมาด้วยก็สามารถขอความช่วยเหลือ เช่น หยิบโน่นนี่นั่น ดูเนวิเกเตอร์หรือแผนที่เพื่อให้มีสมาธิในการขับขี่อย่างเต็มที่ไม่ละสายตาไปจากถนนซึ่งเป็นเรื่องที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ

...

9.จอดคุยโทรศัพท์ดีกว่าขับไปคุยไป
หากมีธุรกิจสำคัญต้องใช้โทรศัพท์ขณะเดินทาง การคุยโทรศัพท์ไปพร้อมๆ กับขับรถไปด้วยแม้จะใช้ระบบแฮนด์ฟรี แต่สมาธิจะถูกดึงออกไปจดจ่ออยู่กับการพูดคุย แทนที่คุณจะรับสายแล้วคุยในระหว่างขับรถ ก็เปลี่ยนมาเป็นจอดรถเข้าข้างทางในที่ที่ปลอดภัย แล้วค่อยคุยธุระให้เสร็จ หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ในระหว่างการขับรถโดยเฉพาะเมื่อใช้ความเร็วสูง

...

10.ประสาทเสียเพราะสิ่งเร้ารบกวนสมาธิควรจอดสักพัก
กฎพื้นฐานคือ เมื่อไม่สามารถจดจ่อกับการขับรถได้อย่างเต็ม ไม่มีสมาธิในการขับเนื่องจากมีสิ่งอื่นๆ คอยรบกวนสมาธิ ก็สมควรที่จะทำธุระต่างๆ ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนออกเดินทาง ไม่ควรทำอะไรก็ตามที่ไม่ใช่การจดจ่ออยู่กับการขับขี่ในขณะอยู่หลังพวงมาลัย ละสายตาเพียงแค่แวบเดียวคุณอาจเกิดอุบัติเหตุรุนแรงแบบที่เป็นข่าวให้เห็นอยู่เสมอ.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/